เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1486

แกร๊ก!

เสียงของแตกหักสะท้อนกังวานสายหนึ่งดังก้องขึ้นมา!

บนหม้อน้ำโปร่งใสในมือของฉู่หลิวเยว่พลันเกิดรอยแตกเล็กๆ ร้าวไปทั่วหม้อทั้งใบ!

ใจของนางร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม นางรีบยับยั้งหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในกายของตนโดยพลัน!

ทว่าระหว่างช่องว่างที่เชื่อมต่อกันกลับผสานเข้าหากันแน่น ราวกับมีเส้นใยไร้รูปร่างผูกมัดมันเอาไว้รวมกัน

มิสามารถแยกมันออกจากกันได้เลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นเอง หม้อน้ำโปร่งใสอันเล็กจิ๋วก็แตกสลายพร้อมเสียงดังลั่น!

เคร้ง!

เศษชิ้นส่วนปลิวกระจายไปทั่วทุกทิศ! กลายเป็นเกล็ดประกายแสงชิ้นน้อยกระจายไปทั่วทุกทิศทาง!

จินตี้ลุกขึ้นในทันใด มือชี้ไปที่ฉู่หลิวเยว่ด้วยความโกรธว่า

“หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์อยู่ในร่างของเจ้า!”

สิ้นคำพูด ทุกคนต่างก็ตื่นตกใจ!

ชั่วพริบตา ความสนใจของทุกคนก็รวมอยู่ที่ฉู่หลิวเยว่เป็นตาเดียวด้วยสีหน้ายากจะคาดเดา!

ทั่วทั้งบริเวณเงียบสงัดไร้สุ้มเสียง!

จินตี้พยายามยับยั้งความรู้สึกตื่นตกใจในใจลงไป ก่อนจะเอ่ยตำหนิเสียงสูงว่า

“เมื่อครู่ทุกท่านเองก็คงเห็นกับตาแล้วกระมัง! ของเลียนแบบอันนั้นเพิ่งจะระเบิดไปจากมือของซั่งกวนเยว่! หากมิใช่เพราะในร่างของนางมีหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ของจริงอยู่ มันย่อมไม่มีทางแสดงปฏิกิริยาใหญ่โตขนาดนี้ได้!”

หลักฐานมีให้เห็นชี้ชัดท่ามกลางสายตาของทุกคน!

“ซั่งกวนเยว่! ครั้งนี้เจ้าอยากยอมรับขึ้นมาหรือยัง!”

หางคิ้วของฉู่หลิวเยว่กระตุกกึก

นางมิเคยเห็นของเลียนแบบทั้งหมดมาก่อน แม้จะรู้ว่ามันอาจมีปฏิกิริยา แต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะกะทันหันเช่นนี้

นางแทบไม่มีเวลาเตรียมตัวเลยด้วยซ้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นไปแล้ว!

อีกอย่าง ดูคนจำนวนมากปานนี้จับจ้อง ต่อให้นางคิดอยากแก้ตัว เกรงว่าคงทำได้ยากแล้ว!

สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนจ้องมองฉู่หลิวเยว่เป็นตาเดียว ประหนึ่งว่าจะมองทะลุไปถึงตัวตนข้างในก็มิปาน

หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์มีสายสัมพันธ์กับนาง นั่นมิใช่พิสูจน์แล้วหรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในบุพกาลชายแดนเหนือ นางเองก็อาจจะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว!

ส่วนทางฝั่งสำนักหลิงเซียว พวกผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนเองต่างก็ตะลึงจนตัวแข็งค้างไปเช่นเดียวกัน

มิใช่ว่าก่อนหน้านี้นางพูดไปแล้วหรือว่าหนึ่งในสิบอาวุธศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่อย่างหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์มิได้มีความเกี่ยวข้องใดกับนาง!

แล้วตอนนี้มันเกิดอันใดขึ้นกัน?

จินตี้ยังคงไล่ตามไม่ปล่อย เขาแค่นหัวเราะเย็นเยียบพลางกล่าวว่า

“เป็นอันใดไป มิกล้าพูดแล้วรึ? เมื่อครู่มิใช่ว่าเจ้ายังยืนยันหนักแน่นอยู่เลยนี่? ตอนนี้…อึก!”

เขายังไม่ทันพูดอย่างพึงพอใจจบ เสียงก็หยุดชะงักอย่างกะทันหันลงเสียก่อนประหนึ่งว่าถูกคนบีบคอเอาไว้ ก่อนจะส่งเสียงร้องติดขัดอย่างเจ็บปวด

ทุกคนหันศีรษะตามไปมอง พบว่าสีหน้าของจินตี้เริ่มอมม่วงแล้ว มือทั้งสองของเขาเคล้นคลึงบริเวณลำคอด้านหน้าราวกับว่ากำลังพยายามดึงรั้งบางสิ่งบางอย่างอย่างสุดชีวิต

ยามมองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน จะเห็นได้รางๆ ว่ามีเส้นด้ายสีทองสายหนึ่งที่ไม่รู้ว่าลอยลิ่วไปทางจินตี้แต่เมื่อใด กำลังบีบรัดลำคอของเขาเอาไว้แน่น!

เขาพยายามดิ้นรนให้หลุดรอดจากของสิ่งนี้นี่เอง

เส้นด้ายสีทองรึ…

คนจำนวนมากต่างมองหรงซิวด้วยสายตาผวาหวาด

“หนวกหู”

บุรุษผู้นี้เกิดมาก็มีคำว่าสูงศักดิ์สลักอยู่ในกระดูกแล้ว

เขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้นไปเรื่อยเปื่อย มิได้ข้องเกี่ยวกับผู้ใด แต่ยังคงสงวนไว้ซึ่งความทะนงตนแลสง่าผ่าเผยที่คนทำได้แค่มองดู

เห็นได้ชัดเลยว่าคนบางกลุ่มที่อยู่ในที่แห่งนี้เองก็นับว่ามีฐานะเท่าเทียมกัน กระทั่งในแง่ของความอาวุโสเองก็สูงกว่าเขาไม่น้อยทีเดียว

แต่ไอรัศมีสูงศักดิ์บนร่างของเขากลับมิเคยจางหายไปเลย

กระทั่งตัวจินตี้เอง ยามสบเข้ากับนัยน์ตาหงส์ที่ทอประกายเย็นเยียบลึกล้ำ พลันบังเกิดเสียง ‘กึก’ ในใจ รีบกลืนคำผรุสวาทที่กำลังจะตวาดออกมากลับลงคอไป

หรงซิวผู้นี้…กระทั่งประมุขของตระกูลตัวเองก็ยังทำให้อับอายต่อหน้าธารกำนัลได้ ทั้งยังสามารถทำให้เซียนสุ่ยหลิงที่มีอำนาจการปกครองมากที่สุดเปลี่ยนผู้นำตระกูลได้อย่างสุขุมอีกด้วย!

เหตุใดเขาถึงทำเรื่องพวกนี้ได้ง่ายดายปานนี้!

บนโลกใบนี้…คงมิมีสิ่งใดที่เขาทำไม่ได้แล้ว!

จินตี้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้ำอึ้งอยู่หลายส่วน

“ข้า…ข้าแค่อยากช่วยทุกคนตรวจสอบอย่างชัดเจน…”

คำพูดนี้ของหรงซิวแฝงไปด้วยการข่มขู่ ดูแล้วเขาคิดจะปกป้องซั่งกวนเยว่ไปจนถึงที่สุดจริงๆ!

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ

บุรุษผู้นี้…

ริมฝีปากแดงเรื่อของนางหยักยกขึ้น รูปลักษณ์งามหยดย้อย สวยสะพรั่งเสียจนล่มเมือง

ในแววตาของนางราวกับเปี่ยมด้วยผืนฟ้าทั้งใบจุอยู่ในนั้น เพียงปรายมองแวบเดียว ก็ทำให้คนมองมาใจสั่นโดยไม่รู้ตัวและจมดิ่งไปกับมัน

นางขยับเข้าไปใกล้อีกหน่อย ส่งสัญญาณเป็นเชิงให้หรงซิวก้มศีรษะลงมา

หรงซิวยอบตัวลง ก่อนจะเอียงหูเข้าไปใกล้ริมฝีปากของนาง

นางหัวเราะพลางกดเสียงให้ทุ้มต่ำ

“บุรุษของข้าดีเพียงนี้ ข้าย่อมต้องทำตัวดี ไม่ก่อปัญหาให้เขาอยู่แล้ว”

ระหว่างที่พูด ริมฝีปากก็ทาบทับ จากนั้นความร้อนชื้นอันชวนวาบหวามก็แผ่กระจายไปทั่วใบหูของเขา

ครึ่งร่างของหรงซิวเองก็ราวกับร้อนฉ่าขึ้นในทันใด โทสะที่เดิมทีถูกยับยั้งเอาไว้พลันสลายหายไปอย่างไร้รูปไร้รอย

หลงเหลือแต่เพียงคนข้างกายผู้เดียวที่เติมเต็มเขาทั้งดวงตาและหัวใจ

เขากระชับมือของตนแน่นขึ้น จากนั้นก็คลายออกอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนมาใช้นิ้วลูบหลังมือของนางแผ่วเบาแทน

ทันใดนั้น เขาก็ยืดตัวตรง

ทุกคนต่างก็แปลกประหลาดใจ

เมื่อครู่มิใช่ว่าเขายังเปี่ยมด้วยโทสะอยู่เลย เหตุใดพอได้ยินซั่งกวนเยว่เอ่ยแค่สองประโยค ก็เปลี่ยนคนทั้งคนไปได้เลยเล่า?

ซั่งกวนเยว่พูดว่ากระไรหนอ?

ทว่ามีข้อหนึ่งที่ทุกคนนับว่าดูออกกันทั่วถ้วน

อารมณ์สุขและทุกข์ของหรงซิวเชื่อมกับสตรีผู้นี้ที่อยู่เบื้องหน้าอย่างแยกจากไม่ได้!

ในใจของผู้คนพลันหวาดกลัวขึ้นมาอยู่บ้าง

ฉู่หลิวเยว่กระแอมไอเล็กน้อย ก่อนจะตั้งสติ แล้วกล่าวว่า

“หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์อยู่ในร่างของข้าจริง เพียงแต่ว่ามันต่างจากที่ทุกท่านคาดไว้นัก ข้ามิได้แย่งชิงของสิ่งนี้มาจากบุพกาลชายแดนเหนือแต่อย่างใด ความจริงมันรับข้าเป็นเจ้านายตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์