เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 716

เลือดที่ไหลออกมาจากคอของฉู่หลิวเยว่ถูกไก่ฟ้าเก้าสีดูดกลืนอย่างรวดเร็ว

กรงเล็บสีแดงกล่ำเปลี่ยนสีสดขึ้น!

ราวกับว่าพลังมหาศาลได้ถูกอัดฉีดอย่างสมบูรณ์ ไก่ฟ้าเก้าสีชูคอส่งเสียงร้องอย่างชัดเจน!

หวีด!

เสียงนี้แตกต่างจากเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อก่อนหน้านี้

ทั้งไพเราะ ระคนคิดถึง และมีความสุข…

หลังจากรอคอยมานาน ในที่สุดก็ได้เห็นดังสุขสมหวัง!

ในวันที่มืดมนไม่มีที่สิ้นสุด มันกระวนกระวาย มึนงงและอ้างว้าง

จนถึงตอนนี้ ในที่สุดก็ได้เจออีกครั้ง!

ชั้นสีเทาบนไก่ฟ้าเก้าสีจางหายไปอย่างรวดเร็ว! ขนทั่วร่างกลับมามีสีสดใสอีกครั้ง!

จากนั้นควันสีแดงก็แพร่กระจายอย่างว่องไว!

ขนนกหลากสีเหล่านั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!

มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่เปล่งประกายระยิบระยับราวกับหินแร่ผลึกหลากสีอันงดงาม!

เมฆดำทะมึนปกคลุมไปทั่วทุกทิศ สายลมก็โหยหวน

อย่างใดก็ตาม พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยปีกของไก่ฟ้าเก้าสีนั้นกลับเงียบสงบ

แรงกดมหาศาลที่มีต่อฉู่หลิวเยว่สลายไปในทันที!

ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่าถูกบางอย่างผลักจากด้านหลัง

นั่นคือปีกของไก่ฟ้าเก้าสี

นางขยับเข้าใกล้มันมากขึ้น

ใกล้จนสามารถมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเองข้างในดวงตาที่เหมือนอัญมณีคู่นั้น

ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาของมันออก

นางคุ้นเคยกับนัยน์ตาคู่นั้นเป็นอย่างดี

มันคือถวนจื่อ

และยังเป็นเก้าจิ๋วด้วย!

มีความออดอ้อนของถวนจื่อและยังมีความโดดเด่นไร้เทียมทานของเก้าจิ๋ว

ฉู่หลิวเยว่สะอึกสะอื้น เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย

“เจ้าคือเก้าจิ๋ว…และยังเป็นถวนจื่อด้วย ใช่หรือไม่?”

ไก่ฟ้าเก้าสีก้มหัวลงและโน้มตัวเข้าใกล้แก้มของนาง แล้วถูเบาๆ

ฉู่หลิวเยว่หลับตาลงก่อนที่น้ำตาจะเอ่อไหลออกมาอย่างเงียบๆ

แม้ว่านางจะเดาไว้ในใจแล้ว แต่เมื่อได้รับคำตอบในเชิงบวก นางก็ยังอดใจสั่นสะท้านไม่ได้

เจ้ากลับมาแล้ว!

ไม่มีอันใดในโลกที่ทำให้นางรู้สึกโชคดี และมีความสุขมากไปกว่านี้อีกแล้ว!

ในอกของฉู่หลิวเยว่เหมือนถูกบางอย่างเติมเต็ม ตื่นตระหนกตกใจระคนด้วยความดีใจ และความคิดถึงแทบจะล้นออกมาจากก้นบึ้งของนาง!

มันยังอยู่…

มันกลับมาแล้ว…

นางคิดว่าจะสูญเสียทุกอย่างไปเสียแล้ว

แต่…ไม่เลย!

มันยังรอนางอยู่เสมอ!

ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้นมา ดวงตาทั้งคู่กลายเป็นสีแดงฉาน

ไก่ฟ้าเก้าสีเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของนางอย่างระมัดระวังและทะนุถนอม

ฉู่หลิวเยว่มองมัน ในชั่วพริบตาก็มีหลายสิ่งหลายอย่างผุดเข้ามาในความคิด

ตอนนี้ความจริงปรากฏแล้ว ดูเหมือนว่ามีสายใยที่มองไม่เห็นเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้นเข้าด้วยกัน

ถวนจื่อตั้งใจพานางมาที่นี่…

ค่ายกลสีรุ้งนั้น…

พวกพี่เหลยสี่สองคนที่ทำหน้าที่ในการดูแลมัน…

จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็เผลอหัวเราะออกมา

แท้จริงแล้วเป็นพวกเขาสองคน

ก่อนหน้านี้นางไม่อยากจะเชื่อเลย ถ้ามองจากทุกด้าน พวกเขาสองคนห่างไกลจากเมื่อก่อนมาก

แม้ว่านางจะยืนมองอยู่ต่อหน้าก็ยังไม่มั่นใจในตัวตนของพวกเขา

แต่ถึงอย่างใด เก้าจิ๋วก็อยู่ที่นี่ อีกทั้งพวกพี่เหลยสี่ก็คอยป้องกันอยู่ตลอด…

ทุกอย่างชัดเจนแล้ว!

ฉู่หลิวเยว่ถอยหลังไปครึ่งก้าวและมองไปที่เก้าจิ๋วที่อยู่ตรงหน้า

ตอนนี้ตัวของมันเหลือแค่หางที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นสีแดง

“ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีก คาดไม่ถึง…ไม่เพียงแต่จะได้เจอเจ้าอีกครั้ง แต่ยังได้เห็นเจ้าทะลวงขั้นพลังปราณด้วย”

ดวงตาของเก้าจิ๋วเป็นประกาย

แต่จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนในตำแหน่งเถียนตันของตน

นางผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตระหนักได้ว่า ดูเหมือนความผันผวนนั้นจะมาจากเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมสีดำ!

ราวกับว่า…ราวกับว่าบางสิ่งที่อยู่ภายในกำลังจะหลุดออกมา!

ลมปราณที่ด้านบนเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมสีดำกำลังสั่นคลอน!

ฉู่หลิวเยว่ตกใจจนตัวแข็งทื่อ

นับตั้งแต่ได้เจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมสีดำมา มันเกิดความผันผวนขึ้นเพียงครั้งเดียว ตอนอยู่ในอาณาเขตเซียนเทพของรางวงศ์เทียนลิ่งเท่านั้น และหลังจากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีกเลย

ครั้งนั้นมันเปิดประตูที่นำนางไปสู่กระบี่หลงหยวน แล้วครั้งนี้เล่า?

หึ่ง…

วูบ!

เก้าจิ๋วดูดกลืนพลังแห่งโลกและสวรรค์โดยรอบอย่างเมามัน และลมปราณในร่างกายของมันเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน!

เกิดความผันผวนขึ้นต่อเนื่อง! พร้อมเสียงที่ดังสนั่น!

ทุกสรรพสิ่งในรัศมีหลายสิบลี้ล้วนได้รับผลกระทบจากพลังปราณอันทรงพลังนี้!

เพล้ง!

ตามมาด้วยเสียงที่คมชัด!

ซึ่งเมื่อได้ยินเสียงนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเห็นว่าส่วนบนค่ายกลเหนือศีรษะนาง แตกออกเป็นเสี่ยงๆ!

รอยแตกหลายจุดแผ่กระจายปกคลุมค่ายกลโปร่งใสในทันที ราวกับใยแมงมุม!

“ค่ายกลจะแตกแล้ว! หนีเร็ว!”

พอเห็นเช่นนั้น พี่เหลยสี่ซึ่งเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก็ตะโกนเสียงดัง!

ชายที่ยืนอยู่ข้างเขาขยับตัวเพียงนิดเดียว แต่กลับถอยห่างออกไปในพริบตา

ขณะเดียวกันก็โบกสะบัดแขนเสื้อ แล้วพาเชียงหว่านโจวที่ยังคงงุนงงและอีกสามคนที่เหลือมาด้วย

เชียงหว่านโจวตอบสนองได้เร็วที่สุด เขากำลังจะชักกระบี่ออกมา แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตนเองไม่สามารถขยับร่างกายได้เลย!

จนกระทั่งพวกเขาทั้งหมดมาหยุดอยู่ที่ชายคนนั้น แรงยึดเหนี่ยวที่อธิบายไม่ได้บนร่างกายของพวกเขา ถึงได้มลายหายไป

พวกเขาได้แต่ยืนนิ่งราวสับสน และก่อนที่พวกเขาจะทันได้พูดอันใด ก็เห็นค่ายกลโปร่งใสนั่นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ!

จากต้นไม้ที่เป็นจุดศูนย์กลาง พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณโดยรอบอย่างบ้าคลั่ง!

ผืนดินแตกตัวเป็นแผ่นแล้วดีดขึ้นมา!

เศษไม้และฝุ่นฟุ้งกระจาย!

และขณะเดียวกัน ส่วนปลายหางของไก่ฟ้าเก้าสีที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์