บทที่ 624 นางไม่กลัวเจ็บหรือกลัวตาย [รีไรท์] – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 624 นางไม่กลัวเจ็บหรือกลัวตาย [รีไรท์] จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
พลังของทัณฑ์สวรรค์อาละวาดไปทั่วร่างกายของฉู่หลิวเยว่ และแทบจะฉีกอวัยวะภายในของนางออกเป็นชิ้นๆ
นางกัดปากแน่นจนห้อเลือด ลมปราณของนางถูกแต่งแต้มด้วยไอโลหิต ใบหน้านวลซีดเซียว พร้อมกับเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผากราวสายน้ำ
ในตอนนี้ ไม่ต้องมองก็รู้ได้ทันทีว่ามือของนางเปื่อยพุพองไปหมดแล้ว!
มีเลือดสีแดงเข้มไหลตามข้อมือของนาง
แต่นางยังคงจับด้ามไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
นางอดทนต่อความเจ็บปวดอันน่าสะพรึงกลัว โดยใช้สติสัมปชัญญะเส้นสุดท้าย เพื่อควบคุมพลังภายในของนาง!
พลังปราณดั้งเดิมเพิ่มขึ้นทีละน้อยจากแขนขาและกระดูกของนาง ทำให้พลังของทัณฑ์สวรรค์ที่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งนั้น ม้วนตัวกลับเข้าไปในอุ้งมือของนางได้อย่างราบรื่น
จากนั้นนางก็ถ่ายเทพลังเหล่านี้กลับเข้าไปในกระบี่เทพเมฆาสำริด!
ก่อนจะมีแสงสีน้ำเงินสว่างวาบเปล่งออกมา
ด้วยความแข็งแกร่งของพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ สีของตัวกระบี่จึงเข้มข้น และบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
แสงสลัวค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนกระบี่เทพเมฆาสำริด
ราวกับค่ำคืนอันมืดมิดและไร้ขอบเขตที่มีแสงดาวเรืองรอง
เมื่อองค์ไท่จู่เห็นภาพนี้ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งตรึงใจ
สำเร็จแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่ทำได้แล้ว
นางใช้ร่างกายของตัวเองรองรับทัณฑ์สวรรค์สายแรกได้แล้ว
ครืน!
จากนั้นก็เสียงครืนอีกเสียงดังแผ่กระจายไปทั่วหมู่เมฆ
องค์ไท่จู่ตกใจ พลันหันควับเงยหน้าขึ้นไปมอง
ก่อนจะเห็นความผันผวนของพลังปราณอันมืดมิด และทัณฑ์สวรรค์สายที่สองก็ได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว! แล้วพุ่งเข้าฉู่หลิวเยว่ทันที
“รวดเร็วอันใดเช่นนี้?”
องค์ไท่จู่ตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้าจนพูดไม่ออก!
โดยทั่วไปแล้ว จำนวนของทัณฑ์สวรรค์ที่สามารถเรียกออกมาได้นั้น จะแตกต่างกันไปตามความสามารถของผู้หล่อหลอมและตัวกระบี่
ไม่ว่าจะเป็นเก้าครั้ง หรือแปดสิบเอ็ดครั้ง ล้วนเกี่ยวกับการยึดเลขเก้าเป็นหลักการนับทั้งสิ้น
หนึ่งเก้า เท่ากับขั้นที่หนึ่ง!
เดิมทีเขาคิดว่า ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉู่หลิวเยว่ และแก่นวิญญาณนกยูงสำริดหายากที่สถิตอยู่ในดาบกระบี่เทพเมฆาสำริดนั้น ควรจะสามารถดึงดูดทัณฑ์สวรรค์ได้สิบแปดครั้ง
ซึ่งนั่นก็จะนับเป็นขั้นที่สอง
แต่จำนวนรอบเหล่านั้นไม่ควรจะมาเร็วเช่นนี้!
ทว่าขณะที่องค์ไท่จู่กำลังตกใจและสับสน ทัณฑ์สวรรค์สายที่สองก็ก่อตัวขึ้น แล้วฟาดลงมาใส่ฉู่หลิวเยว่อย่างจัง!
เกิดแสงระยิบระยับเจิดจ้าไปทั่วพื้นที่ และตรงกลางนั้นก็มีร่างเพรียวบางราวต้นสน ยืนหยัดตัวตรงไม่สะทกสะท้านด้วยความภาคภูมิใจอยู่ตรงนั้น!
องค์ไท่จู่จ้องมองภาพนั้นตาไม่กระพริบ พลางเอ่ยเสียงงึมงำ
“คะ…ครั้งนี้คงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ…”
…
ณ แอ่งสี่ทิศ
งานประชุมสำนักวิชายังคงดำเนินไปอย่างเอิกเกริก
หลังจากประลองไปได้พักหนึ่ง ทั้งชงซูเก๋อและพันธมิตรเก้าดารา ต่างก็มีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ
สาวกส่วนใหญ่ของชงซูเก๋อนั้นเป็นเซียนหมอ ทำให้พวกเขาค่อนข้างได้เปรียบ และมีแนวโน้มว่าจะชนะมากกว่า
แต่ในแง่ของนักรบนั้น เห็นได้ชัดว่าพันมิตรเก้าดาราเหนือชั้นกว่ามาก
ส่วนในประเภทปรมาจารย์…ระดับของทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ได้ต่างกันมากนัก
ดังนั้นหลังจากเปรียบเทียบกันแล้ว คะแนนของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ห่างกันเลยสักนิด
การแข่งขันระหว่างทั้งสองฝ่าย เริ่มกลายเป็นต่อสู้แบบการชักเย่อที่เดี๋ยวดึงเดี๋ยวปล่อย
ทว่าในทางกลับกัน การประลองของสำนักอื่น กลับเป็นการประลองแบบนัดเดียวจอด
การที่สำนักวิชาหนึ่งสามารถดำรงตำแหน่งอยู่ในสี่นิกายหลักมาได้หลายปีขนาดนี้ แค่นั้นก็พิสูจน์ได้แล้วว่า สำนักวิชาอื่นๆ อย่างเช่น สำนักภูเขาเขี้ยวมังกรนั้น แข็งแกร่งเพียงใด
อยากล้มพวกเข้าอย่างนั้นหรือ มันยังเร็วไปอีกร้อยปี
แต่ดูๆ แล้ว พันธมิตรเก้าดาราก็เหมือนจะพอมีหวังชนะชงซูเก๋อยู่บ้าง
เพราะการประลองนับผลคะแนนเป็นรายบุคคล
จางหัวและคนอื่นๆ ยืนมองการประลองอยู่ข้างสนาม
ก่อนที่ผู้อาวุโสคนหนึ่งจะเข้ามาใกล้จางหัว และพูดด้วยเสียงต่ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...