สรุปตอน บทที่ 1413 หลีกทางให้ – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 1413 หลีกทางให้ ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงไป
ก่อนหน้านี้ไม่ขัง หลังจากนี้ก็ไม่ขัง แต่กลับต้องมาขังคนภายในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าจะเป็นการคุ้มครองคนผิดจนถึงที่สุดใช่หรือไม่?
“ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน หากข้าจำไม่ผิดแล้วละก็ เขาเฝิงหมินแห่งนี้สถานที่ที่คุมขังศิษย์ที่ทำผิดเป็นพิเศษ ลูกศิษย์ที่ดีอย่างฉู่เยว่ เหตุใดถึงถูกขังที่นั่นด้วยล่ะ?”
เสียงที่ค่อนข้างแสบแก้วหูดังขึ้น
ความเงียบปกคลุมขึ้นมาครู่หนึ่ง ทุกสายตามองไปทางผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนด้วยความสงสัยใคร่รู้
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนลูบเคราของตนเอง
“เขาฝ่าฝืนกฎสำนักอยู่หลายข้อ เดิมทีหลังจากที่กลับมา เขาก็ควรจะถูกขังแล้ว แต่ว่าตอนนั้นเขาสลบอยู่ตลอด ดังนั้นข้าจึงยอมแพ้ รอจนกว่าเขาจะฟื้นขึ้นมา ร่างกายดีขึ้นเล็กน้อย ถึงส่งเขาไปที่นั่น”
อีกฝ่ายยังคงเซ้าซี้ไม่ยอมแพ้
“อ่า? ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนสะดวกเปิดเผยหรือไม่ ว่าเขาฝ่าฝืนกฎสำนักข้อใดกันแน่? ให้พวกเราได้ทราบความจริงทีได้หรือไม่?”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนได้ยินดังนั้น รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าจางไปสามส่วน
“นี่เป็นเรื่องของสำนักหลิงเซียว ไม่ว่าจะเป็นการชมเชยหรือลงโทษ แทบจะ…ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะอธิบายให้ทราบ”
ปกติแล้วพวกเขาทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ไม่ได้หมายความว่าสำนักหลิงเซียวจะถูกใครมารังแกก็ได้!
หากใครคิดจะยื่นมือมาภายในสำนักหลิงเซียว มันต้องก่อเกิดเป็นความวุ่นวายไม่ใช่หรือ?
คำพูดของผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน ทำให้พวกเขาไม่สามารถโต้เถียงได้
ในตอนนี้ความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ที่สำนักหลิงเซียว หากเขาบอกว่าใครผิด คนนั้นก็ผิด หากเขาต้องการจะลงโทษใคร ก็ไม่สามารถไปถามเรื่องราวได้
พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความกรุ่นโกรธจากน้ำเสียงของผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน อีกฝ่ายจึงรู้สึกลำบากใจ แล้วเงียบเสียงไป
แต่คนอื่นกลับไม่ยอมปล่อยผ่านไปเช่นนี้
“ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน เรื่องราวในสำนักของท่าน พวกเราก็ไม่ได้อยากจะยื่นมือเข้าไปยุ่ง แต่ที่พวกเรามาในครั้งนี้ ก็เพื่อพูดคุยกับฉู่เยว่ให้กระจ่าง”
“ถูกต้อง พวกเรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว และรู้ว่าท่านไม่ใช่คนไร้เหตุผล หากไม่ใช่เพราะถูกบังคับให้ทำเช่นนี้ พวกเราก็ไม่อยากจะล่วงเกินสำนักของท่านเลย ตอนนี้… ไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ”
“เรื่องในบุพกาลชายแดนเหนือ ทุกตระกูลล้วนเสียหายอย่างหนัก มีเพียงแค่ฉู่เยว่ที่ได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ มันจึงทำให้ผู้คนอดสงสัยไม่ได้ ความจริงแล้วผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนไม่จำเป็นจะต้องวิตกกังวลเช่นนี้ ท่านให้ฉู่เยว่ออกมาพูดคุยกันต่อหน้าคนทุกคน และอธิบายเหตุผลให้ชัดเจน เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อทุกคนพูดเรื่องนี้อย่างเปิดเผย มันก็จะเป็นการดีต่อทุกฝ่าย ท่านว่าใช่หรือไม่?”
คนเหล่านี้พูดต่อกัน เจ้าพูดหนึ่งประโยค ข้าพูดหนึ่งประโยค พูดต่อเรื่องราวได้ยืดยาว
อย่างใดก็ตามเมื่อผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนได้ฟังแล้วก็ยังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ
เขามีชีวิตอยู่มาหลายปีขนาดนี้แล้ว มีฉากไหนบ้างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน?
แค่ฟังดูแล้ว คนเหล่านี้ไว้หน้าเขาอย่างยิ่ง
แต่ในความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย!
หากพวกเขาต้องการจะพูดคุยด้วยเหตุผลจริงๆ แล้วละก็ พวกเขาจะไม่มีทางมาที่ฝางโจว และเตรียมตัวพร้อมโจมตีอย่างนี้
หากกล่าวในอีกนัยหนึ่งก็คือ มีมีดจ่อที่ลำคอของเขาแล้วแกล้งทำเป็นพูดว่าต้องพูดคุยกันดีๆ… แบบนี้มันน่าเชื่อถือหรือไม่?
ช่างน่าขัน!
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนมีความอดทนอย่างยิ่ง แม้ว่าในใจเขาจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ใบหน้าของเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ยังคงมีความสุภาพอยู่เสมอ
เมื่ออีกฝ่ายพูดขึ้น เขาก็รับฟัง
จนกระทั่งอีกฝ่ายพูดคนละประโยค พูดจนน้ำลายเหนียว หลังจากที่พูดเรื่องที่ควรพูดไปจนหมดแล้ว เขาจึงพยักหน้าลงอย่างเชื่องช้า
“ที่ทุกท่านพูดมาล้วนมีเหตุผล”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...