เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 573

ในชั่วพริบตานั้นเอง จั่วหมิงซีมองตามสายตาของเขาที่จับจ้องมายังร่างของตน

“อ้า ท่านหมายถึงเรื่องนี้เองหรือ! ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้ไปทำมันตกไว้ที่ใด หาเท่าไรก็ไม่เจอ ผ่านมาสองวัน อันที่สั่งทำใหม่น่าจะเสร็จแล้ว”

เจียงอวี่เฉิงผงกศีรษะรับว่าเข้าใจ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง”

จั่วหมิงซีมองเขา ก่อนเอ่ยถามหยั่งเชิง

“ข้ารู้ว่าหมอหลวงเข้าวังล้วนต้องห้อยหยกพก แต่ว่า…เรื่องของฝ่าบาทล่าช้ามิได้ ข้าคิดไปคิดมา จึงตัดสินใจมาโดยทันที”

เจียงอวี่เฉิงยิ้มบาง

“ใต้เท้าจั่วโปรดอย่าเก็บไปใส่ใจ ข้าไม่ได้จะโทษท่าน เพียงแค่เห็นเข้าโดยบังเอิญจึงเกิดความสงสัยเล็กน้อย ท่านพูดไม่ผิด เรื่องของฝ่าบาทต้องมาเป็นลำดับแรก ยิ่งไปกว่านั้น หยกอันใหม่ก็ทำเสร็จแล้ว เรื่องนี้ไม่มีอันใดที่ต้องสืบสวนแล้ว”

จั่วหมิงซีพ่นลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

“เพียงแต่ว่าเรื่องนี้นั้นเกี่ยวข้องกับสถานะและภาพลักษณ์ ภายหลังใต้เท้าจั่วโปรดระมัดระวังด้วย”

“แน่นอน แน่นอนอยู่แล้ว”

คนทั้งสองพูดคุยต่ออีกเล็กน้อย ก่อนจั่วหมิงซีจะขอตัวไปก่อน

เจียงอวี่เฉิงผินศีรษะกลับไปมองครั้งหนึ่ง ก่อนจะหมุนกายจากไป

สำนักชงซูเก๋อ

ฉู่หลิวเยว่ยังคงนั่งอยู่บนพื้น ฝ่ามือทาบลงบนพื้นที่โดยรอบที่ซึ่งเต็มไปด้วยทรายรวมศูนย์จำนวนมาก

ริมฝีปากของนางเริ่มซีดเผือด ทว่าโชคยังดีที่วิญญาณยังคงอยู่ในสภาพดี

ทรายรวมศูนย์ภายในสวนยานั้น รวมตัวกันได้หนึ่งในสามส่วนแล้ว

ทรายรวมศูนย์ที่ซึ่งเคยเป็นเศษผงธุลีมาก่อน ค่อยๆ รวมตัวกันกลายเป็นมวลทรายขนาดใหญ่

ทว่ายามพวกมันมารวมตัวกัน กลับดูเหมือนของเหลวที่สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างอิสระ

แต่พลังจากทุกส่วนภายในร่างกายของฉู่หลิวเยว่ แทบจะสูญสิ้นไม่เหลือ!

เมื่อความคิดของนางโลดแล่น พลังจากหยดน้ำก็ไหลรินพวยพุ่งขึ้นมา ความเหนื่อยล้าต่างๆ ที่ประสบล้วนหายไปในชั่วพริบตา

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตื่นตายิ่ง นางเร่งความเร็วขึ้นอีก

เชียงหว่านโจวเฝ้าดูอยู่ด้านข้างอย่างเป็นกังวล ริมฝีปากยังคงเม้มแน่น

ส่วนอวี้ฉือซงที่อยู่ภายนอก เมื่อเห็นฉากตรงหน้า หัวใจก็รู้สึกราวกับถูกห้อยไว้อยู่กลางอากาศ

ทรายรวมศูนย์ค่อยๆ ปรากฏอยู่บริเวณฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่ และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

ยามตะวันคล้อยลง ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็สามารถรวมทรายรวมศูนย์ภายในบริเวณสวนยาทั้งหมดได้

นางควบคุมลมหายใจของตน เงยหน้ามองไปยังอวี้ฉือซง

“อาจารย์ เกรงว่าท่านคงต้องปลดค่ายกลออกเสียก่อน”

มิเช่นนั้นล่ะก็ อาจส่งผลต่อทรายรวมศูนย์ที่นางรวบรวมไว้ได้

แม้ในใจอวี้ฉือซงจะกังวล ทว่าก็ยังยอมพยักหน้ารับคำ

“ได้”

พูดจบ เขาก็ตวัดแขนครั้งหนึ่ง ค่ายกลพลันสลายไป!

คราวนี้ รอบข้างฉู่หลิวเยว่ก็ไร้ซึ่งเครื่องป้องกันอื่นใดอีก

นอกจากเชียงหว่านโจวที่ยืนอยู่ไม่ไกลออกไปแล้ว ยังมีอวี้ฉือซงที่ยืนอยู่ข้างนอกอีก

ฉู่หลิวเยว่ปิดเปลือกตาลง ควบคุมลมหายใจกำหนดสมาธิ

พลังจากหยดน้ำไหลรินออกอย่างต่อเนื่อง!

ภายในความมืดมิดนั้น นางมองไม่เห็นสิ่งใดเลย

และมีเพียงแค่เสียง ‘ซ่า ซ่า’ แผ่วเบา ดังแว่วมาจากทั่วทิศทาง!

ยิ่งเข้าใกล้ฉู่หลิวเยว่ สุ้มเสียงนั้นก็ยิ่งชัดเจน!

ไม่ต้องมองก็รู้ว่านั่นคือทรายรวมศูนย์ที่แพร่กระจายไปทั่วภูเขาชิงหยวน!

ได้ยินเสียงนี้แล้ว อวี้ฉือซงก็ขนลุกชันแทบจะทั้งตัว

นี่…นี่พวกมันมีทั้งหมดเท่าไรกันแน่!?

ภูเขาชิงหยวนทั้งลูกอาจถูกทรายรวมศูนย์ปกคลุมโดยสมบูรณ์แล้วก็เป็นได้!

ถ้าหากวันนี้ไม่มีฉู่หลิวเยว่ พวกเขาคงทำได้เพียงปล่อยให้ทรายรวมศูนย์เหล่านี้แผ่ขยายต่อไป!

อีกไม่นาน ภูเขาลูกนี้ทั้งลูกจะกลายเป็นภูเขาร้าง!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจอวี้ฉือซงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

ถ้าหากว่าเป็นฝีมือของเจียงอวี่เฉิงจริงๆ…เขาจะทำเช่นนี้ไปด้วยเหตุใด!

เวลาค่ำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

อวี้ฉือซงกับเชียงหว่านโจวคอยยืนคุ้มกันทั้งคืน

ยามแสงอาทิตย์ตอนเช้าตรู่สาดส่องไปทั่ว เสียง ‘ซ่า ซ่า’ ที่เคยดังไม่หยุดหย่อน บัดนี้ล้วนหายวับไปเสียแล้ว!

คนทั้งสองมองไปยังฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาแจ่มชัด

ขนาดก่อนหน้านี้ พวกเขาได้เตรียมจิตใจให้มั่นคงแล้ว แต่ว่าเมื่อมาพบเจอฉากของจริง อวี้ฉือซงยังคงรู้สึกตกใจอย่างมากอยู่ดี

ทั่วทั้งร่างของฉู่หลิวเยว่ บัดนี้ถูกปกคลุมด้วยทรายรวมศูนย์ที่แปรสภาพเป็นแผ่นใส จนดูคล้ายกับลำธารสายเล็ก มันลอยอยู่บนอากาศ คอยหมุนวนรอบตัวฉู่หลิวเยว่!

เชียงหว่านโจวพลันหยุดชะงักลง

“เหตุใดหรือ?”

ของสิ่งนี้อันตรายอย่างมาก หากไม่รีบจัดการแล้วล่ะก็…

“รอก่อนเถิด!”

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกเหมือนสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง นางส่ายศีรษะ บอกเป็นนัยให้เชียงหว่านโจวถอยออกไปก่อน

อวี้ฉือซงที่อยู่ด้านนอกก็มีความรู้สึกว่าไม่ถูกต้องเช่นกัน และถามออกไปด้วยความกังวล

“สรุปเป็นอย่างใดบ้าง มีอันใดเกิดขึ้นหรือไม่?”

เชียงหว่านโจวหัวคิ้วขมวดเป็นปมแน่น พลางส่ายศีรษะไปมา

ฉู่หลิวเยว่ปรายตามองเขาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

ผู้คนล้วนพากันเงียบเสียงลง สายตาจ้องเขม็งไปยังผลึกน้ำแข็งสีแดงที่หดเล็กลงไม่หยุด

จนเมื่อมันหดตัวลงจนมีขนาดเท่าฝ่ามือแล้วนั้น ในที่สุดมันก็หยุดการเคลื่อนไหวลง

ผลึกสีเข้มสวยสดส่องแสงสว่างนวลจับตา ดูแล้วคล้ายอัญมณีทับทิมก้อนหนึ่งก็มิปาน

มันลอยนิ่งอยู่กลางอากาศต่อหน้าฉู่หลิวเยว่

ฉู่หลิวเยว่จึงยืดแขนออกไปอย่างลังเล แล้วคว้าเจ้าผลึกน้ำแข็งสีแดงมาไว้ในมือ

ผลึกนั่นเย็นยะเยือก ทว่าก็เพียงพอที่จะรับรู้ถึงพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ภายในได้เลือนราง!

ครู่ต่อมา ผลึกน้ำแข็งสีแดงก้อนนี้ก็อาศัยปากแผลบนฝ่ามือที่ยังเปิดอยู่ เจาะเข้าไปยังภายในร่างกายของนาง!

“หลิวเยว่!”

อวี้ฉือซงและเชียงหว่านโจวมองดูฉากนี้ พร้อมใจที่เต้นระรัวอย่างรุนแรง!

ทว่าฉู่หลิวเยว่กลับตื่นตระหนก

เพราะว่าหลังจากผลึกน้ำแข็งสัมผัสกับเลือดของนาง มันก็ละลายทันที อีกทั้งมันยังแผ่ขยายตามชีพจรดั้งเดิมของนาง…

ตำแหน่งตันเถียน?

หยดน้ำยังคงสงบนิ่ง ไร้ซึ่งคลื่นกระทบรบกวน

ครู่ต่อมา ผลึกน้ำแข็งสีแดงเหล่านั้นกลับถูกดูดกลืน!

ก่อนที่พลังอันอบอุ่นสายหนึ่ง จะค่อยๆ ไหลรินออกมา และหล่อเลี้ยงไปทั่วทุกส่วนในร่างกายของฉู่หลิวเยว่

ฉู่หลิวเยว่อ้าปากค้างอย่างตื่นตะลึง

ผ่านไปครู่ใหญ่ นางก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ พลางเอ่ยถามหยดน้ำด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ

“เจ้า… เจ้า… เจ้าตั้งใจจะดูดซับพลังของทรายรวมศูนย์อย่างนั้นหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์