………………..
ทันทีที่สิ้นเสียง โหมวเหยาก็หัวเราะเสียงเย็นออกมา
“จะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว? อาศัยแค่พวกเจ้าน่ะหรือ? ช่างใจกล้านัก! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย เพียงแค่แผ่นจานหยกอย่างเดียว ตอนนี้พวกเจ้าจะสามารถหาอันใดที่มีลักษณะเหมือนกันมาทดแทนกันได้หรือ? แล้วยังทำให้งานหมื่นคีรีล่าช้า ความผิดนี้ เจ้าจะรับผิดชอบมันได้อย่างใด?”
หรงซิวเหลือบสายตามองเขาเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ
“ข้าหรงซิว พูดได้ก็สามารถทำได้แน่นอน ในเรื่องนี้เกรงว่าไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นเป็นห่วง”
โหมวเหยารู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา เพลิงโกรธปะทุขึ้นอย่างรุนแรงมากกว่าเดิม
หรงซิวผู้นี้…เป็นคนที่ยากจะยั่วยุ!
เมื่อทั้งสองคนนี้อยู่ด้วยกัน ก็ทำให้คนอื่นรู้สึกโมโหจนเป็นบ้าได้!
โหมวหยางส่งสายตาให้กับโหมวเหยา
“โหมวเหยา เจ้าอย่าเพิ่งใจร้อน ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีหนทางจริงๆ”
โหมวเหยาไม่กล้าโต้เถียงคำพูดของเขา เพียงแต่แค่นหัวเราะเสียงเย็นหนึ่งเสียง จากนั้นก็กลืนคำพูดที่เหลือทั้งหมดลงคอ
โหมวหยางเงยหน้าหันไปมองทางหรงซิวกับฉู่หลิวเยว่พร้อมกวาดสายตามองพวกเขาทั้งสองคนอย่างแผ่วเบาแต่แสดงความหมายไม่ชัดเจน
“ความจริงแล้วพวกเขาก็ไม่ต้องการทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้เป็นผลดีแก่พวกเราทั้งสองฝ่าย เอาอย่างนี้ถ้าหากพวกเจ้ามีวิธีซ่อมแซมแผ่นจานหยกนั้นให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิมภายในเวลาครึ่งชั่วยาม ข้าก็จะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เป็นอย่างใด?”
ทันทีที่สิ้นเสียงนั้นภายในจัตุรัสขนาดใหญ่ก็เงียบเสียงลง
สายตาของคนจำนวนนับไม่ถ้วนจับต้องมาที่เงาร่างของคนทั้งสองที่อยู่กลางจัตุรัส
อยากรู้อยากเห็น สงสัย ประชดเสียดสี…
ทุกคนมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป แต่จนท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงรอคอยเรื่องราวน่าสนุก
เพราะพวกเขารู้เป็นอย่างดีว่า…บนโลกใบนี้ ไม่มีใครสามารถทำภารกิจนี้ได้สำเร็จภายในเวลาครึ่งชั่วยามแน่นอน!
“ประมุขโหมวหยางพูดจริงหรือไม่?”
หรงซิวเมินเฉยกับสายตารอบข้างทั้งหมด พร้อมถามขึ้นเสียงเรียบ
โหมวหยางพยักหน้า
“แน่นอนอยู่แล้ว”
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก สิ่งที่เขาพูดออกมาแต่ละคำล้วนผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว
มุมปากของหรงซิวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้น…ขอเชิญท่านและทุกคนรอสักครึ่งชั่วยามนะขอรับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็หันหน้ามองกันไปมา
หรงซิวหมายความว่าอย่างใด?
หรือว่าเขาจะสามารถทำได้จริงๆ ภายในเวลาครึ่งชั่วยามจะสามารถซ่อมแซมแผ่นจานหยกให้อยู่ในสภาพเดิมได้อย่างใด?
นี่เขามั่นใจในตัวเองถึงระดับใดกัน!
ฉู่หลิวเยว่สาวเท้าก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว แล้วกุมมือของเขาไว้
หรงซิวหันหน้ากลับไปมอง ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
สายตาทั้งสี่ประสานกัน
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สงบลงในทันที
หรงซิวสามารถทำได้แน่นอน
ต่อให้ทุกคนไม่เชื่อ แต่นางเชื่อ
หรงซิว…สามารถทำเรื่องเหล่านั้นได้จริงๆ!
หลังจากนั้นหรงซิวก็เดินออกไปที่ด้านข้างก่อนจะหยิบแผ่นจานหยกที่แตกเป็นเสี่ยงขึ้นมา
“เยว่เออร์ ขอข้ายืมของหน่อยสิ”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย
หรงซิวพูด
“กระดูกของไท่ซวีเฟิ่งหลง”
หางตาของฉู่หลิวเยว่กระตุกขึ้นอย่างรุนแรง!
หรงซิวต้องการของชิ้นนี้ไปทำอันใด?
สายตาของนางหันไปมองทางแผ่นจานหยกที่แตกละเอียดอย่างไม่รู้ตัว ความไม่สบายใจพวยพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงและกะทันหัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...