ตอน บทที่ 1613 หน้าที่ของเจ้า จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1613 หน้าที่ของเจ้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
……….
พิธีสำคัญเช่นนี้ เผ่าหงส์ทองคำจะยินยอมให้มนุษย์ผู้หนึ่งอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงได้อย่างใด?
เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มีปัญหา
“เจ้าหมายถึง…”
โหมวเหยารู้สึกดีใจขึ้นมาในคราวแรก แต่ต่อมาก็ลังเลไปเล็กน้อย
“เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ละมั้ง… ซั่งกวนเยว่ผู้นั้นมีฐานะไม่ต่ำต้อย หากเผ่าหงส์ทองคำทำอันใดเกินควร เช่นนั้น… เกรงว่าเผ่ามนุษย์ก็คงจะไม่เห็นด้วย”
โหมวหยางพยักหน้า
“เรื่องนี้ข้ารู้สึกว่ามันแปลกประหลาด”
จากการคาดเดาของเขา อี้เจาน่าจะให้ซั่งกวนเยว่ยกเลิกพันธสัญญากับหงส์ทองคำตัวนั้น แต่เนื่องจากเขาพิจารณาด้วยสาเหตุหลายประการ พวกเขาน่าจะไม่ได้หมายเอาชีวิตของซั่งกวนเยว่จริงๆ
เรื่องนี้แก้ไขได้ไม่ยาก และใช้เวลาไม่เกินหนึ่งเดือน
บอกก่อนว่าตอนนี้งานพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษของพวกเขาก็ยังดำเนินอยู่
ซั่งกวนเยว่อยู่ที่นั่น ไม่แน่ว่าอาจจะเข้าร่วมงานพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ?
แต่ว่ามันก็ไร้สาระมากเกินไปแล้ว!
“ซั่งกวนจิ้งรออยู่ด้านนอกของภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงมาโดยตลอด ไม่ได้ติดตามเข้าไปด้วย”
โหมวหยางหลุบหน้าลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่
“คนของพวกเราไม่สามารถเข้าใกล้ได้มากเกินไป จึงสามารถสืบได้เท่านี้”
อสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลสองเผ่าพันธุ์มีการต่อสู้แข่งขันกันมาโดยตลอด ดังนั้นจึงใส่ใจความเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของอีกฝ่าย
แต่พวกเขาก็ยังมีกฎเกณฑ์ที่ยึดถือกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณนั่นคือห้ามล้ำอาณาเขตของอีกฝ่ายโดยพลการ
ยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้หงส์ทองคำจัดงานพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ พวกเขาจึงมีความระมัดระวังตัวมากขึ้นเป็นพิเศษ
ดังนั้นข้อมูลที่สืบได้จึงมีเพียงเท่านี้
“หากซั่งกวนจิ้งยังคงรออยู่ เช่นนั้นก็หมายความว่าซั่งกวนเยว่ยังไม่เป็นไร…”
โหมวเหยารู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา
“ไม่ว่าแผนการของพวกเขาจะเป็นอย่างใด ศักดิ์ศรีของเผ่าหงส์ทองคำก็ไม่สามารถท้าทายได้ ครั้งนี้ซั่งกวนเยว่จะต้องยกเลิกพันธสัญญากับหงส์ทองคำตัวนั้นอย่างแน่นอน แต่ทว่าอินทรีสามตาตัวนั้น… ไม่รู้ว่าพวกเขาจะจัดการอย่างใด”
ครั้นพูดถึงตรงนี้สีหน้าของโหมวเหยาก็เปลี่ยนไป เขาหัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา
“ถ้าท่านประมุขไม่พูดข้าก็เกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว อี้เจาเย่อหยิ่งขนาดนั้น? คนของเผ่าตนเองทำพันธสัญญากับมนุษย์ก็นับว่าแย่แล้ว แต่นี่ยังมีเจ้านายคนเดียวกับอินทรีสามตา เรื่องนี้เป็นความอัปยศอดสูงอย่างมาก! ข้าคิดว่าเขาจะต้องสังหารอินทรีสามตาตัวนั้นอย่างแน่นอน!”
โหมวหยางพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
“หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ดีไม่น้อย หลังจากนี้พวกเราก็สามารถหาโอกาสแย่งโครงกระดูกนั้นกลับมาได้”
ด้วยวิธีการเช่นนี้ก็จะสามารถกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาได้แล้ว
“ช่างเถอะ รออีกหน่อยแล้วกัน”
โหมวหยางส่ายหน้า
ขอเพียงแค่ไม่มีอันใดผิดพลาด เรื่องก็จะเป็นตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้
“เช่นนั้นเจ้าก็พักผ่อนให้ดีเถอะ”
เมื่อพูดจบ โหมวหยางก็หมุนตัวเตรียมตัวจากไป
“ประมุข!”
โหมวเหยารีบตะโกนเรียกเขาในทันที
โหมวหยางชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับมามอง
“มีอันใดหรือ?”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขาแล้ว โหมวเหยาก็รู้สึกเก้อกระดากเล็กน้อย
“ข้า… ร่างกายของข้าฟื้นตัวได้พอประมาณแล้ว สามารถไปจัดการงานหมื่นคีรีได้แล้ว…”
สิ่งที่เรียกว่างานหมื่นคีรีนั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จุดประสงค์หลักคือให้คนรุ่นใหม่เข้าร่วมทดสอบ เพื่อคัดเลือกคนส่วนหนึ่งเข้าไปฝึกฝนในแดนศักดิ์สิทธิ์บรรพชน
อีกทั้งพวกเขาจะได้รับทรัพยากรในการฝึกฝนไม่เหมือนกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับคะแนนของพวกเขา
ซึ่งผู้ที่โดดเด่นจะมีโอกาสสืบทอดตำแหน่งประมุขคนต่อไปได้
ก่อนหน้านี้โหมวเหยาเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้มาโดยตลอด
สีหน้าโหมวหยางดูดีขึ้นเล็กน้อย
เขาพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“งานหมื่นคีรีมีโหมวจื๋อคอยจัดการเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเรื่องทั่วไปก็เตรียมเสร็จสมบูรณ์แล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล แค่พักผ่อนให้ดีไปก็พอ”
หัวใจของโหมวเหยาดำดิ่ง และเห็นว่าโหมวหยางเดินจากไปในทันที
นี่กำลัง… ยึดอำนาจคืนอย่างนั้นหรือ?
ดวงตาทั้งสองข้างของเขาระเบิดความโกรธอันบ้าคลั่งออกมา! อีกทั้งยังแฝงไปด้วยความเคียดแค้นอย่างลึกซึ้ง!
ถ้าไม่ใช่เพราะซั่งกวนเยว่ เรื่องทุกอย่างจะเป็นเช่นนี้ได้อย่างใด?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...