“ถูกพิษ!”
มู่หงอวี๋ก็ตกใจมากเช่นกัน นางลืมความอายจนหมดสิ้นแล้วก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“เจ้าแน่ใจหรือ เขาไปโดนพิษอะไรมา เจ้ารู้หรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่เอาผ้าห่มคลุมให้เลี่ยวจงซูเหมือนเดิม นางไม่ได้ตอบคำถามมู่หงอวี๋ในทันที แต่กลับมองหน้าเลี่ยวจงซูแล้วเอ่ยถามว่า
“ในช่วงสองวันมานี้เจ้ารู้สึกคันขาบ่อยๆ แล้วพอเจ้าเกาผิวหนังก็ลอกแล้วมีเลือดออกใช่หรือไม่”
เลี่ยวจงซูพยักหน้าอย่างตกตะลึง
“เป็นอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ…แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร”
ฉู่หลิวเยว่เพียงแค่เหลือบมองผ่านอาภรณ์เท่านั้น นางก็สามารถเดาได้อย่างแม่นยำมาก!
“ไม่สำคัญว่าข้าจะรู้ได้อย่างไร สิ่งสำคัญคือตอนนี้คือพิษได้ลามไปทั่วร่างกายของเจ้าแล้ว และมันจะเข้าสู่ปอดของเจ้าภายในสามวันนี้ หลังจากนั้นแล้วก็จะไม่มีทางแก้พิษได้”
เลี่ยวจงซูกระวนกระวายขึ้นมาทันที
“มัน…ร้ายแรงขนาดนี้เชียวหรือ แต่ตอนที่ข้ากลับมา ข้าไม่เคยออกไปไหนเลย ข้าจะถูกพิษได้อย่างไร ที่สำคัญพวกอาจารย์ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้…”
“พิษชนิดนี้เรียกว่า กู่โลหิตแดง[1] และเป็นพิษชนิดที่หาได้ยากยิ่ง เมื่อติดเชื้อแล้ว บาดแผลบนร่างกายจะเปื่อยเน่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่ร้ายแรงกว่านั้นรอบบาดแผลจะห้อเลือดอย่างรวดเร็ว จากนั้นผิวหนังก็จะเปราะบาง มีอาการเจ็บและคันมาก เพียงสัมผัสเบๆ ผิวหนังก็จะลอกออกมา จนสุดท้ายผิวก็แตกแล้วเลือดออกหมดตัวถึงขั้นเสียชีวิตได้!”
คำพูดทุกถ้อยคำที่ฉู่หลิวเยว่กล่าวออกมา ทำให้มู่หงอวี๋และเลี่ยวจงซูหน้าซีดเผือด จนกระทั่งได้ยินมาจนถึงคำสุดท้าย พวกเขาก็หน้าซีดราวกับผีก็มิปาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลี่ยวจงซูที่โกรธจัดในตอนแรก แต่ตอนนี้เขาหายใจไม่ออกเมื่อได้ยินประโยคนี้
“นี่…นี่…ข้าก็ไม่รู้ว่าเหตุใด…หรือว่าข้า…”
เขาไม่สามารถพูดส่วนที่เหลือได้ แต่ฉู่หลิวเยว่และมู่หงอวี๋รู้ว่าเขากำลังกังวลถึงสิ่งใด
พิษอันร้ายแรงเช่นนี้ แม้กระทั่งอาจารย์ในสำนักยังจับสังเกตไม่ได้ เรื่องรักษายิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง!
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าชีวิตเขาจะเหลืออีกไม่กี่วันสุดท้ายแล้ว!
มู่หงอวี๋มองไปที่ฉู่หลิวเยว่ด้วยความกังวล
“หลิวเยว่ นี่มันร้ายแรงขนาดนี้เชียวหรือ ถ้าอย่างนั้นเจ้า เจ้ามีพอจะมีวิธีหรือไม่ ในเมื่อเจ้ารู้จักมัน เจ้าต้องหาทางรักษาได้ใช่หรือไม่”
เลี่ยวจงซูมองนางพร้อมกับความหวังสุดท้าย
ฉู่หลิวเยว่นิ่งเงียบไปชั่วขณะ
“ข้ารู้จักพิษชนิดนี้ก็จริง แต่ถ้าหากต้องการขจัดพิษออกจนหมด อย่างน้อยจำเป็นต้องปรุงยาที่มากกว่าร้อยชนิด แล้วตัวยาส่วนใหญ่ก็มีราคาแพงมาก ที่สำคัญภายในระยะเวลาอันสั้น ข้าเกรงว่ามันจะหายาก…”
หากเป็นนางในชาติที่แล้ว การรับมือกับพิษชนิดนี้ย่อมไม่มีปัญหา แต่สถานการณ์ปัจจุบันนั้น ช่างทำอะไรยากลำบากจริงๆ!
กลัวว่ามีบางอย่างที่อาจจะหายากในแคว้นเย่าเฉิน
แววตาของเลี่ยวจงซูค่อยๆ หม่นแสงลง
เขาตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้มอย่างขมขื่น
“ดูเหมือนว่า…ข้าคงต้องทำได้เพียงรอความตาย…”
มู่หงอวี๋มองฉู่หลิวเยว่ที มองเลี่ยวจงซูที ตอนนี้นางรู้สึกร้อนใจราวกับหัวใจถูกแผดเผา
เลี่ยวจงซูและนางมีความสัมพันธ์อันดีเสมอมา ประกอบกับการที่พวกเขามีชีวิตรอดกลับมาในครั้งนี้ได้ เพราะเลี่ยวจงซูช่วยเหลือไม่น้อย
มิตรภาพระหว่างพวกเขามันเกินกว่าเป็นเพียงแค่ศิษย์ร่วมสำนักธรรมดาไปแล้ว
แล้วตอนนี้จะทนดูเขาตายไปต่อหน้าต่อตาได้หรือ
บรรยากาศในห้องเข้าสู่ความเงียบ
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็โพล่งถามว่า
“เจ้าไปโดนพิษนี้มาได้อย่างไร”
เลี่ยวจงซูมีสีหน้ามึนงง
“ข้า ข้าก็ไม่รู้…ก่อนหน้าไปบรรพตวั่นหลิงก็ยังดีๆ อยู่ แต่ตั้งแต่กลับมาบาดแผลก็ทรงๆ ทรุดๆ ไม่ดีขึ้นเลย…”
“หมายความว่าเจ้าถูกพิษหลังกลับมาถึงสำนักอย่างนั้นหรือ”
“น่าจะ..ใช่ หลังจากที่ข้ากลับมาแล้ว แม้กระทั่งประตูนี้ข้ายังไม่เคยก้าวออกไปเลย”
เลี่ยวจงซูพูดพลางขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก
“แต่ว่า ข้าก็ไม่รู้ว่าปัญหามันมาจากตรงที่ใด ตั้งแต่กลับมาก็เริ่มรักษา ข้าก็ได้แต่ทำตามคำแนะนำของอาจารย์ว่าให้กินยาพักผ่อน…แล้วข้าก็ไม่เคยสัมผัสสิ่งใดเลย”
ฉู่หลิวเยว่ยกมือกอดอก แล้วจู่ๆ ก็ถามว่า
“จี้อวี้หรงทำอะไรกับเจ้าบ้าง”
“เขาน่ะหรือ เขาดีกับข้ามาก หลายวันมานี้เขาก็ดูแลข้าตลอด…นี่เจ้าสงสัยว่าเขาวางยาพิษอย่างนั้นหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์