บทที่ 1338 เขาปฏิบัติต่อเจ้าดีมาก – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1338 เขาปฏิบัติต่อเจ้าดีมาก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่ที่เดิมสักพักหนึ่ง จากนั้นนางก็สาวเท้าไปด้านหน้าเพื่อเดินต่อไป
ตราหยกสีเขียวแผ่นนั้นไม่มีประโยชน์อันใดอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ถูกผู้อาวุโสฮวาเฟิงเก็บไป
นอกจากหนทางนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่มีวิธีทางอื่นที่สามารถติดต่อกับคนอื่นในสำนักหลิงเซียวได้เลย แต่หลังจากปรึกษาหารือกันแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจว่า จะมุ่งหน้าไปยังใจกลางของบุพกาลชายแดนเหนือ!
เป็นไปได้มากที่สุดที่หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ที่นั่น แม้ว่าไปถึงที่นั่นแล้วจะไม่พบคนของสำนักหลิงเซียว ก็น่าจะพบกับคนจากสำนักและตระกูลอื่นๆ
บางทีพวกเขาอาจจะสืบข่าวคราวได้จากที่นั่น ว่ามันเกิดอันใดขึ้นกันแน่
จากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ทำให้หลายคนรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา และเกรงว่าจะมีประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
ตอนนี้เขาจึงถนอมพลังที่เหลือของตนเองเอาไว้ หากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกสักสองสามครั้ง พวกเขาอาจจะทนไม่ไหวจริงๆ ก็ได้
โชคดีที่ทุกอย่างดูสงบนิ่งเป็นอย่างมาก
หลังจากที่เดินมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็หันไปมองดูท้องฟ้า
เมฆสีเทาครึ้มกองรวมตัวกันอยู่ ฟ้าดินมืดมน
แต่ยังไม่มีวี่แววว่าท้องฟ้าจะดำมืดมิดเลย
ตามข่าวลือบอกว่าบุพกาลชายแดนเหนือเป็นสถานที่ที่พิเศษ กอปรกับเกิดการเปลี่ยนแปลงมาหลายหมื่นปี สภาพอากาศนั้นจึงแตกต่างจากที่อื่นเป็นอย่างมาก
เวลากลางวันของที่นี่จะยาวกว่ากลางคืน เวลากลางคืนมีเพียงสองชั่วยามเท่านั้น
กลางวันหนาว กลางคืนกลับหนาวยิ่งกว่า
พื้นที่ที่ทรหดและลำบากขนาดนี้ คนธรรมดายากจะอาศัยอยู่ได้
พวกเขาทั้งหลายกำลังเดินหน้าไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันแว่วมา
แต่ระยะทางค่อนข้างห่างไกล ดังนั้นจึงได้ยินไม่ชัดเจนว่าพวกเขาพูดอันใดกัน
เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมอง เขาก็มองเห็นว่าท่ามกลางทุ่งหิมะขาวโพลนมีคนกลุ่มหนึ่งเดินฝ่าพายุหิมะอยู่ด้านหน้า ทิศทางที่พวกเขากำลังเดินทางนั้นเหมือนกับฉู่หลิวเยว่ แต่อาจจะเป็นเพราะเขาเดินทางค่อนข้างช้า ดังนั้นจึงถูกฉู่หลิวเยว่ไล่ตามทันแล้ว
“พวกเขาคือใครกัน?”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งมองไปอย่างสุดกำลัง
“ดูจากการแต่งตัวของพวกเขา ไม่น่าจะเป็นคนธรรมดา…น่าจะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งสักตระกูลละมั้ง?”
ฉู่หลิวเยว่ก็มองตามสายตาของเขา
หลังจากคำนวณอย่างคร่าวๆ แล้ว พวกเขามีประมาณสิบคน มีทั้งผู้เฒ่าและหนุ่มสาว
ในตอนนั้นเองคนที่อยู่ด้านหน้าก็เหมือนสัมผัสอันใดได้บางอย่าง จึงหันกลับมามอง
“คนที่มาใหม่เป็นใครกัน?”
ชายชราหนึ่งในนั้นก็ถามขึ้นมาด้วยความระแวดระวัง
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงส่งลมปราณไปยังเถียนตัน
“ผู้อาวุโสฮวาเฟิงแห่งสำนักหลิงเซียว!”
น้ำเสียงนั้นมีพลังอย่างยิ่ง สามารถสะท้อนออกไปได้ไกล!
ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ ชื่อเสียงของสำนักหลิงเซียวนั้นดีอย่างมาก
นอกจากคนกลุ่มน้อยที่มีความแค้นต่อกัน ตระกูลและสำนักส่วนใหญ่ล้วนต้องไว้หน้าเขาอยู่หลายส่วน
ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุให้ผู้อาวุโสฮวาเฟิงกล้าเอ่ยนามของตนเองออกไปอย่างอวดดี
และเป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากที่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขา ท่าทางของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปในทันที
“ผู้อาวุโสฮวาเฟิง?”
อีกฝ่ายตอบกลับมาหนึ่งเสียง น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงอยากจะถามเกี่ยวกับตัวตนของอีกฝ่าย แต่ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงคนหนุ่มสาววิ่งมาทางนี้
นางวิ่งมาพร้อมกับตะโกนกู่ร้องด้วยความยินดี
“ผู้อาวุโสฮวาเฟิงที่แท้ก็เป็นพวกท่านนั่นเอง!”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงและคนอื่นๆ ยังคงมีความสงสัยอยู่ แต่เมื่อแม่นางคนนั้นขยับเข้ามาขยับเข้ามาใกล้ และหลังจากเห็นใบหน้าของนางอย่างชัดเจนแล้ว ทันใดนั้นก็มีใบหน้ายินดีปรากฏขึ้น
“ชือรุ่ยเออร์?”
ชือรุ่ยเออร์หอบหายใจหนักหน่วง ใบหน้าเล็กๆ แดงก่ำ
“เป็นศิษย์เองเจ้าค่ะ! คารวะท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย!”
ขณะที่พูด ชือรุ่ยเออร์ก็ก้าวเข้ามาทำความเคารพผู้อาวุโสฮวาเฟิงและคนอื่นๆ
จากนั้นนางถึงสังเกตว่าด้านหลังยังมีฉู่หลิวเยว่อยู่ด้วยอีกหนึ่งคน นางจึงชะงักไปเล็กน้อย!
แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็ได้สติกลับคืนมา และถามขึ้นมาอย่างไม่มั่นใจว่า
“เจ้าคือ…ศิษย์น้องฉู่เยว่หรือ?”
ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อของตนเอง นางก็สามารถจดจำคนผู้นี้ได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...