เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 805

ณ เมืองซีหลิง

โคมไฟสีสวยถูกจุดท่ามกลางรัตติกาล พระจันทร์ดวงกลมสว่างไสวลอยเด่นอยู่กลางนภา

ภายในหอคอยชุนเฟิงนั้นครึกครื้นเป็นพิเศษ

แต่สุ่ยหลิวเอ๋อร์กลับปลีกวิเวกอยู่ในห้องของตนเพียงลำพัง และแสร้งทำเป็นหูหนวกต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก

วันนี้เป็นวันพักผ่อนตามปกติของนาง ดังนั้นนางจึงไม่ได้ต้อนรับแขก และคืนนี้นางก็ยังมีงานสำคัญที่ต้องไปทำ

…นางวางแผนจะไปจวนใต้เท้าซย่า

เดิมทีนางตกลงกับเจี่ยนเฟิงฉือว่าจะไปวันพรุ่ง แต่พอคิดไปคิดมา นางรู้สึกว่ายามราตรีนั้นซ่อนตัวได้แยบยลกว่า

เนื่องจากซย่าโหวหรงกลับมายังซีหลิงแล้ว และสองสามวันมานี่เขาก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในจวนทั้งวัน

แต่ไม่กี่วันก่อนนางเพิ่งสืบรู้ว่าเขากลับมา ทำให้ต้องยิ่งระวังตัวมากกว่าเดิม

กระทั่งวันนี้ ทุกอย่างน่าจะคล่องตัวกว่าช่วงแรกๆ ที่เขากลับมา

ส่วนเรื่องตัวตนของคนผู้นั้น… เอาไว้มีโอกาสค่อยสืบหาใหม่ก็ยังมิสาย

สุ่ยหลิวเอ๋อร์เริ่มอาบน้ำแต่งตัว

เพื่อความปลอดภัย การเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองน่าจะเหมาะสมกว่า

นางหยิบหน้ากากผิวหนังมนุษย์บางๆ ออกมา แต่ในขณะที่กำลังจะสวมมัน ก็พลันมีเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากนอกประตู

“หลิวเอ๋อร์เล่า? สั่งให้นางมาปรนนิบัติข้าเดี๋ยวนี้!”

ซย่าโหวถิงอันหรือ!?

เขามาทำอันใดตอนนี้!?

และดูเหมือนว่าเขาจะเมาเล็กน้อย

เมื่อได้ยินเสียงขึ้นบันได สุ่ยหลิวเอ๋อร์ก็รีบเก็บข้าวของอย่างไว

“คุณชายรองซย่าโหว ช่างน่าเสียดายที่ท่านมาวันนี้ ทว่าวันนี้แม่นางหลิวเอ๋อร์กำลังพักผ่อนเจ้าค่ะ เช่นนั้นท่านจักรับสตรีนางอื่นแทนดีหรือไม่?”

แม่เล้าจางเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำนุ่มนวล

“วันนี้ข้าต้องการแค่นางเท่านั้น! ไม่เอาใครอื่น! นางอยู่ที่ใด? ไปตามนางมาเดี๋ยวนี้!”

อาจจะเป็นเพราะความมึนเมา ซย่าโหวถิงอันถึงได้อวดดีมากกว่าปกติและกล้าตะโกนเสียงดังในหอคอยชุนเฟิง

แม่เล้าจางพยายามยิ้มสู้ พลันเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขาอย่าง และพูดออกไปตามตรง

“คุณชายรอง ท่านเองก็มาที่นี่หลายคราแล้ว ท่านย่อมรู้จักกฎของสถานที่แห่งนี้ดี ยามนี้แม่นางหลิวเอ๋อร์ต้องการพักผ่อน ถึงจะเป็นข้า ก็เกลี้ยกล่อมให้นางออกมาไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ! นางค่อนข้างจุกจิกและดื้อรั้นมาก ถึงจะบังคับให้นางออกมา แต่มันจะทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน แต่กระนั้น ล่าสุด ทางเรามีสตรีผู้เป็นดั่งปรมาจารย์ในการเล่นพิณเข้ามาใหม่ด้วยนะเจ้าคะ ท่านจักลองรับชมก่อนดีหรือไม่?”

แต่ซย่าโหวถิงอันนั้นหาได้ฟังความไม่ เขาพลักนางออกอย่างแรง!

ปึง!

แม่เล้าจางถูกผลักอย่างแรงจนกระแทกราวบันได ส่งผลให้นางเจ็บหลังเหลือคณา

ซย่าโหวถิงอันยิ้มเยาะด้วยความดูถูกเหยียดหยาม และเดินขึ้นไปด้านบน

“ปรมาจารย์ในการเล่นพิณหรือ? เจ้ารู้หรือไม่? ว่าข้าน่ะ เคยได้ฟังเสียงพิณที่ไพเราะที่ดีที่สุดในโลกมาแล้ว! และคนของพวกเจ้าหรือจะสู้ได้!? อย่ามาทำให้หูของข้าต้องแปดเปื้อนไปหน่อยเลย!”

สีหน้าของแม่เล้าจางเปลี่ยนไปเล็กน้อย นางพอจะรู้ว่าเขากำลังพูดถึงใคร ก่อนจะระงับความโกรธที่กำลังพลุ่งพล่านในทรวงไว้

นางยืนค้ำเอวที่บอบช้ำของตัวเองไว้ แล้วก้าวไปข้างหน้า

“คุณชายรองเจ้าคะ มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ…”

ซย่าโหวถิงอันหงุดหงิดมาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว

“อันใดกัน? ข้ายอมลงทุนมาที่หอคอยชุนเฟิงกระจอกๆ ของพวกเจ้าเพื่อหาความสำราญใจ แต่กลับต้องมาเจอสายตาของพวกเจ้า? แล้วฟังเจ้าเทศนาข้าเนี่ยนะ?”

แค่ที่บ้านเขาได้ยินมาเกินพอแล้ว!

“ไสหัวไปเสีย!”

แต่ในขณะที่เขาจะได้ลงมือ จู่ๆ กลับมีเสียงนุ่มนวลและไพเราะดังมาจากด้านเขา

“ช้าก่อน!”

แม่เล้าจางเงยหน้าขึ้นมอง พลันตกใจจนพูดแทบสติหลุด

“หลิวเอ๋อร์? เจ้าออกมาเหตุใดกัน?”

สุ่ยหลิวเอ๋อร์ยิ้มบาง

“ข้าได้ยินเสียงของของคุณชายรองซย่าโหวดังมาแต่ไกล การที่คุณชายรองเลือกข้าน้อยนั้น ช่างเป็นเกียรติสำหรับข้าน้อยยิ่งนักเจ้าค่ะ และมันไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธท่าน”

นางเอ่ยพลางมองซย่าโหวถิงอัน

“คุณชายรอง… เชิญเจ้าค่ะ”

แค่นั้นซย่าโหวถิงอันก็พอใจแล้ว ก่อนจะหันไปเอ็ดแม่เล้าจาง

“หากเจ้าฉลาดได้ครึ่งหนึ่งของแม่นางหลิวเอ๋อร์ คงลดปัญหาลงไปได้เยอะ เข้าใจที่พูดหรือไม่?”

ทว่าแม่เล้าจางกลับไม่ตอบสนอง นางมองไปที่สุ่ยหลิวเอ๋อร์ด้วยสายตาฉงนระคนประหลาดใจ

วันนี้นางต้องการพักผ่อนมิใช่หรือ

อย่าว่าแต่คุณชายรองตระกูลซย่าโหวเลย แม้แต่จักพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เสด็จมา นางก็ยังไม่คิดจะออกมารับแขก

เมื่อสุ่ยหลิวเอ๋อร์มาที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่ใช่ว่าไม่มีใครรังแกนาง ความจริงแล้วมีบางกลุ่มคิดจะกลั่นแกล้งนางด้วยซ้ำ

แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็ตายกันหมด

“แลดูคุณชายรองจะอารมณ์ไม่ดีเลยนะเจ้าคะ หรือมีเรื่องใดกวนใจท่านอยู่?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สมองของซย่าโหยวถิงอันก็พลันหยุดทำงานไปชั่วขณะ ริมฝีปากอ้าหุบราวจะพูด ก่อนจะหลุดโพล่งคำที่อยู่ในใจออกมา

“ถ้าไม่ใช่เพราะ… จวนตระกูลเจียง!”

เคร้ง!

เขากระแทกจอกสุราลงบนโต๊ะอย่างแรง ใบหน้าของเขาแดงก่ำ บ่งบอกถึงความโกรธา

ขนตาของสุ่ยหลิวเอ๋อร์สั่นไหวเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ตัวข้าน้อยนั้นเป็นเพียงสตรีชั้นล่างที่แสนอ่อนแอ ย่อมไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ แต่ก็หวังให้เพียงคุณชายรองได้ผ่อนคลายลงเสียหน่อย และอย่าได้ถูกเรื่องเหล่านี้รบกวนจิตใจอีก…”

ซย่าโหวถิงอันที่ได้ยินเช่นนั้นก็นึกขำอย่างเย้ยหยัน

“ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่า คนตระกูลเจียงมันจะกล้าทำเกินไปเช่นนี้!”

จะมีผู้ใดในซีหลิงที่ไม่รู้เรื่องงานมงคลสมรสของน้องสาวสุดที่รักของเจียงอวี่เฉิงอย่าง เจียงอวี่จือ และ

ซย่าโหวถิงอันบ้าง??

การปรองดองของสองตระกูลผู้ทรงอิทธิพล งานมงคลนี้ย่อมเป็นผลดีของทั้งสองฝ่าย

โดยเฉพาะซย่าโหวถิงอัน

เพราะงานมงคลครั้งนี้ จะทำให้เขาชนะบุตรชายคนอื่นของใต้เท้าซย่าอย่างขาดลอย!

แล้วเขาจะไม่พอใจเหตุใดกัน?

สุ่ยหลิวเอ๋อร์ถามต่ออีกไม่กี่ประโยค หากแต่เป็นซย่าโหวถิงอันที่ระบายออกมามากมาย

จากนั้น นางถึงได้รู้ว่างานสมรสของตระกูลเจียงและตระกูลซย่าโหวเพิ่งจะถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากเจียงอวี่เฉิงได้รับบาดเจ็บ

แถมยังบอกด้วยว่าอาจจะต้องรอให้แล้วเสร็จงานขององค์หญิงสามกับเจียงอวี่เฉิงเสียก่อน

สิ่งนี้ทำให้ทางตระกูลซย่าโหวรู้สึกว่า ตระกูลเจียงมิได้จริงจังกับการแต่งงานครั้งนี้เลยสักนิด

ฝั่งเขาอุตส่าต์ลงทุนลงแรงไปหลายครา เพื่อให้กำหนดการของงานเสร็จสิ้นโดยเร็ว และออกมาสมบูรณ์แบบ

แต่ตระกูลเจียงกลับทำให้งานทุกอย่างล่าช้า

“… พวกนั้นอยากได้โอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนกลับไป ช่างน่าขันยิ่งนัก!”

ซย่าโหวถิงอันเดาะลิ้นเสียงดัง พลางเอ่ยพร่ำไปเรื่อยเปื่อย

“ตอนนั้นก็มอบสิ่งนี้ให้พวกข้าเอง แล้วจู่ๆ เหตุใดถึงอยากได้คืนเล่า!? หรือพวกเขาคิดจะเอายานี่ให้เจียงอวี่เฉิง? ฝันไปเถอะ!”

สุ่ยหลิวเอ๋อร์ตกตะลึง!

เพราะโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนที่ว่านั่น…เป็นขององค์หญิงใหญ่!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์