เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1461

กงล้อสีเขียวและกงล้อสีขาวที่กำลังซ้อนทับกันพลันค่อยๆ เคลื่อนตัวหมุนไปในทิศทางตรงข้าม!

จุดตรงกลางที่เชื่อมต่อกันพลันส่งเสียง ‘กริ๊ก’ เล็กๆ ประหนึ่งฟันเฟืองที่เข้าร่องกันก็มิปาน

ยามพวกมันโคจรเข้าหากันเป็นภาพที่วิจิตรตระการตายิ่ง

อีกทั้งยามกงล้อทั้งสองโคจรมาเข้าร่องกัน บนตัวกงล้อก็แผ่แรงกดดันมหาศาลอันน่าหวาดหวั่นออกมาด้วย!

พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่โดยรอบเริ่มก่อตัวกันทางฟากนี้อย่างรวดเร็ว!

หนึ่งอันหน้า หนึ่งอันหลัง ก่อตัวกลายเป็นกระแสพลังน้ำวนสองหลุม!

“ซี้ด… คนที่สามารถผสมผสานพลังปราณศักดิ์สิทธิ์สองสายได้สมบูรณ์แบบเพียงนี้ ช่างหาได้ยากนัก… ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะใช่ว่าไม่มีความสามารถอันใด…”

“ทำให้ไป๋หลีฉุนจับตามองได้ก็ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เพียงแต่… ข้าว่าระหว่างพลังปราณศักดิ์สิทธิ์สองสายนี้ยังคงมีช่องโหว่อยู่ มิอาจนับได้ว่าสมบูรณ์แบบหรอก”

“ข้าก็ว่างั้น คนผู้นี้ดูไปแล้วน่าจะอายุยี่สิบกว่าๆ สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งเทพแล้ว… พรสวรรค์ไม่ได้นับว่าชั้นยอดอันใด ฉู่เยว่ที่อยู่ฟากโน้นเหมือนจะเพิ่งสิบเจ็ดเองกระมัง? ก็เป็นถึงจอมยุทธ์ระดับแปดแล้ว…”

“แต่ตอนนี้การต่อสู้ระหว่างคนทั้งสอง ใครเป็นผู้ถือไพ่ได้เปรียบก็ยังไม่นับว่าประจักษ์ชัดมากนัก?”

การประลองสนามนี้มิมีเรื่องพรสวรรค์ของพวกเขามาเกี่ยว เกี่ยวข้องเพียงพลังต่อสู้ของพวกเขาในตอนนี้เท่านั้น!

ในใจของเจียงจื่อหยวนประหนึ่งว่ามีกองไฟลุกโชนไม่หยุดหย่อน ราวกับจะปะทุออกมาจากอกนางได้ในทุกเมื่อ!

คำพูดพรรค์นี้ นางได้ยินมาจนเอียนแล้ว!

พรสวรรค์ดีกว่าแล้วมันยังไง?

ก่อนจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงได้ ก็ล้วนเป็นพวกเศษสวะกันทั้งหมด!

วันนี้หนี้เก่าบัญชีแค้นใหม่ นางจะชำระคืนให้พร้อมกันเลย!

“ไป!”

กงล้อขนาดมหึมาบดกลิ้งไปทางฉู่หลิวเยว่ในทันที!

ความเร็วของมันไม่นับว่าว่องไว ทว่ากลับมั่นคงแลสมดุลนัก

ดูไปแล้วเหมือนจะเนิบนาบไปหน่อยเสียด้วยซ้ำ

ทว่ายามกงล้อเคลื่อนไปที่ใด ก็ล้วนพังทลายไร้สิ่งใดหลงเหลือ กลายเป็นหลุมดำว่างเปล่าขนาดมหึมา!

เห็นได้ชัดแล้วว่าพลังทำลายล้างรุนแรงมหาศาลนัก!

ยังไม่ทันถึงตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ แรงลมรุนแรงก็ปะทะเข้าหน้าแล้ว!

ชายเสื้อคลุมของฉู่หลิวเยว่สะบัดพลิ้ว เรือนผมสีดำสลวยปลิวไปในอากาศ

นางหรี่ตามองน้อยๆ

ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงพลังอันน่าหวาดหวั่นที่แผ่ออกมาท่ามกลางกงล้อสองอันที่เข้าร่องเฟืองกัน

หากถูกบดขยี้เข้าไปครั้งหนึ่งแล้ว เกรงว่ากระทั่งศพยังไม่เหลือซาก!

แต่นี่เป็นแค่การประลองหาผู้แพ้ผู้ชนะเสียด้วยซ้ำ เหตุใดถึงต้องเริ่มด้วยท่าสังหารเช่นนี้กัน?

คนหนุ่มที่ไป๋หลีฉุนตั้งใจให้ติดสอยห้อยตามมาด้วยผู้นี้เหมือนว่าจะ… มีจิตคิดปฏิปักษ์ต่อนางอย่างลึกล้ำ ถึงขั้นกระทั่งคิดสังหารกัน!

ฟึ่บ!

ฉู่หลิวเยว่สะบัดข้อมือของตน แสงสว่างประกายทองแกมฟ้าพลันเคลื่อนวาบผ่าน!

ฝูงคนรู้สึกตาพร่าชั่วครู่ ก็พบว่าในมือของฉู่หลิวเยว่กำลังถือกระบี่เล่มหนึ่งเอาไว้

แสงสว่างสีทองแกมฟ้าสายนั้นมาจากฝักกระบี่นั่นเอง

ฉู่หลิวเยว่มือหนึ่งจับฝักกระบี่เอาไว้มั่น อีกมือหนึ่งชูขึ้น ค่อยๆ กำด้ามกระบี่เรียวยาวอันเย็นเฉียบไว้แน่น

กระแสพลังโดยรอบราวกับกระแสน้ำไหลเชี่ยว ปลายพู่ห้อยระย้าขยับสั่นไหวแผ่วเบา

สีหน้าของฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ มืดครึ้มลง ก่อนที่นางจะกลั้นลมหายใจ

นัยน์ตาดุจหยกดำราวกับกำลังจมดิ่งลงสู่บ่อน้ำลึกสีมรกตที่ค่อยๆ ทอประกายแสงสว่างอันชวนเย็นวาบ

โดยไม่ทันได้รู้ตัว รอบกายก็ถูกล้อมเอาไว้เสียสิ้นแล้ว!

ด้านนอกรอบกายนางราวกับว่ามีม่านกั้นไร้รูปร่างชั้นหนึ่ง ที่ตัดขาดนางออกจากโลกภายนอก

ประหนึ่งว่าแม้นภายนอกจะเกิดเรื่องอันใดขึ้น มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อนางเลยแม้สักเสี้ยวหนึ่ง

มาถึงบัดนี้ นางก็ยังคงอารมณ์สงบนิ่งได้ดังเดิม ทั้งเอื่อยเฉื่อยแลผ่อนคลาย!

บางคนถึงกับลอบส่งสายตาให้กันอย่างเงียบเชียบ

ฉู่เยว่ผู้นี้ดูจะ… ไม่ได้เรียบง่ายถึงปานนั้นกระมัง…

เจียงจื่อหยวนที่สบเข้ากับนัยน์ตาเย็นเยียบคู่นั้นถึงกับรู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่างในพริบตา!

ความหวาดผวาอันยากจะบรรยายบังเกิดขึ้นมาจากส่วนลึกในจิตใจของนาง!

นางขบฟันกรอด พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองให้เย็นลงอย่างสุดความสามารถ ยับยั้งไม่ให้ใจเต้นเร็วรัวไปมากกว่านี้

จะไปกลัวอันใด!

พลังของจอมยุทธ์ระดับแปดจะแข็งแกร่งได้ขนาดไหนกันเชียว!?

จินตี้จ้องกระบี่ชื่อเซียวเขม็ง ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ

แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่จะเคยใช้กระบี่ชื่อเซียวต่อหน้าผู้คนมาก่อน แต่นั่นก็แค่กวัดแกว่งเล่นไปมาเท่านั้น มิได้แสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมาให้เห็นแต่อย่างใด

ยิ่งไปกว่านั้น ครานั้นจุดสนใจของคนเหล่านี้ล้วนไปอยู่ที่อื่นหมด จึงมิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก

มากระทั่งที่ฉู่หลิวเยว่ตัดสินใจลงมือจริงจัง พวกเขาถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองเผลอแสดงท่าทีเสียอาการออกมาเสียใหญ่โต!

ทว่าตอนนี้มารู้สึกเสียใจอีกทีก็สายไปแล้ว!

อย่างใดเสีย ก็ไม่สามารถฉวยชิงของจากศิษย์ของพวกเขาภายใต้อาณาเขตของสำนักหลิงเซียวกันได้ซึ่งหน้าอยู่แล้ว!?

ทว่ายังมีคนบางกลุ่มที่หัวแหลมขึ้นมาทันควัน

เจียงจื่อหยวนเองก็ดูออก ในใจพลันบังเกิดความริษยาอย่างห้ามไม่อยู่

สิ่งของที่ไป๋หลีฉุนให้นางมานั้นไม่เลวเลยทีเดียว คราแรกนางก็พอใจมากอยู่หรอก

ทว่าเมื่อเทียบกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อแล้วจะนับเป็นอันใดไปได้?

ฉู่เยว่ผู้นี้ที่มาที่ไปไม่ชัดเจน ทั้งยังหยิ่งยโสแลทำตัวลอยชายไปวันๆ เห็นแล้วน่าหงุดหงิดนัก!

ไม่รู้จริงๆ ว่าสำนักและหรงซิวเห็นอันใดในตัวเขากัน?

ทันใดนั้นเอง!

ฉู่หลิวเยว่ก็โยนฝักกระบี่ทิ้งไป!

พลันมีประกายแสงรัศมีสว่างเรืองรองวาดผ่านกลางอากาศ

จากนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็ใช้สองมือกุมกระบี่เอาไว้พลางเขย่งเท้าน้อยๆ! ร่างของนางพลันทะยานหายไปในพริบตา! ท่วงท่ากระฉับกระเฉงคล่องแคล่วนัก!

นางทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นเงื้อกระบี่ชูขึ้นเหนือศีรษะ!

ซ่าซ่า…

พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่โดยรอบพลันพุ่งเข้าไปรวมอยู่ในกระบี่ชื่อเซียวอย่างบ้าคลั่ง!

ชั่วพริบตา ฟ้าดินก็สูญเสียสีสัน! ก่อนจะเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว!

กระทั่งพลังที่พรั่งพรูออกมาจากกงล้อสุริยันแผดเผานภาครามที่กำลังพุ่งทะยานมา ก็ถูกแรงกดดันมหาศาลไร้รูปร่างยับยั้งไว้โดยพลัน ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนไหว แล้วหลั่งไหลเข้าไปในกระบี่ชื่อเซียว!

“อันใดกัน!?”

เจียงจื่อหยวนใจกระตุกกึก!

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับจุนเจ๋อแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้อย่างใดกัน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์