บทที่ 756 การบาดเจ็บล้มตาย – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 756 การบาดเจ็บล้มตาย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ประโยคนี้ออกมาจากปากมู่ชิงเห่อ
ซั่งกวนหว่านหันไปมองหน้าเขาด้วยความตกใจ
มู่ชิงเห่อไม่รู้หรือว่ากำลังพูดอยู่กับใคร?
แต่ทันใดนั้น นางก็สัมผัสได้ว่าบรรยากาศรอบข้างดูแตกต่างออกไป
และเมื่อกวาดตามองไปรอบๆ ถึงได้รู้ว่าตอนนี้ทหารม้าทมิฬเหล่านั้นกำลังจ้องหน้านางเขม็ง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธที่อัดอั้นอยู่ภายในใจ
พวกเขาเหล่านี้คือทหารที่ผ่านความเป็นความตายในสนามรบมานักต่อนัก ทั่วทั้งร่างจึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของคาวเลือดและจิตสังหารที่แข็งแกร่ง!
ดีที่ยามปกติพวกเขาจะสะกดกลั้นมันไว้ แต่ถ้าได้ระเบิดออกมา มันคงน่าสะพรึงกลัวมากกว่าที่จินตนาการไว้แน่นอน!
เช่นเดียวกับซั่งกวนหว่าน ที่ความหวาดกลัวค่อยๆ กัดกินหัวใจของนางมากขึ้นเรื่อยๆ
นางมีลางสังหรณ์ว่า ถ้านางทำให้พวกเขาไม่พอใจขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ เกรงว่านางอาจจะไม่ได้ออกไปจากป่าหมอกมายาแห่งนี้แน่!
สีหน้าของพวกเขาในยามที่มองนางนั้น ไม่เหมือนกับมองดูองค์หญิงสามผู้สูงส่งและสง่างามเลย แต่กลับเหมือนกำลังมองดูคนโง่ที่รนหาที่ตายมากกว่า!
ผู้อาวุโสชิวซีรู้สึกถึงความไม่เหมาะสมตรงนี้ พลันก้าวไปด้านหน้า แล้วตะคอกด้วยความโกรธ
“รองแม่ทัพมู่! นี่เจ้ากำลังคุกคามองค์หญิงสามหรือ!?”
มู่ชิงเห่อมองเขาอย่างเย็นชา พร้อมสายตาฆ่าฟันในดวงตาคมที่เผยออกมาอย่างเด่นชัด
หัวใจของผู้อาวุโสชิวซี “เต้นรัว” ไม่หยุด และทันใดนั้นก็มีร่องรอยของความกลัวปรากฏขึ้นในใจเขา ใบหน้าของชายชราสั่นสะท้าน ก่อนจะเผลอถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว
มู่ชิงเห่อเป็นนายพลระดับสูงในราชวงศ์เทียนลิ่ง และยังเป็นเทพแห่งการสังหารที่มีชื่อเสียงอีกด้วย!
เขาจะลงมืออย่างตรงไปตรงมา พร้อมใช้วิธีการที่ดุเดือดและเด็ดขาด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนมากมายล้วนจำต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของเขา!
แต่หนึ่งปีมานี้ อีกฝ่ายกลับมาใช้ชีวิตเสมือนสามัญชนทั่วไป จนผู้อาวุโสชิวซีเกือบลืมไปแล้วว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวขนาดไหน
กระทั่งวินาทีที่เขาได้สบเข้ากับดวงตาที่เย็นชาของมู่ชิงเห่อ เขาก็ฉุกคิดได้ทันทีว่าอย่าไปแหยมกับคนๆ นี้เด็ดขาด!
เพราะนอกจากความแข็งแกร่งของเขาแล้ว เขายังได้รับการยอมรับและเป็นคนนำทัพของเหล่าทหารม้าทมิฬผู้ภักดีนับหมื่นนายด้วย!
ส่วนเขานั้นเป็นเพียงผู้อาวุโสคนหนึ่งของราชสำนัก แม้ชื่อเสียงของเขาจะดีกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนอย่างเขาหรือจะสู้มู่ชิงเห่อได้?
ยิ่งคิดผู้อาวุโสชิวซีก็ยิ่งกลัว
ซั่งกวนหว่านรู้สึกรำคาญมาก เรือนกายของนางเริ่มสั่นเครือ พลันมองไปที่ผู้อาวุโสชิวซี
เจ้าคนไร้ประโยชน์!
เดิมทีเจียงอวี่เฉิงต้องการพูดช่วยซั่งกวนหว่าน ทว่าดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว หากนางไม่ยอมลดราวาศอก เกรงว่าคงไม่ดีแน่
“หว่านเอ๋อร์”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ซั่งกวนหว่านขบริมฝีปากแน่น นางรู้สึกหนักใจ แต่สุดท้ายก็ยอมกัดฟันพูดออกมา
“ก่อนหน้านี้ชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงนั่นยังใช้การได้ดี แต่จู่ๆ มันก็แตกแล้วสลายไป ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นได้อย่างใด เมื่อครู่หลายคนก็อยู่ตรงนั้น น่าจะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่แล้ว ข้ายังไม่ทันได้ทำอันใดเลย เป็นชุดเกราะนั่นต่างหากที่สลายออกไปเอง”
เจียงอวี่เฉิงพยักหน้า
“ถูกต้อง ข้าเห็นเหตุการณ์นั้น เป็นอย่างที่นางพูดจริงๆ”
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนพูดออกมาในทำนองเดียวกันหลายคน
แต่เห็นได้ชัดว่าทหารม้าทมิฬจำนวนมากไม่พอใจกับคำตอบนี้
นี่เรียกว่าคำอธิบายแล้วหรือ?
ท่ามกลางฝูงชน เสียงพูดคุยแผ่วเบาดังขึ้นเป็นระยะ
“องค์หญิงใหญ่สวมชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงมาหลายครั้งแล้ว ยังไม่เห็นเป็นไร แต่องค์หญิงสามสวมเพียงครั้งเดียวกลับแตกสลายเลยหรือ?”
“ใช่เลย! แม้องค์หญิงใหญ่จะสิ้นแล้ว แต่มันก็ยังเป็นทรัพย์สินของพระองค์ การที่องค์หญิงสามนำมาใช้เช่นนี้ ช่างเป็นการ…”
“ถ้าใช้อย่างถูกต้องคงไม่เสียหาย ตอนนี้ชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงสลายไปหมดแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว นี่องค์หญิงสามนอกจากจะไม่รู้สึกผิด แต่ยังมั่นอกมั่นใจหาข้อแก้ตัวไปเรื่อยอีกหรือ?”
…
แม้ว่าพวกเขาจะลดเสียงลง แต่หลายๆ คนที่อยู่ใกล้เคียงก็สามารถได้ยินได้
โดยเฉพาะซั่งกวนหว่านที่ได้ยินชัดเจนเต็มสองหู
นี่มัน กล่าวหากันซึ่งๆ หน้าเลยมิใช่หรือ!?
พวกทหารม้าทมิฬนี่ จะพูดมากเกินไปแล้ว!
ซั่งกวนหว่านสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะยับยั้งความหงุดหงิดได้ในที่สุด
นางมองออกว่ากองทัพทหารม้าทมิฬจงรักภักดีต่อซั่งกวนเยว่มากขนาดไหน นางไม่สามารถเปลี่ยนใจพวกเขาได้ภายในเวลาอันน้อยนิดแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...