ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 292

เหตุการณ์นี้ช่างเป็นเหตุการณ์ที่คุ้นเคยเหลือเกิน

แต่เมื่อฉู่หลิวเยว่เห็น หัวใจก็ยังคงเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้

ถวนจื่อเหตุใดถึงกินสิ่งนี้ได้ด้วย!

ก่อนหน้านี้มันก็กินพลังของเหิงจิ่งชั่วไปแล้ว นางก็คิดว่าเพียงเท่านี้ก็ทำให้ทุกคนอ้าปากค้างแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้แม้กระทั่งรั้วกั้นที่เต็มไปด้วยพลังกดดันมันก็ยังสามารถกินได้อย่างง่ายดาย!

นี่ไม่ใช่ขนมดอกหอมหมื่นลี้สักหน่อย

เพราะนี่ทำให้รู้สึกอึ้งเกินไป ฉู่หลิวเยว่ก็ถึงกับพูดไม่ออกจึงทำได้เพียงจ้องมองถวนจื่อด้วยความงุนงงจากนั้นก็ใส่เข้าปากไปอีกชิ้นหนึ่ง

ฉู่หลิวเยว่ยังเห็นว่าบนเศษรั้วกั้นนั้นมีเศษเปลวไฟสีดำไหม้อีกด้วย

แต่เหมือนว่าถวนจื่อจะไม่สนใจ

เป็นเพราะไม่ได้ระวัง ทำให้ขนของมันถูกเผาไปเส้นหนึ่ง ยังดีที่เปลี่ยนมุมได้ทันจึงสามารถนำของสิ่งนั้นใส่เข้าปากแล้วกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

เปลวไฟสีดำยังคงลุกโชนอย่างบ้าคลั่ง แต่จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่าของสิ่งนี้ไม่ได้เก่งกาจสักเท่าไร

เพราะต่อให้ลุกโชนมากแค่ไหน สุดท้ายก็ถูกถวนจื่อจัดการกลืนกินเข้าไปทั้งหมดได้อยู่ดี

มองดูถวนจื่อเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็ใส่เข้าไปอีกคำหนึ่ง นางก็ใช้หางตาเหลือบมองอีกครั้ง

ถ้าเกิดให้คนอื่นมาเห็นฉากนี้เข้า คงจะตกใจกลัวจนอ้าปากค้างไปไม่น้อย

“ถวนจื่อ อร่อยหรือไม่?”

นางอดทนไว้จนสุดท้ายก็ทนไม่ได้จึงเอ่ยปากออกมา

ถวนจื่อได้ยินก็หยุดสักพัก ก่อนจะมองไปที่นางด้วยแววตาเป็นประกายพลางพยักหน้า

อร่อย!

อร่อยมาก!

อร่อยกว่า ‘ตะครุบจัทร์’ นั่นของเหิงจิ่งชั่วที่กินไปครั้งที่แล้วเสียอีก

ภายใต้การเปรียบเทียบนั้น ก่อนหน้านี้มันก็กินขยะไปทุกอย่างแล้ว

ฉู่หลิวเยว่ดูท่าทางเป็นมิตรของมันทำเอาตกใจไปที ก่อนจะเหลือบมองโดยไม่รู้ตัว

สรุปแล้วนางไปเก็บตัวอันใดมากกลับกันแน่…

เมื่อผ่านเรื่องราวก่อนหน้านี้มาแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็เดาออกแล้วว่าถวนจื่อนั้นไม่ใช่เพียงพอนโลหิตธรรมดา และไม่เหมือนกันสัตว์อสูรอื่นๆ ด้วย

นางไม่เคยได้ยินว่ามีสัตว์อสูรตัวไหนที่สามารถกินตะครุบจัทร์หรือพลังจิตเป็นอาหารมาก่อน

ก่อนหน้านี้นางยังไม่ทันได้สังเกต แต่ต่อมาเมื่อสังเกตแล้วก็เหมือนว่าถวนจื่อไม่ชอบกินของกินอันใด สิ่งที่มันชอบอย่างชัดเจนก็คือพลัง แล้วต้องเป็นก้อนใหญ่ๆ ด้วย

อย่างเช่นรั้วกั้นสีเงินที่มันกำลังกินอยู่ตอนนี้ ซึ่งสิ่งนี้ก็เกิดดจากการแข็งตัวของพลังจิตเช่นกัน และแรงดันที่อยู่ข้างบนนั้นก็แข็งแกร่งมากจริงๆ ฉู่หลิวเยว่จึงไม่ได้สงสัยเลยแม้แต่น้อย รั้วกั้นนี้สามารถขัดขวางผู้ฝึกของคนที่มีทักษะต่ำกว่าระดับเจ็ดแน่นอน

ฉะนั้นท่าทางของถวนจื่อตอนนี้ดูแล้วก็ยิ่งแปลกขึ้นเรื่อยๆ

จากที่ถวนจื่อกำลังกินอยู่อย่างบ้าคลั่ง และรูของรั้วกั้นก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และเปลวไฟสีดำที่ลุกลามอยู่ก่อนหน้านี้ก็เหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติ และค่อยๆ ถอยออกไปเรื่อยๆ

แต่ถวนจื่อเคลื่อนไหวรวดเร็วและได้กินรั้วกั้นที่ลุกไหม้อยู่ทีละชิ้นไปจนหมด

ฉู่หลิวเยว่มองดูอย่างเงียบๆ มีคลื่นเกิดขึ้นในใจอยู่นานไม่ยอมสงบลง

รั้วกั้นสีเงินที่เดิมทีนั้นสูงใหญ่มาก ไม่นานรั้วกั้นนี้พังทลายไปแล้ว และในที่สุดก็ถูกถวนจื่อจัดการไปแล้ว และมือข้างที่ถูกกลืนลงไปก็ไม่รู้ว่าถูกคลายออกตอนไหน

จนกระทั่งกำลังจะกินคำสุดท้าย ในที่สุดถวนจื่อก็จับพุงที่อ้วนกลมของตัวเอง และเอิกออกมาอย่างภูมิใจ

“เอิก…”

ฉู่หลิวเยว่เงียบไป

ถ้าเหิงจิ่งชั่วสามารถเห็นฉากนี้ได้ก็คงจะสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจแล้ว

จะมีกี่คนที่มีพลังจิตที่จะสามารถสู้กับรั้วกั้นอันแข็งแกร่งนี้ได้?

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว การที่ถวนจื่อกลืนกินพลังของเขาไปนั้น ก็ถือว่าประนีประนอมมากแล้ว

ฉู่หลิวเยว่ที่มองดูรั้วกั้นที่แตกสลายนั้น จนจิตใจล่องลอยอยู่นาน

สักพักนางจึงค่อยๆ มองไปยังถวนจื่อ

“ถวนจื่อ เจ้าบอกข้ามาตามตรงว่าเจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อกินสิ่งใช่หรือไม่?”

ถวนจื่อจามไปหนึ่งที…ฉู่หลิวเยว่เงียบไป

นี่มันเหมือนว่ากำลัง…ถ่อมตัวอยู่

ฉู่หลิวเยว่ถึงกับกุมขมับ

รั้วกั้นชั้นที่เจ็ดถูกถวนจื่อกินไปอย่างง่ายดาย เรื่องนี้ต้องเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้อาวุโสในสำนักแน่นอน

“นี่มัน…”

การเคลื่อนไหวนี้ผิดปกติ!

เขาเฝ้าหอคอยจิ่วโยวมานานหลายปี ก็ยังไม่เคยรู้สึกถึงความผันผวนเช่นนี้มาก่อน!

แต่ครึ่งปีหลังนี้ หอคอยจิ่วโยวมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่ผ่านมาก็ยังอยู่ในขอบเขตที่สามารถควบคุมได้ตลอด ฉะนั้นถึงแม้ว่าหัวหน้าสำนักจะอยู่ในนั้นก็ไม่ได้นำมาใส่ใจอันใด

แต่ตอนนี้…

ตึง!

จู่ๆ ประตูหอคอยจิ่วโยวก็เปิดออก

ร่างหลายร่างถูกพลังอันแข็งแกร่งค่อยๆ โยนออกไปทีละร่าง

นั่นก็คือเหล่านักเรียนที่ฝึกฝนอยู่ในหอคอยจิ่วโยว

เสียงตะโกนร้องตกใจดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอันใดขึ้น!

ในนั้นยังมีคนที่ทนพลังนี้ไม่ไหวจนกระอักเลือดออกมาด้วย

ทรมานสุดๆ

ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นหยุดชะงักทันที

ผ่านมาหลายปีแล้ว ยังไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับหอคอยจิ่วโยวเลยสักครั้ง

เขารีบลุกขึ้นและตบลงไปบนอัญมณีสีดำที่อยู่ตรงหน้าทันที

แล้วลำแสงเปล่งประกายก็ส่องขึ้นไปบนฟ้า

“หอคอยจิ่วโยวเปลี่ยนไปแล้ว นอกเหนือจากอาจารย์ผู้อาวุโสแล้ว ให้นักเรียนทุกคนกลับไปให้หมด!”

ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นตะโกนเสียงดัง แล้วเสียงก็ก้องกังวานไปทั่วทันที

เมื่อนักเรียนทุกคนที่ถูกไล่ออกมาจากหอคอยจิ่วโยวได้ยินแล้ว ก็นิ่งอึ้งไปสักพักก่อนจะรีบแยกย้ายถอยกลับ

ในขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ในสำนักต่างก็เห็นลำแสงนี้กันหมดทุกคน

“คำเตือนระดับแรก! เกิดอะไรขึ้นกับหอคอยจิ่วโยว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์