เลือดที่ไหลออกมาจากคอของฉู่หลิวเยว่ถูกไก่ฟ้าเก้าสีดูดกลืนอย่างรวดเร็ว
กรงเล็บสีแดงกล่ำเปลี่ยนสีสดขึ้น!
ราวกับว่าพลังมหาศาลได้ถูกอัดฉีดอย่างสมบูรณ์ ไก่ฟ้าเก้าสีชูคอส่งเสียงร้องอย่างชัดเจน!
หวีด!
เสียงนี้แตกต่างจากเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อก่อนหน้านี้
ทั้งไพเราะ ระคนคิดถึง และมีความสุข…
หลังจากรอคอยมานาน ในที่สุดก็ได้เห็นดังสุขสมหวัง!
ในวันที่มืดมนไม่มีที่สิ้นสุด มันกระวนกระวาย มึนงงและอ้างว้าง
จนถึงตอนนี้ ในที่สุดก็ได้เจออีกครั้ง!
ชั้นสีเทาบนไก่ฟ้าเก้าสีจางหายไปอย่างรวดเร็ว! ขนทั่วร่างกลับมามีสีสดใสอีกครั้ง!
จากนั้นควันสีแดงก็แพร่กระจายอย่างว่องไว!
ขนนกหลากสีเหล่านั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่เปล่งประกายระยิบระยับราวกับหินแร่ผลึกหลากสีอันงดงาม!
เมฆดำทะมึนปกคลุมไปทั่วทุกทิศ สายลมก็โหยหวน
อย่างใดก็ตาม พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยปีกของไก่ฟ้าเก้าสีนั้นกลับเงียบสงบ
แรงกดมหาศาลที่มีต่อฉู่หลิวเยว่สลายไปในทันที!
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่าถูกบางอย่างผลักจากด้านหลัง
นั่นคือปีกของไก่ฟ้าเก้าสี
นางขยับเข้าใกล้มันมากขึ้น
ใกล้จนสามารถมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเองข้างในดวงตาที่เหมือนอัญมณีคู่นั้น
ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาของมันออก
นางคุ้นเคยกับนัยน์ตาคู่นั้นเป็นอย่างดี
มันคือถวนจื่อ
และยังเป็นเก้าจิ๋วด้วย!
มีความออดอ้อนของถวนจื่อและยังมีความโดดเด่นไร้เทียมทานของเก้าจิ๋ว
ฉู่หลิวเยว่สะอึกสะอื้น เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย
“เจ้าคือเก้าจิ๋ว…และยังเป็นถวนจื่อด้วย ใช่หรือไม่?”
ไก่ฟ้าเก้าสีก้มหัวลงและโน้มตัวเข้าใกล้แก้มของนาง แล้วถูเบาๆ
ฉู่หลิวเยว่หลับตาลงก่อนที่น้ำตาจะเอ่อไหลออกมาอย่างเงียบๆ
แม้ว่านางจะเดาไว้ในใจแล้ว แต่เมื่อได้รับคำตอบในเชิงบวก นางก็ยังอดใจสั่นสะท้านไม่ได้
เจ้ากลับมาแล้ว!
ไม่มีอันใดในโลกที่ทำให้นางรู้สึกโชคดี และมีความสุขมากไปกว่านี้อีกแล้ว!
ในอกของฉู่หลิวเยว่เหมือนถูกบางอย่างเติมเต็ม ตื่นตระหนกตกใจระคนด้วยความดีใจ และความคิดถึงแทบจะล้นออกมาจากก้นบึ้งของนาง!
มันยังอยู่…
มันกลับมาแล้ว…
นางคิดว่าจะสูญเสียทุกอย่างไปเสียแล้ว
แต่…ไม่เลย!
มันยังรอนางอยู่เสมอ!
ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้นมา ดวงตาทั้งคู่กลายเป็นสีแดงฉาน
ไก่ฟ้าเก้าสีเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของนางอย่างระมัดระวังและทะนุถนอม
ฉู่หลิวเยว่มองมัน ในชั่วพริบตาก็มีหลายสิ่งหลายอย่างผุดเข้ามาในความคิด
ตอนนี้ความจริงปรากฏแล้ว ดูเหมือนว่ามีสายใยที่มองไม่เห็นเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้นเข้าด้วยกัน
ถวนจื่อตั้งใจพานางมาที่นี่…
ค่ายกลสีรุ้งนั้น…
พวกพี่เหลยสี่สองคนที่ทำหน้าที่ในการดูแลมัน…
จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็เผลอหัวเราะออกมา
แท้จริงแล้วเป็นพวกเขาสองคน
ก่อนหน้านี้นางไม่อยากจะเชื่อเลย ถ้ามองจากทุกด้าน พวกเขาสองคนห่างไกลจากเมื่อก่อนมาก
แม้ว่านางจะยืนมองอยู่ต่อหน้าก็ยังไม่มั่นใจในตัวตนของพวกเขา
แต่ถึงอย่างใด เก้าจิ๋วก็อยู่ที่นี่ อีกทั้งพวกพี่เหลยสี่ก็คอยป้องกันอยู่ตลอด…
ทุกอย่างชัดเจนแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่ถอยหลังไปครึ่งก้าวและมองไปที่เก้าจิ๋วที่อยู่ตรงหน้า
ตอนนี้ตัวของมันเหลือแค่หางที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นสีแดง
“ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีก คาดไม่ถึง…ไม่เพียงแต่จะได้เจอเจ้าอีกครั้ง แต่ยังได้เห็นเจ้าทะลวงขั้นพลังปราณด้วย”
ดวงตาของเก้าจิ๋วเป็นประกาย
แต่จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนในตำแหน่งเถียนตันของตน
นางผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตระหนักได้ว่า ดูเหมือนความผันผวนนั้นจะมาจากเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมสีดำ!
ราวกับว่า…ราวกับว่าบางสิ่งที่อยู่ภายในกำลังจะหลุดออกมา!
ลมปราณที่ด้านบนเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมสีดำกำลังสั่นคลอน!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจจนตัวแข็งทื่อ
นับตั้งแต่ได้เจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมสีดำมา มันเกิดความผันผวนขึ้นเพียงครั้งเดียว ตอนอยู่ในอาณาเขตเซียนเทพของรางวงศ์เทียนลิ่งเท่านั้น และหลังจากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีกเลย
ครั้งนั้นมันเปิดประตูที่นำนางไปสู่กระบี่หลงหยวน แล้วครั้งนี้เล่า?
หึ่ง…
วูบ!
เก้าจิ๋วดูดกลืนพลังแห่งโลกและสวรรค์โดยรอบอย่างเมามัน และลมปราณในร่างกายของมันเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน!
เกิดความผันผวนขึ้นต่อเนื่อง! พร้อมเสียงที่ดังสนั่น!
ทุกสรรพสิ่งในรัศมีหลายสิบลี้ล้วนได้รับผลกระทบจากพลังปราณอันทรงพลังนี้!
เพล้ง!
ตามมาด้วยเสียงที่คมชัด!
ซึ่งเมื่อได้ยินเสียงนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเห็นว่าส่วนบนค่ายกลเหนือศีรษะนาง แตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
รอยแตกหลายจุดแผ่กระจายปกคลุมค่ายกลโปร่งใสในทันที ราวกับใยแมงมุม!
“ค่ายกลจะแตกแล้ว! หนีเร็ว!”
พอเห็นเช่นนั้น พี่เหลยสี่ซึ่งเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก็ตะโกนเสียงดัง!
ชายที่ยืนอยู่ข้างเขาขยับตัวเพียงนิดเดียว แต่กลับถอยห่างออกไปในพริบตา
ขณะเดียวกันก็โบกสะบัดแขนเสื้อ แล้วพาเชียงหว่านโจวที่ยังคงงุนงงและอีกสามคนที่เหลือมาด้วย
เชียงหว่านโจวตอบสนองได้เร็วที่สุด เขากำลังจะชักกระบี่ออกมา แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตนเองไม่สามารถขยับร่างกายได้เลย!
จนกระทั่งพวกเขาทั้งหมดมาหยุดอยู่ที่ชายคนนั้น แรงยึดเหนี่ยวที่อธิบายไม่ได้บนร่างกายของพวกเขา ถึงได้มลายหายไป
พวกเขาได้แต่ยืนนิ่งราวสับสน และก่อนที่พวกเขาจะทันได้พูดอันใด ก็เห็นค่ายกลโปร่งใสนั่นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
จากต้นไม้ที่เป็นจุดศูนย์กลาง พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณโดยรอบอย่างบ้าคลั่ง!
ผืนดินแตกตัวเป็นแผ่นแล้วดีดขึ้นมา!
เศษไม้และฝุ่นฟุ้งกระจาย!
และขณะเดียวกัน ส่วนปลายหางของไก่ฟ้าเก้าสีที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...