ตอน บทที่ 758 บัวระบำ จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 758 บัวระบำ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“คงยังยอมรับความจริงไม่ได้ แล้วต้องการตามหานางกระมัง”
ซั่งกวนหว่านแสร้งทำเป็นพูดเสียงเบาราวไม่ได้เจาะจง แต่หว่างคิ้วและดวงตาของนางกลับมีร่องรอยการดูถูกเสียดสีปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย
เจียงอวี่เฉิงจ้องเข้าไปในแววตาของนาง ในใจพลันรู้สึกไม่พอใจและรังเกียจ
สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้น ก่อนจะหันไปมองมู่ชิงเห่อ
“อย่างใดเสียพวกเขาก็มาด้วยกันกับเรา จะทิ้งพวกเขาไว้เช่นนั้นได้อย่างใด? เจ้าจงไปพาพวกเขามาเสีย”
มู่ชิงเห่อคิ้วกระตุกเล็กน้อย ดวงตาคมฉายแววประหลาดใจ
ความสัมพันธ์ระหว่างเจียงอวี่เฉิงและชงซูเก๋อนั้นไม่ดีนัก ทว่าตอนนี้ เหตุใดเขาจึงต้องกังวลเกี่ยวกับความเป็นความตายของลูกศิษย์ฝ่ายนั้นด้วย?
นี่มัน ไม่ใช่นิสัยของเขาเลยจริงๆ
เนื่องจากตกใจเกินเหตุ มู่ชิงเห่อจึงผงะไปนาน ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้า
“เช่นนั้นข้า…”
“จะห่วงพวกเขาไปไย?”
จู่ๆ ซั่งกวนหว่านก็เอ่ยแทรกมู่ชิงเห่อ
แต่พอรู้ตัวว่าพูดสิ่งที่ฟังดูไม่เหมาะสมออกไป นางก็ทำทีขยับตัวเล็กน้อย พร้อมกระแอมไอและเอ่ยเพิ่มอีกสองสามประโยค
“เอ่อ ข้าหมายความว่า ตอนนี้พวกเขาตั้งใจตามหาฉู่หลิวเยว่กันเต็มที่ ไม่ว่าใครจะเข้าไปเกลี้ยกล่อมก็คงไม่มีประโยชน์ ไม่แน่อาจถูกด่ากลับมาด้วย ถึงพวกเขาจะมาด้วยกันกับเรา แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจกันเอง คนนอกอย่างเราไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งหรอก จริงหรือไม่?”
นางมองเจียงอวี่เฉิงด้วยสายตาสื่อความนัย พลางยิ้มบาง
“อวี่เฉิง ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดี แต่บางครั้งความหวังดีก็ก่อให้เกิดเรื่องแย่ๆ ได้เช่นกัน อีกอย่าง ตรงนั้นก็มีพวกฉินอีอยู่ตั้งสองคนแน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่เป็นอันใด หรือบางที พวกเขาอาจจะอยากอยู่กับฉินอีและพี่เหลยสี่มากกว่าก็ได้ ใครจะรู้”
“แต่การเกาะกลุ่มเพียงไม่กี่คนในแดนภังคะนั้นอันตรายเกินไป” เจียงอวี่เฉิงพูดพร้อมขมวดคิ้ว “หากส่งทหารม้าทมิฬสักหน่วยไปกับพวกเขา น่าจะเป็นการดีกว่า…”
“ดีอย่างไรหรือ?” ซั่งกวนหว่านขัดจังหวะเขาราวกับล้อเล่น “อวี่เฉิง ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากจะไปช่วยค้นหาฉู่หลิวเยว่อีกคนหรอกนะ? พวกเรารู้จักเจ้าดี และเข้าใจว่าเจ้าต้องการทำเพื่อพวกเขา แต่ในสายตาของคนที่ไม่รู้ จะพูดเช่นไรดี…เจ้าคงไม่อยากถูกเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”
ไฟที่สุมอยู่ในอกของเจียงอวี่เฉิงลุกซู่ และยากกว่าเขาจะสงบมันลงได้
“…ข้าทราบแล้ว เจ้าพูดถูก เช่นนั้นก็ปล่อยพวกเขาไปเถอะ”
พอตอบกลับไปเช่นนั้นซั่งกวนหว่านถึงได้หยุดพูด และลดระดับสายตาลง
แต่ถึงอย่างนั้น จิตใจของนางก็หาได้สงบไม่
ความจริงแล้ว ที่นางจงใจพูดถึงฉู่หลิวเยว่เมื่อครู่นั้น ก็เพื่อทดสอบเขา
นางมองเห็นชัดเจนว่าเจียงอวี่เฉิงแสดงสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาแวบหนึ่ง
แต่เขาจะตื่นตระหนกไปเหตุใดกัน?
ซั่งกวนหว่านเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ทว่าร่างกายของนางกลับเกร็งขึ้นมา มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น
แต่เนื่องจากมีผ้าพันคอและรอยแผลบนใบหน้า ทำให้ยากที่คนอื่นๆ จะมองเห็นสีหน้าของนางในตอนนี้
มีเพียงลมปราณรอบตัวของนางที่เย็นยะเยือกขึ้นเท่าตัว
ก่อนหน้านี้นางเคยสงสัยว่าท่าทีของเจียงอวี่เฉิงที่มีต่อฉู่หลิวเยว่นั้นดูแปลกไป และตอนนี้มันก็ประจักษ์แก่สายตาแล้ว!
หากเป็นคนอื่น เขาจะไม่พูดมากขนาดนี้!
หรือเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่คล้ายกัน?
ซั่งกวนหว่านไม่พอใจและรับไม่ได้เป็นอย่างมาก!
แม้ว่าทั้งสองคนจะลงมือสังหารซั่งกวนเยว่ด้วยกัน แต่นางก็รู้ว่าหลายปีก่อน เจียงอวี่เฉิงเคยชมชอบในตัวซั่งกวนเยว่
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทัศนคติของเขาที่มีต่อซั่งกวนเยว่ ก็เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน
กระทั่งตอนนี้นางเองก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอันใด
และนางก็ไม่เคยคิดจะถาม
เจียงอวี่เฉิงชอบนางเช่นกัน แต่ความชอบนี้ต่างจากความรู้สึกชอบ ที่เขามีให้ซั่งกวนเยว่
นางรู้ว่าเมื่อใดที่นางเอ่ยปากถาม หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไป
แต่นางไม่ได้โง่ขนาดนั้น
ในเมื่อซั่งกวนเยว่ตายไปแล้ว เหตุใดนางจะเสียเวลาไปแข่งกับคนตาย?
ทว่าครานี้ ยามที่เห็นเจียงอวี่เฉิงปฏิบัติต่อฉู่หลิวเยว่…ความรู้สึกคุ้นเคยอันไม่สบอารมณ์ ก็พวยพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง
ซั่งกวนหว่านเหลือบมองเจียอวี่เฉิงแวบหนึ่ง
เขาจมดิ่งกับความคิดของตัวเองอีกแล้ว และไม่รู้ว่ากำลังคิดเรื่องอันใดอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...