ตอน บทที่ 1396 ไม่ได้สติ จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1396 ไม่ได้สติ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หลัวเยี่ยนหลินมองตามครรลองสายตาของนางไปพลางหรี่ตาลงน้อยๆ
เขากับหรงซิวเข้าสำนักในเวลาไล่เลี่ยกัน จะพูดว่าเป็นศิษย์รุ่นเดียวกันก็มิผิด
เพียงแต่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามีไม่มากนัก
แน่นอน อุปนิสัยของหรงซิวเป็นเช่นไร การปฏิบัติต่อผู้อื่นก็เป็นเช่นนั้น
นอกเสียจากออกไปฝึกตนไม่ก็ทำภารกิจด้วยกันนานๆ ที ปกติแล้วก็มีเพียงการทดสอบที่จัดขึ้นช่วงต้นเดือนของสำนักที่พวกเขาจะได้เจออีกฝ่ายเข้า
นับตั้งแต่หรงซิวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของการจัดอันดับสองแบบในงานประลองชิงอวิ๋น เขาก็แทบไม่ตกอันดับเลย
“มีหรงซิวคอยดูแลด้วยตัวเอง เจ้าเด็กนั่นคงไม่เป็นอันใดมาก”
หลัวเยี่ยนหลินกล่าวพลางหยิบขวดหยดใบหนึ่งออกมายัดใส่มือน้องสาวตัวเอง
“ใจเจ้านี่มัวแต่คิดถึงคนอื่น จนลืมกินยาของตัวเองไปแล้วหรือไร?”
สายตาอันแฝงด้วยความนัยลึกซึ้งของเขาหยุดที่หลัวซือซือ
หลัวซือซือพลันบังเกิดความรู้สึกผิดอยู่บ้าง จึงรีบเปิดขวดหยก เทเอายาอายุวัฒนะออกมากินเม็ดหนึ่ง
“เปล่าซะหน่อย ข้าแค่คิดว่า…ศิษย์พี่หรงซิวกับฉู่เยว่ดูค่อนข้างสนิทสนมกันดี…แต่ก่อนเขามิเคยปฏิบัติต่อใครเช่นนี้มาก่อนนี่นา?”
โอรสสวรรค์แห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์ ลงมือสังหารโหดเหี้ยม ทั้งดุร้ายและไร้ปรานีจนขึ้นชื่อลือชา
แม้กระทั่งยามอยู่ในสำนัก เขาที่ควบคุมลมปราณที่แผ่ออกมาจากทั่วทั้งร่างไว้แล้วก็ยังชวนให้รู้สึกห่างเหินไม่เปลี่ยนแปลง
หลัวเยี่ยนหลินลูบคางของตน
“จริงๆ…ก็ไม่อาจพูดแบบนั้นได้ ก่อนหน้านี้เคยพบคนผู้หนึ่ง หรงซิวปฏิบัติต่อคนผู้นั้นได้…”
พูดมาถึงตรงนี้ เขาพลันหยุดชะงัก
“ได้อันใดหรือ?”
นัยน์ตาหลัวซือซือเปี่ยมไปด้วยความฉงนสงสัย
หรือว่าบนโลกนี้จะเคยมีคนที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากหรงซิวจริงๆ?
ช่างเป็นเรื่องที่ชวนให้เหลือเชื่อมากเสียจริง
หรงซิวคือราชาแต่กำเนิด เป็นดั่งภูเขาน้ำแข็งที่ตระหง่านอยู่หลายพันปีก็ไม่เคยละลาย กระทั่งคนรอบข้างจะเข้าใกล้ยังยาก นับประสาอันใดกับผู้อื่น
การที่เขาจะทำตัวดีต่อคนผู้หนึ่งนั้น…ช่างจินตนาการได้ยากโดยแท้
ตอนนี้เขาปฏิบัติต่อฉู่เยว่เช่นนี้ ก็ทำให้ทุกคนตื่นตกใจจนตาแทบหลุดจากเบ้าอยู่แล้ว
หากยังมีมากกว่านี้อีก เช่นนั้น…
ป๊อก!
หลัวเยี่ยนหลินเคาะหน้าผากนางอีกรอบ ครานี้เพิ่มแรงมามากกว่าเดิมหน่อย หลัวซือซือจึงกุลีกุจอเอามือบังหน้าผากของตนด้วยเพราะเจ็บแสบ
“พี่สี่ ท่าน…”
“สาวน้อย เรื่องบางเรื่องถามได้ แต่บางเรื่องน่ะไม่รู้จะดีกว่า เข้าใจหรือไม่?”
หลัวเยี่ยนหลินเอ่ยเตือนแกมอมยิ้ม ทว่าสายตากลับฉายแววจริงจังยิ่ง
หลัวซือซือบึนปาก ตอบเสียงพึมพำไปว่า
“รู้แล้วน่า”
หลัวเยี่ยนหลินตวัดสายตามองไปยังฟากโน้นอีกรอบหนึ่ง เพียงแวบเดียวก็เบนสายตากลับมา
…
ทุกคนล้วนก้าวขึ้นค่ายกลเคลื่อนย้ายกันครบเรียบร้อย จึงเริ่มเตรียมการเดินทางกลับ
ผู้คนต่างจับกลุ่มกันเป็นก้อนเล็กๆ ตั้งแต่สามไปจนถึงห้าคนแล้วกระซิบกระซาบบางอย่างกันเสียงเบา
ส่วนมากแล้วพวกเขาล้วนพูดคุยกันถึงเรื่องการเดินทางมาบุพกาลชายแดนเหนือในครานี้
โดยเฉพาะกลุ่มของพวกผู้อาวุโสฮวาเฟิงและผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนที่รวมตัวพูดคุยกันอย่างละเอียดจริงจัง
ครานี้สำนักหลิงเซียวสูญเสียไปมิใช่น้อย จึงย่อมไม่สามารถลืมความจริงข้อนี้ไปได้
มีเพียงเจียงจื่อหยวนที่รอหลบมุมอยู่คนเดียว
มิมีใครเข้ามาพูดคุยกับนางเลยสักคน ดูไปแล้วช่างโดดเดี่ยวยิ่งนัก
ทว่าคนที่ลอบมองมาทางนางไม่หยุดหย่อนกลับมีไม่น้อยเลยทีเดียว
ซึ่งส่วนใหญ่ก็มองมาอย่างเยาะเย้ยแลหยามเหยียด สายตาพวกเขาต่างเปี่ยมไปด้วยแววสนุกสนาน
เจียงจื่อหยวนค้อมศีรษะลง
นางต้องใช้แรงกายเกือบทั้งหมดถึงจะพอยับยั้งอารมณ์ชั่ววูบที่อยู่ในใจได้
นางทนต่อไปไม่ไหวแล้ว…
ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว สิ่งที่รอนางอยู่เกรงว่าจะมีแค่จุดจบที่ร้ายแรงที่สุดแล้ว
หากถามว่านางยังพอมีใครเป็นที่พึ่งคอยชวนหนุนหลังได้อีกบ้าง…
ทันใดนั้น แววตาของนางพลันวูบไหว!
ใช่แล้ว!
นางลืมไปได้อย่างไรกัน ว่ายังมีคนผู้นั้นอยู่!
…
การเดินทางกลับน่าเบื่อแลจืดชืดนัก ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนล้วนได้รับบาดเจ็บกันมาไม่มากไม่น้อย บรรยากาศโดยรวมจึงเฉื่อยชาอยู่ทีเดียว
เทียบกับอารมณ์ขามาที่ทั้งตื่นเต้นพลุ่งพล่านแล้ว ทุกอย่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เวลาที่ต้องหยุดรอจึงดูจะยาวนานเป็นพิเศษ
มิรู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ในที่สุดเบื้องหน้าก็ปรากฏแสงสว่างเล็กๆ
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนเอ่ยประกาศเสียงสูงก้อง
“ใกล้จะถึงสำนักแล้ว! ทุกคนเตรียมตัวออกได้!
“ขอรับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...