……….
ทันทีที่สิ้นเสียง กายเนื้อของผู้อาวุโสถงชวนก็ลุกไหม้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
กลุ่มหมอกดำหนาแผ่กระจายออกมาพร้อมกับกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนกับซากศพเปื่อยที่ทำให้ผู้คนรู้สึกขยะแขยง
ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า
“ฝ่าบาทระวัง!”
ตู้ม!
ทันใดนั้นก็เกิดระเบิดขึ้น!
ร่างกายของผู้อาวุโสถงชวนระเบิดขึ้นทั้งอย่างนั้น!
หรงซิวมีสีหน้าตึงเครียดค่ายกลพันธนาการเทพคลายออกในทันที!
หมอกดำและเศษเนื้อปลิวกระจายออกไปทั่ว จากนั้นก็ถูกพลังอันยิ่งใหญ่กลืนกินเข้าไป จนสุดท้ายก็หายไปในลำแสงนั้นอย่างไร้ร่องรอย
ประมาณครึ่งเค่อต่อมา ลำแสงนั้นจางหายไปแล้ว บนพื้นเหลือเพียงคราบเลือดสีแดงดำที่แห้งกรังเท่านั้น
หรงซิวหรี่ตาลงเล็กน้อย
โฮก!
ตอนนั้นเองเมื่อเสียงคำรามดังขึ้น เงาร่างของเสวี่ยเสวี่ยก็ปรากฏขึ้นที่หน้าต่างอีกครั้ง
มันพุ่งตัวมายืนที่ข้างกายของหรงซิว ก่อนจะคายป้ายไม้ในปากออกมา
ป้ายไม้สีดำแตกหักออกเป็นหลายส่วน
หรงซิวมีสีหน้าเรียบนิ่ง เขายกมือขึ้นมาเล็กน้อย
เปลวเพลิงสีทองสายหนึ่งลอยออกมา และตกลงที่ป้ายไม้แผ่นนั้น ก่อนจะลุกโชนอย่างเงียบงัน
ในตอนนั้นเองป้ายไม้แผ่นนั้นก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว
…
ภายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย คนที่อยู่ในสถานการณ์นั้นตกใจอย่างมากจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอันใดดี
ทุกคนเหลือบสายตาไปมองคราบเลือดและเถ้าถ่านที่เหลืออยู่เป็นระยะเวลานาน หลังจากนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้
ในที่สุดผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็พูดขึ้นมาว่า
“คิดไม่ถึงว่าถงชวนจะเป็นหัวหน้าของถ้ำปีศาจทมิฬ…”
“เขาไม่ใช่ผู้อาวุโสถงชวนตัวจริง”
หรงซิวพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกประหลาดใจ “ฝ่าบาทหมายความว่า…”
หรงซิวพูดขึ้นอย่างกระชับและได้ใจความ
“ถูกเข้าสิง”
ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ
หลังจากผ่านไปเป็นระยะเวลานาน ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมาว่า
“อย่างนี้นี่เอง…”
ถ้าเป็นเช่นนี้มันก็อธิบายได้ไม่ยากว่าเหตุใดหลายปีที่ผ่านมานี้เขาถึงยังไม่ถูกจับได้เสียที แม้ว่าจะอยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์โดยตลอด
เพราะเขาถูกสลับตัวไปนั่นเอง
“เช่นนั้นผู้อาวุโสถงชวนตัวจริง…”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบพูดออกมาได้ครึ่งหนึ่ง เสียงก็หยุดชะงัก
ความจริงแล้วคำถามนี้ไม่ควรจะต้องถามอีกต่อไป
ในเมื่อถูกสิงไปแล้ว ผู้อาวุโสถงชวนตัวจริงก็ไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว
หรงซิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า
“เขาน่าจะถูกสับเปลี่ยนตัวตั้งแต่ตอนหลายปีก่อนที่ข้าเพิ่งออกจากพระราชวังเมฆาสวรรค์”
ความจริงแล้วตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เขาก็รู้สึกสงสัยมาโดยตลอด แต่ว่าในตอนนั้นยังมีเรื่องมากมายที่จะต้องจัดการ จึงไม่ได้ตามสืบเรื่องนี้ด้วยตนเอง
อีกทั้งหลังจากครั้งนั้น ผู้อาวุโสถงชวนก็ไม่ได้ดูผิดปกติอันใด และยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ได้ทิ้งหลักฐานอันใดไว้
หากเขาจะตรวจสอบอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องยากอย่างยิ่งแล้ว
จนครั้งนี้เรื่องมาเกิดกับไป๋หลีฉุน
“เมื่อหลายปีมานี้ ถ้ำปีศาจทมิฬก็หลบซ่อนตัวมาโดยตลอดไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงต้องยอมเปลืองแรงลอบส่งหัวหน้าคนหนึ่งเข้ามาในพระราชวังเมฆาสวรรค์ของพวกเราด้วยล่ะ?”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสับสน จากนั้นเขาก็เหลือบสายตามองไปทางหรงซิว
เหมือนกับว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายคือ…โอรสสวรรค์?
แม้ว่าครั้งนี้จะลงมือกับไป๋หลีฉุน แต่เป้าหมายของอีกฝ่ายเหมือนจะชี้ไปทางหรงซิว
“หลบซ่อนตัว ถึงจะมีเวลาและมีแรงทำสิ่งอื่นๆ ได้”
หรงซิวพูดขึ้นเสียงเรียบ
ความจริงแล้วเสียงเมื่อครู่นี้ไม่ได้เป็นเสียงของหัวหน้าที่ยึดร่างไป แต่เป็น…
เพื่อจัดการเขา อีกฝ่ายเพียรพยายามใช้ทุกวิถีทาง แม้กระทั่งยอมเสียสละหัวหน้าคนหนึ่ง
คนอย่างผู้อาวุโสถงชวน เมื่ออยู่ในกำมือของหรงซิวแล้วก็ยังมีจุดจบที่ไม่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกกวาดสายตามองไปโดยรอบ เมื่อมองเห็นสีหน้าของคนเหล่านั้นเขาก็พยักหน้าขึ้นลงด้วยความพึงพอใจ
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ปัญหาที่เกิดภายในพระราชวังเมฆาสวรรค์ก็น่าจะถูกแก้ไขทั้งหมดแล้ว
แต่หนึ่งในคนกลุ่มนั้นกลับได้แสดงสีหน้าที่ยอดเยี่ยมออกมา
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกขมวดคิ้วขึ้น
“ผู้อาวุโสอวี๋จิ้ง เจ้ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้อาวุโสถงชวนมาโดยตลอด เรื่องนี้…”
“ข้าไม่ทราบ!”
เขายังถามไม่ทันจบ ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งก็รีบปฏิเสธออกมาในทันที
เขามองไปทางหรงซิวด้วยความตื่นตระหนก อีกทั้งยังมีใบหน้าซีดขาว
“ฝ่าบาททรงปรีชา! เรื่องเหล่านี้ข้าไม่รู้เลยแม้แต่เล็กน้อย! ข้า แม้ว่าข้ากับเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลว แต่ความจริงแล้วเป็นเพราะเขามีสถานะที่สูงส่งกว่า ดังนั้นข้าจึงต้องคล้อยตาม แต่เรื่องภายในเหล่านั้น ไม่ได้ข้องเกี่ยวเลย เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน!”
เพราะว่าความวิตกกังวล ดังนั้นเสียงของเขาจึงแหลมขึ้นเล็กน้อย
เมื่อเขาพูดจบ หน้าผากของเขาก็มีเหงื่อผุดพราย
ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งไม่ได้เป็นคนโง่
ผู้อาวุโสถงชวนเป็นคนของถ้ำปีศาจทมิฬ อีกทั้งยังลงมือกับฝ่าบาท ในตอนนี้หากมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเขา เกรงว่าเขาจะไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดไปตลอดกาล!
ดังนั้นเขาจะต้องปัดมันให้พ้นตัวให้ได้!
หรงซิวหลุบตาลงต่ำแล้วมองไปยังเสวี่ยเสวี่ย
“ไปทำความสะอาดตัวที่เฮ่อเฉวียนเถอะ ตอนนี้เจ้าสกปรกมาก”
เฮ่อเฉวียนเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่บนยอดเขาซู่หมิง โดยปกติแล้วมีเพียงไม่กี่คนที่จะมีสามารถเข้าไปได้
และสิ่งสำคัญที่สุดคือ น้ำของเฮ่อเฉวียนมีสรรพคุณรักษาบาดแผล
และครั้งนี้เสวี่ยเสวี่ยก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อได้ยินดังนั้นเสวี่ยเสวี่ยก็ตอบรับอย่างยินดี และรีบหมุนตัวเดินออกไปอย่างมีความสุข
หรงซิวถึงได้เงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสอวี๋จิ้ง
เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“เจ้าไม่รู้อันใดเลยจริงๆ หรือ?”
*จับเต่าในไห สำนวนจีนหมายความว่า ทำในสิ่งที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
……….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...