เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 517

“นั่นอันใดน่ะ?”

เมื่อเห็นว่ากองเพลิงสีทองกระจายขึ้นมา หนิงเจียวเจียวและคนอื่นๆ ก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง

พวกเขาวิ่งขึ้นไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เห็นว่ามีหลุมยุบขนาดใหญ่มหึมา!

อีกทั้ง…ด้านในนั้นก็ปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีทองเต็มไปหมด!

เดิมทีพวกเขาคิดว่าจะเข้าไปดูให้ใกล้กว่านี้ ให้ละเอียดกว่านี้ แต่กลับโดนความร้อนของเปลวเพลิงบีบให้ต้องถอยร่นลงมา

ทำให้พวกเขายืนดูที่ด้านนอกเท่านั้น จากนั้นพวกเขาก็เบิกตามองไปรอบๆ

“ฉู่หลิวเยว่ล่ะ?”

หยางเซิ่นเอ๋อร์มองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของฉู่หลิวเยว่

เมื่อครู่นางเดินทางมาทางนี้อยู่ชัดๆ หรือว่า…

“ฉู่หลิวเยว่ลงไปด้านล่างนั้นแล้วหรือ?”

พวกเขาทั้งหลายมองหน้ากันไปมา

นอกจากเหตุผลนี้ ก็เหมือนว่าจะไม่มีคำอธิบายอื่นที่สมเหตุสมผลไปกว่านี้แล้ว

“เปลวเพลิงนี้มัน.. หากตกลงไปก็มีแต่ตายเท่านั้น! นางน่าจะถูกส่งออกจากอาณาจักรเทพเทียนลิ่งไปแล้ว” ชายร่างผอมสูงคาดเดา “พวกเรารอให้กระบี่หลงหยวนตื่นเต็มที่ก่อนเถอะ!”

ส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่มีความคิดเห็น

ไม่ว่าฉู่หลิวเยว่จะเป็นอย่างใด แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกระบี่หลงหยวน!

พวกเขาเงียบเสียงลง และเริ่มรออย่างใจจดใจจ่อ

หลังจากนั้นก็มีผู้เข้าแข่งขันมายืนล้อมที่หลุมยุบแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ทุกคนต่างนิ่งเงียบ ไม่แสดงท่าทีอันใดทั้งสิ้น พวกเขาล้วนรอคอยการตื่นของกระบี่หลงหยวนทั้งสิ้น

เมื่อรวมกับหยางเซิ่นเอ๋อร์ สี่คนที่อยู่ด้านในแล้ว พวกเขามีกันทั้งสิ้นเก้าคน

คนจำนวนนี้ดูเหมือนว่าจะน้อย แต่ความจริงแล้วก็เป็นเรื่องยากมากที่พวกเขาจะอยู่จุดนี้ได้

คนอื่นๆ ถูกส่งตัวออกไปด้านนอกเพราะไม่สามารถทนต่อพลังที่ไหลเข้ามาในร่างกายอย่างต่อเนื่องได้

ส่วนคนกลุ่มสุดท้ายที่สามารถอยู่ที่นี่ได้ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะมีของวิเศษติดตัว ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะมีชีพจรตี้จิงที่โดดเด่น

สรุปแล้วพวกเขาไม่ใช่คนที่จะถูกกำจัดได้ง่ายๆ

เชียงหว่านโจวมาถึงที่นี่เป็นคนที่สิบ

บนตัวของเขามีรอยเปื้อนมากมาย แต่ยังดีที่ไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอันใด

เมื่อเขามาถึงที่ด้านข้างของหลุมยุบนี้ เขาก็มองลงไปด้านล่าง พร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย

ปราณของฉู่หลิวเยว่ อยู่ในกองเพลิงสีทองแห่งนี้!

หลังจากที่เขายืนครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่ง เขาก็เลือกที่จะยืนรออยู่ที่เดิม

อินทรีสามตาบินเข้าไปในกองเพลิงสีทอง และพาฉู่หลิวเยว่ลงไปที่ด้านล่าง!

เปลวเพลิงสีทองบดบังสายตาการมองเห็นของเขาทั้งหมด

ฉู่หลิวเยว่สามารถสัมผัสได้กับเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำอยู่รอบๆ อย่างบ้าคลั่ง

ทันใดนั้นเอง นางก็เห็นว่าใจกลางของกองเพลิงสีทองนั้นมีประตูบานหนึ่งปรากฏขึ้นมา!

“นั่นคืออันใดน่ะ?” ฉู่หลิวเยว่รีบถามขึ้นทันที

อินทรีสามตาไม่พูดอันใด แต่ก็พุ่งตรงไปทางนั้นอย่างรวดเร็ว!

เมื่อเข้ามาใกล้ๆ ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็มองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว มันคือประตูสีดำบานใหญ่บานหนึ่ง!

ไม่รู้ว่าประตูบานนั้นทำมาจากอันใด แต่มันดูมืดมนอย่างมาก ทำให้คนที่เห็นรู้สึกสันหลังเย็นวาบ

บนประตูบานใหญ่บานนั้นมีรอยแกะสลักอยู่รูปหนึ่ง

มันคือกระบี่เล่มหนึ่ง

ฉู่หลิวเยว่มองไปที่มัน และจำได้ทันทีว่ากระบี่เล่มนั้นคือกระบี่หลงหยวน!

“นั่นคือกระบี่หลงหยวนที่ปิดผลึกโครงกระดูกอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นอยู่!”

อินทรีสามตาพูดเสียงจริงจัง

และยังมีไข่มุกขนาดเท่าลูกลำไย กระจายอยู่ทุกซอกทุกมุม ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า ของสิ่งนี้หากมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ด้านนอกก็สามารถเรียกราคาหนึ่งหมื่นผนึกศิลาขาวได้แล้ว!

หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่มองสมบัติมากมายขนาดนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นลมหายใจ

ความมั่งคั่งขนาดนี้… มันน่ากลัวมาก!

สิ่งของเหล่านี้ไม่เหมือนกับโอสถหรือเคล็ดวิชาการต่อสู้ แต่ว่าทั้งหมดนี้มันคือเงิน เงินจริงๆ

เพียงแต่ว่า เหมือนว่าที่นี่จะถูกปล่อยร้างมานานเกินไป ดังนั้นของทุกอย่างจึงมีฝุ่นขึ้นหนา

ฉู่หลิวเยว่บ่นเบาๆ ว่า

“หรือว่านี่จะเป็นคลังสมบัติที่ท่านปฐมกษัตริย์ทิ้งเอาไว้หรือ…”

“ที่นี่เป็นรังเก่าของไท่ซวีเฟิ่งหลง!”

คำพูดของอินทรีสามตาทำให้ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกตะลึงทันที

“อันใดนะ?!”

“เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลง เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล มีคำกล่าวว่า…พวกมันชอบสะสมสมบัติมากที่สุด…”

อินทรีสามตาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นถึงได้พูดประโยคสุดท้ายออกมา

เผ่าของไท่ซวีเฟิ่งหลงนั้นมีตำแหน่งสูงส่ง เรื่องฝีมือนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย

เหมือนว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ทุกตัว จำเป็นจะต้องกราบไหว้พวกมัน

แต่ว่า เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงนั้น มีงานอดิเรกอย่างหนึ่ง…พวกมันชอบสะสมเครื่องประดับที่ส่องประกายวิบวับและหยกมากที่สุด มันจะรวบรวมของเหล่านี้มาจากพื้นที่ทั่วโลก แล้วนำมากองไว้ที่รังของมัน

งานอดิเรกแบบนี้ จะพูดว่าอย่างใดดี…

ความจริงแล้ว นิสัยแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่เมื่อคิดได้ว่าเขาเป็นไท่ซวีเฟิ่งหลง ทุกวันก็จะนอนอยู่บนกองหยกแบบนี้ ภาพที่เคยจินตนาการว่าเป็นอสูรร้าย ก็ถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิง

เดิมทีเรื่องแบบนี้อินทรีสามตาคิดว่าเป็นเพียงแค่ตำนาน แต่คิดไม่ถึงว่า…

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า แล้วมองไปรอบๆ

“ในเมื่อพวกเรามาอยู่ที่รังเก่าของมันแล้ว แต่เหตุใดไม่เห็นโครงกระดูกล่ะ…”

เสียงของฉู่หลิวเยว่ชะงักไปทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์