เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 678

เจียงอวี่เฉิงเหลือบสายตามองเฟิงซานหยวน จากนั้นอีกฝ่ายจึงขอตัวกลับทันที

จากนั้นมู่ชิงเห่อจึงได้เดินเข้ามา

เจียงอวี่เฉิงเอนตัวพิงเก้าอี้

“พูดมาเถิด มีเรื่องอันใดหรือ?”

มู่ชิงเห่อประสานหมัดทั้งสองมือขึ้น

“คุณชายใหญ่ ช่วงนี้ข้าน้อยได้สืบเรื่องหอร้อยโอสถอย่างลับๆ อยู่ตลอด แต่พวกเขาปกปิดได้ดีมาก ดังนั้นจึงยากมากที่จะสืบเรื่องราวออกมาได้ แต่ว่าข้าน้อยได้รู้เรื่องบางอย่างของหอร้อยโอสถมาอย่างไม่ตั้งใจ เบื้องหน้าหอร้อยโอสถมีเย่ว์หลิงเป็นประมุข แต่ความจริงแล้ว เบื้องหลังของพวกเขามีอีกคนที่เป็นนายใหญ่ และคนผู้นั้นคือเจ้าของตัวจริงของหอร้อยโอสถ”

“นายใหญ่?”

เจียงอวี่เฉิงขมวดคิ้วมุ่น

“คนผู้นั้นคือใครกัน?”

เขารู้เพียงแค่ว่าที่หอร้อยโอสถมีอย่างทุกวันนี้ได้ จะต้องมีคนที่อยู่เบื้องหลังแน่นอน แต่ไม่รู้จริงๆ ว่าคนผู้นั้นคือใคร

อีกทั้งเพราะก่อนหน้านี้หอร้อยโอสถได้ทำการค้ามาอย่างเงียบๆ โดยตลอด ไม่ได้ก้าวก่ายอำนาจของเขา เขาจึงไม่เคยส่งคนไปตรวจสอบอย่างจริงจัง

มู่ชิงเห่อส่ายหน้า

“คนผู้นี้ลึกลับอย่างมาก ไม่มีเบาะแสใดๆ ที่สามารถสืบค้นได้เลย แต่ว่า…ได้ยินมาว่านายใหญ่คนนั้นมีฮูหยินแล้ว อีกทั้งเขายังรักฮูหยินของตนเองมาก ส่วนเรื่องนอกเหนือจากนี้ ก็ไม่มีแล้วขอรับ”

นายใหญ่…ฮูหยิน…

คำเหล่านี้เป็นเพียงคำบอกเล่าเท่านั้น

แต่เมื่อตรวจสอบจริงๆ แล้ว มู่ชิงเห่อกลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก สามารถปกปิดได้อย่างไร้ที่ติ

จึงทำให้เขารู้สึกหมดหนทางมากยิ่งขึ้น

“หากฉู่หลิวเยว่มีเบื้องหลังเป็นหอร้อยโอสถแล้วละก็ ก็อาจจะเป็นคนนี้”

ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าช่วงนี้มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น

“ฉู่หลิวเยว่เกิดมาในครอบครัวธรรมดา แม้กระทั่งซีหลิงยังไม่เคยมา จะรู้จักคนระดับนั้นได้อย่างใด?”

เจียงอวี่เฉิงกลับรู้สึกสงสัยในประเด็นนี้เล็กน้อย

มู่ชิงเห่อก้มหน้าเล็กน้อย

“ได้ยินมาว่าครั้งที่แล้วที่นางไปหอร้อยโอสถ เย่ว์หลิงดูเกรงใจนางเป็นอย่างมาก และยังให้การสนิทสนมกับนางเป็นพิเศษ การที่เขาต้อนรับเช่นนี้ เกรงว่าในเมืองซีหลิงมีอยู่แค่หยิบมือ”

สีหน้าของเจียงอวี่เฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“…นั่นก็หมายความว่า ที่ไม่สามารถตรวจสอบ “นายใหญ่” คนนั้นได้เลย อาจจะเป็นเพราะว่า…เขาไม่ใช่คนซีหลิง? หรืออายุของเขาอาจจะ…”

มู่ชิงเห่อส่ายหน้า จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างลังเลว่า

“คุณชายใหญ่ ความจริงแล้วที่พวกเราตรวจสอบเขาอยู่อย่างลับๆ พวกเขาก็รู้แล้ว อีกทั้ง…พวกเขายังส่งคำเตือนมาให้”

แววตาของเจียงอวี่เฉิงเฉียบคมขึ้น!

“อันใดนะ?!”

มู่ชิงเห่อกางฝ่ามือออก

รอยเลือดยาวเป็นแนวขวาง ราวกับจะตัดขาดออกจากกัน!

ความหมายของอีกฝ่ายนั้นชัดเจนมาก…อย่ายื่นมือมายาวมากเกินไป!

“พวกเขาลงมือกับเจ้า?” เจียงอวี่เฉิงถามขึ้นเสียงเย็น

“เขาเป็นชายสวมหน้ากาก ฝีมือ…ไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าเลย”

ความจริงแล้วมู่ชิงเห่ออยากจะพูดว่า ฝีมืออาจจะสูงกว่าเขาด้วยซ้ำ

ไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะทิ้งรอยแผลเอาไว้ที่กลางฝ่ามือของเขาอย่างง่ายดายเช่นนี้

เจียงอวี่เฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับกำลังกลั้นหายใจ

สองปีที่ผ่านมานี้ เขาไม่เคยเจอใครที่กำเริบเสิบสานแบบนี้มาก่อน!

แต่เขากลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใคร!

ไม่ว่าจะเป็นเจียงอวี่จือ หรือมู่ชิงเห่อ อีกทั้งก็ต่างแสดงท่าทีแข็งแกร่งด้วยทั้งนั้น!

จากนิสัยของเจียงอวี่เฉิงเขาจะไม่มีทางปล่อยให้คนมารังแกเขาได้อย่างแน่นอน

และที่นี่คือซีหลิง…เป็นถิ่นของเขา!

แต่ในเวลานี้เขาไม่อยากจะสร้างปัญหามันมากนัก

“…ประมาณนี้ล่ะขอรับ หรือว่าที่คุณชายใหญ่สงสัยเขาเพราะเขามีปัญหาอันใดหรือไม่ขอรับ?”

ริมฝีปากของเจียงอวี่เฉิงขยับเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอันใดออกมา จากนั้นเขาแค่ส่ายหน้า แล้วสั่งให้มู่ชิงเห่อออกไป

รอจนมู่ชิงเห่อปิดประตูออกไป เจียงอวี่เฉิงจึงได้หลับตาอย่างหงุดหงิดใจ

เวลาแบบนี้ เหตุใดในสมองของเขาถึงคิดเรื่องพรรค์นี้ได้…

ด้านหนึ่งยังหามือสังหารคนนั้นไม่พบ

ส่วนอีกด้านหนึ่ง “นายใหญ่” ของหอร้อยโอสถคนนั้นจะเป็นใครกันแน่ จะส่งผลร้ายหรือดีต่อเขาก็ยังไม่อาจทราบได้

แต่ที่สำคัญที่สุดเขาต้องไปแดนภังคะแล้ว เขาจะต้องเตรียมสภาพร่างกายของตนเองให้พร้อมมากที่สุด อีกทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันใดขึ้นกับทางด้านซั่งกวนหว่าน

ความจริงแล้วเขาไม่ควรเสียเวลาไปถามคำถามเหล่านี้เลย

แต่…ไม่รู้ว่าเหตุใด ในสมองของเขามักจะมีภาพเหตุการณ์วันนั้นปรากฏขึ้นเสมอ

หิมะโปรยปราย ทั่วทั้งพื้นดินและแผ่นฟ้าเป็นสีขาวโพลน

ภายในรถม้าที่อบอุ่นและกว้างขวาง ชายหญิงอิงแอบแนบซบ

นางเอนกายพิงในอ้อมกอดของชายผู้นั้น ผมสีดำสยายพันยุ่งเหยิง ใบหน้าแดงระเรื่อ แสงพราวระยับในดวงตา เกือบทำให้วิญญาณหลุดลอย

อีกทั้งบนตัวของนางยังมีเสื้อคลุมตัวใหญ่ของเขาห่มอยู่

ราวกับเป็นสมบัติที่ประคองเอาไว้ในฝ่ามือ

รอยยิ้มของนางช่างสะอาดและบริสุทธิ์ ความเขินอายและอ่อนหวานที่ไม่สามารถปกปิดได้

เจียงอวี่เฉิงหลับตาแน่น สีหน้าเหนื่อยล้า

แต่ในสมองของเขากลับลำดับภาพเหตุการณ์อื่นปรากฏขึ้นมา

วันนั้นเป็นวันหนึ่งท่ามกลางฤดูร้อน

ในสวนเทพเนรมิต ริมทะเลสาบด้านนอกเรือนฉิน

ผู้หญิงคนหนึ่งก็มีรอยยิ้มเช่นนี้ ทั้งสว่างและสดใส ทั้งเขินอายแต่ตรงไปตรงมา นางพูดขึ้นว่า

“อวี่เฉิง ข้ามีคนที่ชอบแล้ว เรื่องแต่งงานก็ช่างมันเถิด”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์