สรุปตอน บทที่ 1335 ข้าเคยเจอมาก่อน – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 1335 ข้าเคยเจอมาก่อน ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เวลาหนึ่งชั่วยามผ่านไปอย่างรีบร้อน
ทางด้านผู้อาวุโสฮวาเฟิงยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น
นอกจากคิ้วของเขาที่ขมวดแน่นขึ้น และความกังวลที่เพิ่มขึ้นในแววตา
ค่ายกลที่ระดับปรมาจารย์ทิ้งเอาไว้ บนค่ายกลนี้เต็มไปด้วยความเป็นไปไม่ได้
ตอนนี้เขาเพียงยังหวังว่า ตัวเองจะสามารถหาจุดบกพร่องของค่ายกลนี้ให้เจอ พวกเขาทั้งหลายคนร่วมมือกัน ก็ยังพอจะมีความหวังริบหรี่
แม้ว่าผู้อาวุโสคนอื่นจะรออย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ไม่กล้าเร่งเร้า ทำได้เพียงรออยู่อย่างเงียบๆ
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองอยู่สักพัก แต่ไม่ว่าอย่างใดก็นึกไม่ออก นอกจากนี้นางจ้องมันเป็นเวลานานจนรู้สึกปวดหัวแล้ว ดังนั้นจึงเบนสายตาออกมา
ค่ายกลนี้มีขนาดใหญ่มาก ลวดลายที่อยู่บนนั้นสลับซับซ้อนอย่างยิ่ง
นางแค่สุ่มเลือกชิ้นส่วนหนึ่ง จากนั้นก็จ้องมองอยู่สักพัก หลังจากมองจนไม่สบายใจแล้ว นางก็ย้ายไปมองที่อื่น
ผู้อาวุโสคนอื่นไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้มากนัก
เรื่องที่ฉู่หลิวเยว่มีพรสวรรค์ด้านค่ายกลพวกเขารู้มาตั้งนานแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นว่านางตั้งใจศึกษา จึงไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจมากนัก
ฉู่หลิวเยว่มองไปพลาง และทบทวนความทรงจำที่อยู่ในสมองไปพลาง
แต่เพราะว่าค่ายกลแห่งนี้เป็นค่ายกลระดับสูงมาก ดังนั้นนางจึงไม่ประสบความสำเร็จ
ไม่ว่านางจะใช้ดวงตามองอย่างชัดเจนมากเท่าใด ภายในสมองก็มีแต่ความพร่าเลือนเท่านั้น
นางสามารถคาดเดาเอาไว้ได้ตั้งนานแล้ว ดังนั้นจึงไม่ยอมแพ้ และค่อยๆ มองต่อไป
…
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม
ผู้อาวุโสหลายคนก็นั่งไม่ติดพื้น
สถานการณ์ทางด้านผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนเป็นตายร้ายดีไม่ทราบชัดเจน อีกทั้งพวกเขาก็ถูกขังไว้ที่นี่ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะสามารถออกไปได้
ต่อให้ออกไปได้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะไปหาศิษย์คนอื่นๆ ในสำนักได้อย่างใด
เมื่อถึงเวลานั้น แม้แต่คนโง่ก็ยังคิดออกว่ามันจะต้องเป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างแน่นอน
แต่ทางด้านผู้อาวุโสฮวาเฟิงก็ยังไม่มีความคืบหน้าเลยแม้แต่น้อย
“หื้อ?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงอุทานดังมาจากฉู่หลิวเยว่ที่นั่งอยู่ด้านข้าง
ผู้อาวุโสทั้งหลายรีบหันกลับไปมอง และพบว่านางกำลังจ้องมองค่ายกลอยู่ แต่สีหน้ามีบางอย่างผิดปกติไป
“ฉู่เยว่ เกิดอันใดขึ้นหรือ?”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งถามขึ้น
ฉู่หลิวเยว่จึงดึงสติกลับคืนมา ก่อนจะยิ้มให้กับผู้อาวุโสท่านนั้น
“ไม่มีอันใดขอรับ เพียงแค่รู้สึกว่าค่ายกลแห่งนี้…ลึกลับอย่างมาก”
“เป็นฝีมือยอดปรมาจารย์ แน่นอนว่าจะต้องไม่ธรรมดา”
ผู้อาวุโสทั้งหลายไม่ได้สงสัยในตัวนาง แล้วส่ายหน้าออกมาอย่างจนปัญญาเล็กน้อย
“ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่มีเป้าหมายเป็นพวกเราเช่นนี้”
เมื่อกวาดสายตามองไปทั่วอาณาจักรเสิ่นซวี่ ตระกูลอันดับหนึ่งใช่ว่าจะไม่มียอดปรมาจารย์ระดับนั้น แต่อาศัยเพียงค่ายกลค่ายกลเดียว ก็ไม่มีทางจะระบุตัวตนของอีกฝ่ายได้
ยิ่งไปกว่านั้น สำนักบางส่วนก็ตั้งใจจะเก็บซ่อนยอดฝีมือเหล่านี้เอาไว้ นั่นจึงทำให้คาดเดาได้ยากยิ่งขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ถอนสายตาออกมา และถอนหายใจอย่างไร้เสียง ก่อนจะมองไปยังค่ายกลตรงหน้า แววตายังคงมีร่องรอยของความประหลาดใจไม่จางหาย
เพราะว่าเมื่อครู่นี้ นางก็นึกออกแล้วว่าความคุ้นเคยที่ว่านั้น มันมาจากที่ใดกันแน่
…ก่อนหน้านี้ตู๋กูโม่เป่าทิ้งค่ายกลสองรูปแบบเอาไว้ให้นางทะลวง เมื่อเทียบกับค่ายกลที่อยู่ตรงหน้านี้ มีความเหมือนกันในบางจุดจนทำให้ตกใจ!
ความรู้สึกแบบนี้ยากจะบรรยายออกมา หากไม่ใช่ปรมาจารย์ด้านค่ายกลก็ไม่สามารถมองออก
เพราะว่าความคล้ายคลึงกันที่ว่านั้น มันเล็กอย่างมาก โดยพื้นฐานแล้วจะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
แม้กระทั่งนางหลังจากจ้องมองอยู่สองชั่วยาม ถึงค่อยพบข้อสังเกตนี้!
แต่ว่า…นี่มันไม่ไร้สาระเกินไปหน่อยหรือ?
เมื่อพิจารณาจากพลังของค่ายกลที่ลึกลับนี้ ตู๋กูโม่เป่าไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าอย่างใดก็ตามค่ายกลนั้นก็มีส่วนที่คล้ายคลึงกันอยู่ และแม้จะมีความต่างกันแต่ก็งดงามเช่นกัน
หากจะบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ…
ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่เชื่อ
นางยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ภาพเหตุการณ์จำนวนไม่น้อยปรากฏขึ้นในสมอง
รวมถึงตอนที่ตู๋กูโม่เป่ากำลังจะจากไป แล้วขังนางเอาไว้ในเขาจิ่วเหิงด้วย…
ตอนนั้นนางรู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นกับค่ายกลที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ซึ่งนี่ก็เป็นการยืนยันการคาดเดาของนางได้
…ในตอนนั้นตู๋กูโม่เป่าไม่อยากให้นางเดินทางมายังบุพกาลชายแดนเหนือ!
ส่วนค่ายกลแห่งนี้เป็นฝีมือของใคร นางยังคงงงงวยอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...