“ดูเหมือนที่นั่นจะมีบางอย่างผิดปกติ”
หลังจากที่อาวุโสซุนเห็นว่านาคาปีกทมิฬกลืนเวหากำลังเคลื่อนที่ไปยังยอดเขา ทว่าผ่านไปไม่นาน มันกลับหยุดนิ่ง
สภาพของมันแปลกมาเมื่อมองจากระยะไกล
“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าระวังตัวด้วย”
อาวุโสซุนรีบตรงไปยังภูเขาทันทีเมื่อกำชับกับทุกคนเรียบร้อยแล้ว
มู่หงอวี๋เหม่อมองออกไปอย่างว่างเปล่าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“ถ้าหาก…ถ้าหากไม่ใช่เพราะพวกเรา…หลิวเย่ นางคงจะไม่…”
นางสำลักและพูดต่อไปไม่ได้ มีเพียงน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา
นางเป็นคนชอบชิงดีชิงเด่น จากที่ไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าผู้คน กลับรู้สึกอ่อนอยู่เสมอ แต่ในเวลานี้นางกลับไม่สามารถดูแลสิ่งเหล่านั้นได้ ในใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดแล้วความเศร้าราวกับน้ำทะเลที่ถาโถมเข้ามาจนทำให้นางหายใจไม่ออก
ใบหน้าของเฉินหู่ก็ซีดเผือดเช่นกัน สุดท้ายเขาทำได้เพียงเดินไปข้างหลัง พร้อมทั้งยกกำปั้นทุบลงไปที่ต้นไม้
กู้หมิงเฟิงกลับเป็นคนที่สงบที่สุด
“นางไม่เป็นอันใดหรอก”
คำพูดนี้ ทำให้ทุกคนมองมาที่เขา
มู่หงอวี๋อดถามไม่ได้ “จริงหรือ? หมิงเฟิง เหตุใดเจ้าจึงแน่ใจว่าจะเป็นเช่นนั้น?”
กู้หมิงเฟิงกลับมีสีหน้านิ่งเฉยและไม่พูดอะไร
หญิงสาวที่เฉลียวฉลาดมิมีผู้ใดเทียม อีกทั้งยังมีการสังหารที่เด็ดขาดเช่นนี้ จะปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร
พละกำลังของนางต้องมีมากกว่าที่พวกเขาเคยเห็นอย่างแน่นอน
นางช่างลึกลับราวกับว่านางรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
การที่นางสามารถหนีออกมาได้หลังจากที่ทำให้องค์รัชทายาทและตระกูลฉู่ขุ่นเคือง นั่นก็บ่งบอกถึงความสามารถของนางแล้วมิใช่หรือ?
ลึงลงไปในก้นบึ้งของหัวใจ เขามีความเชื่อมั่นในตัวนางอย่างอธิบายไม่ถูก
แม้เขาจะไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจนี้มาจากที่ใดก็ตาม
ทว่า…
อีกไม่นานคงได้รู้!
ซือถิงเหลือบมองเขา เห็นแสงสว่างสีดำสว่างวาบในแววตาอันแหลมคมของเขา
จากนั้น เขาจึงหันกลับไปจ้องภูเขาลูกนั้น และมือในแขนเสื้อของเขาก็ค่อยๆกำหมัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ
เขาก็รู้ว่าฉู่หลิวเย่ซ่อนความแข็งแกร่งของตนไว้ ทว่า…นั่นคือนาคาปีกทมิฬกลืนเวหาสัตว์อสูรระดับเจ็ด!
นางต้องทำอย่างไรจึงจะกลับมาอย่างปลอดภัย!?
……
อาวุโสซุนเข้าใกล้อย่างเงียบๆ ไม่นานนักเขาก็มาถึงเชิงเขา
ด้วยความกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจ เขาจึงไม่กล้าเดินทางบนอากาศ จึงทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่ในป่า
แม้ว่าเขาจะไม่ถูกค้นพบ ทว่าเชิงเขาและบนยอดเขาเกือบทั้งหมดต่างถูกครอบครองโดยสัตว์อสูร หากเขายังก้าวไปข้างหน้า จะต้องถูกค้นพบอย่างแน่นอน
อาวุโสซุนมองไปยังกลุ่มสัตว์อสูรที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยใจที่เป็นกังวล
ภูเขาทั้งลูกถูกห้อมล้อม เขาอยากจะฝ่าฟันเข้าไปจากด้านนอก ทว่ามันก็เป็นเรื่องยากยิ่ง
ไม่ต้องพูดถึงนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา เพียงแค่ด้านนอกยังถูกสัตว์อสูรรุมล้อมจนเขายากที่จะต้านถึงเพียงนี้
แต่ฉู่หลิวเย่และคนอื่นยังอยู่ด้านบน
เขาหาทางซ่อนตัว ในมุมที่มองเห็นได้ดี และมองกลับไปบนภูเขาอีกครั้ง
จากตรงนี้สามารถมองเห็นสถานการณ์ด้านบนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทว่าหลังจากที่มองเพียงแวบเดียว หัวใจของอาวุโสซุนก็เต้นรัว!
เขาเห็นความโกลาหลบนยอดเขา และฉู่หลิวเย่กับนาคาปีกทมิฬกลืนเวหากำลังเผชิญหน้ากันจากระยะไกล!
นาคาปีกทมิฬกลืนเวหานอนขดตัวเป็นวงกลม พร้อมทั้งปล่อยพลังออกมาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งดูน่ากลัวยิ่ง
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ดูเหมือนว่าฉู่หลิวเย่อยากจะจากไป แต่กลับถูกอีกคนหนึ่งรั้งไว้โดยกอดขาเอาไว้แน่น
เมื่ออาวุโสซุนมองอย่างละเอียด กลับพบว่าคนนั้นคือกู้หมิงจู!
นางกำลังทำอันใดกัน?!
ในเมื่อกู้หมิงจูอยู่ที่นี่ เหตุใดจึงไม่หนีไปกับฉู่หลิวเย่ แต่กลับขัดขวางนาง?
ดูเหมือนนางไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยฉู่หลิวเย่สหายที่มีอาจารย์คนเดียวกัน ทว่าตรงกันข้ามนางกำลังช่วยนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา!
หัวใจของอาวุโสซุนลุกเป็นไฟ เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะไปที่นั่น!
กู้หมิงจูบ้าไปแล้วจริงๆ!
……
ฉู่หลิวเย่อยากที่จะสะบัดกู้หมิงจูทิ้งไป ทว่ากู้หมิงจูกลับมุ่งมั่นที่จะรั้งนางไว้ เพื่อแลกกับโอกาสที่ตนเองจะมีชีวิตอยู่
แม้ว่าการวิ่งเต้นและการกดขี่ข่มเหงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา นางจะใช้พลังค่อนข้างมาก แต่กลับไม่ได้ทำให้นางได้รับบาดเจ็บมากนัก
ซึ่งดีกว่าฉู่หลิวเย่นิดหน่อย
ดังนั้นด้วยการที่นางกัดฟันดื้อรั้นต่อไป ไมว่าฉู่หลิวเย่จะสะบัดกี่ครั้งนางก็ไม่ยอมปล่อย
ส่วนอีกด้านหนึ่ง บาดแผลของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหายังคงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อพลังของหยดน้ำค่อยๆหมดไป ในที่สุดมันก็กลับมาหายใจได้อีกครั้ง
มันเงยหน้าขึ้น แววตาของมันเต็มไปด้วยความโกรธแค้น!
แม้แต่กู้หมิงจูยังตื่นตระหนกเมื่อเห็นมัน
นางรีบตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว
“ข้า! ข้าช่วยเจ้าขัดขวางฉู่หลิวเย่ เจ้า เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ? ได้โปรด!”
นาคาปีกทมิฬกลืนเวหาส่งเสียงคำรามเมื่ออดทนจากความเจ็บปวด!
เสียงคำรามดังเข้าไปในโสตประสาทของฉู่หลิวเย่ ทันใดนั้นราวกับว่ามีภูเขากดทับอยู่ที่ไหล่ของนาง!
การบังคับอันทรงพลัง ทำให้นางเคลื่อนไหวได้ยาก!
นางตื่นตระหนกในทันใด!
ดูเหมือนว่านาคาปีกทมิฬกลืนเวหากำลังชะลอตัว เกรงว่าต่อไปในจะตอบโต้อย่างรุนแรง!
ในยามนี้พลังของนางกำลังจะหมดลง และนางคงไม่มีพลังตอบโต่เป็นแน่!
นางหรี่ตาลง พลางจ้องไปที่ท้องของนาคาปีกทมิฬกลืนเวหา
ตรงนั้นมีบาดแผลขนาดใหญ่และเลือดไหลนอง ดูน่าสยดสยอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์