สำนักหลิงเซียวเพิ่งจะประสบกับหายนะครั้งใหญ่ หากหนานซู่ไหวจะออกจากสำนักในตอนนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่สมเหตุสมผล…
มันจะต้องเกิดอันใดบางอย่างขึ้นแน่นอน
แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือว่าเรื่องร้าย…
อี้เหวินจั๋วหรี่ตามองเล็กน้อย หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วมุ่งหน้าไปทางห้องโถง
“จิ่วชิง”
อี้เหวินจั๋วผลักประตูเข้ามาด้านในทันที
เมื่อได้ยินเสียงนั้น จวินจิ่วชิงที่กำลังจ้องมองอันใดบางอย่างก็รีบวางของสิ่งนั้นในทันที แล้วลุกขึ้นยืน“อาจารย์”
อี้เหวินจั๋วกวาดสายตามองของที่อยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็ว แล้วขมวดคิ้วขึ้นมา
“เจ้ากำลังอ่านจดหมายจากราชวงศ์เป่ยหมิงอีกแล้วหรือ?”
จวินจิ่วชิงพยักหน้า
“เสด็จพ่อกล่าวว่า…”
“ตอนนี้เจ้าอยู่ในอาณาจักรเสิ่นซวี่แล้ว สนใจเกี่ยวกับเรื่องทางนี้จะดีกว่านะ”
อี้เหวินจั๋วพูดแทรกคำพูดของเขา
“ทางด้านราชวงศ์เป่ยหมิง เจ้าไม่จำเป็นจะต้องใส่ใจมากเกินไป เจ้าอย่าลืมสิสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกระดูกของเจ้ามันเป็นของตระกูลใด”
ขณะที่พูดประโยคหลัง อี้เหวินจั๋วก็จ้องมองจวินจิ่วชิงตาเขม็งพร้อมแฝงไปด้วยแรงกดดันอันแข็งแกร่งจนไม่สามารถบรรยายออกมาได้!
จวินจิ่วชิงนิ่งเงียบไปสักพักหนึ่ง เหมือนกับมุมปากกระตุกขึ้น
“อาจารย์พูดได้ถูกต้อง จิ่วชิงจะปฏิบัติตามคำแนะนำของท่านอย่างเคร่งครัด”
อี้เหวินจั๋วพยักหน้าอย่างพอใจ
เขาพาจวินจิ่วชิงมาที่นี่อย่างยากลำบาก ดังนั้นข้าจึงไม่อยากให้เขาสูญเสียเวลาและพลังไปกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
อี้เหวินจั๋ววางมือลงบนโต๊ะจากนั้นก็เคาะเบาๆ
“เมื่อครู่นี้หนานซู่ไหวเพิ่งออกจากสำนักไป”
ในแววตาของจวินจิ่วชิงมีความประหลาดใจปรากฏขึ้น
“ตอนนี้หรือขอรับ?”
“ไม่รู้ว่าเขาออกไปด้วยเหตุใด แต่ก็สามารถคาดเดาได้หลายส่วน”
อี้เหวินจั๋วหัวเราะเสียงเย็นพร้อมพูดขึ้นว่า
“สิ่งที่สามารถทำให้เขาออกจากสำนักหลิงเซียวตอนนี้ได้ น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญต่อชีวิตของเขามาก ซึ่งนี่เป็นไปได้อย่างมากว่า… จะต้องเกี่ยวข้องกับซั่งกวนเยว่แน่นอน”
อี้เหวินจั๋วยกมือขึ้น ส่งสัญญาณให้เขาไม่ต้องพูดแล้ว
“เจ้าดูแลเรื่องต่างๆ ในสำนักก็พอแล้ว เรื่องอื่นอาจารย์จะจัดการเอง”
จวินจิ่วชิงก้มหน้าลง
“ขอรับ ข้าจะทำตามคำสั่งของอาจารย์”
เงาร่างของ อี้เหวินจั๋ววูบไหว จากนั้นก็หายไปจากตำแหน่งเดิม!
ภายในห้องว่างเปล่าและเงียบกริบอีกครั้ง
จวินจิ่วชิงเงยหน้าขึ้น ใบหน้าราบเรียบอย่างมาก
เขาก้มหน้ามองจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นก็นั่งลงอีกครั้ง
หลังจากที่จัดการอารมณ์เรียบร้อยแล้ว เขาก็ค่อยๆ เก็บจดหมายลง ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ แล้วหลับตาลง
หลังจากผ่านไปสักพัก หนังตาของเขาก็กระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็เบิกตากว้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ในตอนนั้นเองภายในดวงตาทั้งสองข้างของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร!
“โดนกวาดล้างอีกแล้วหรือ? พวกเจ้าทำบ้าอันใดกันอยู่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...