สรุปเนื้อหา บทที่ 855 หนึ่งคำขอ – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 855 หนึ่งคำขอ ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ฉู่หลิวเยว่ตามฉานอี้เข้าไปในวังหลวง
ภายในตำหนักฮวาหยาง ซั่งกวนหว่านที่รออยู่ก่อนแล้วเริ่มหมดความอดทน และเดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิดงุ่นง่านใจ
คำพูดเหล่านั้นที่ได้ยินเมื่อครู่ก่อน ยังดังก้องอยู่ในหูของนาง
เดิมทีนางคิดว่าฉู่หลิวเยว่ตายไปแล้ว แต่ดันคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมีชีวิตรอดกลับมา!
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังได้ทำสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์ และเด็ดบัวระบำกลับมาได้อีก!
ซึ่งหากพูดถึงเรื่องอสูรศักดิ์สิทธิ์ ฉู่หลิวเยว่ก็แค่จับพลัดจับผลูได้มันเพราะโชคช่วยเท่านั้น
ทว่าบัวระบำนี่สิ นางได้มันมาได้อย่างใด?
นางยังจำได้ดีว่าตอนที่ผู้อาวุโสชิวซีพยายามเด็ดบัวระบำ เขาถูกดูดลงไปในทะเลสาบกระจก และกลืนหายไปใต้น้ำโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะดิ้นรนหรือส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ แล้วร่างของเขาก็หายไปอย่างสมบูรณ์!
และหลังจากนั้น พวกของเจี่ยนชูเย่เองก็แพ้ราบคาบกลับมาเช่นกัน…
แต่แล้วฉู่หลิวเยว่ทำได้เยี่ยงไร?
ช่างน่าหงุดหงิดราวกับซั่งกวนเยว่ก็มิปาน
ความรู้สึกของการถูกเปรียบเทียบเช่นนี้ ช่างคุ้นเคยเสียจริง!
ย้อนกลับไปในอดีต ครั้งซั่งกวนเยว่ยังมีชีวิตอยู่ นางมักถูกกดขี่ข่มเหงอยู่แทบตลอดเวลา!
ไม่ว่านางจะพยายามแค่ไหน ตั้งใจเพียงใด หรือทำออกมาได้ดีขนาดไหน…
แต่ก็ไม่มีใครชื่นชมนางเลยสักคน
ในสายตาของพวกเขามีเพียงซั่งกวนเยว่!
ซั่งกวนหว่านหวนคิดถึงอดีต พลันกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น
แค่ซั่งกวนเยว่คนเดียวก็เกินพอแล้ว ทว่ายามนี้กลับมีฉู่หลิวเยว่โผล่มาอีก…
นางยกมือลูบใบหน้าของตัวเองอย่างใช้ความคิด
ขอเพียงจัดการธุระในครานี้ให้เสร็จสิ้น นางก็ไม่จำเป็นต้องเก็บฉู่หลิวเยว่ไว้แล้ว…
…
เนื่องจากวันพรุ่งจักเป็นวันอภิเษกสมรสแล้ว ยามนี้ข้าราชบริพารในวังจึงล้วนแต่งกายใส่เครื่องแบบให้เหมาะสมกับงาน ตลอดโถงทางเดินถูกประดับประดาด้วยโคมไฟ ช่างดูเป็นงานรื่นเริงมีชีวิตชีวายิ่ง
ฉู่หลิวเยว่เดินตามอีกคนไปเรื่อยๆ พลางมองภาพเหล่านั้นอย่างเฉยเมย
นางมองออกว่าซั่งกวนหว่านนำระเบียบพิธีการอภิเษกสมรสขององค์หญิงในรัชทายาทมาใช้ แต่ถ้าเทียบกับงานของนางในปีนั้น ก็ยังเทียบไม่ติดอยู่ดี
และถึงซั่งกวนหว่านจะอวดดีเพียงใด นางก็ไม่กล้าขุดหลุมฝังตัวเองอย่างโจ่งแจ้งขนาดนั้น
อย่างใดก็ตาม ข้าวของเครื่องใช้ภายในงานเหล่านี้ ล้วนดูเหมือนจะเพิ่งถูกสั่งทำขึ้นใหม่
เป็นที่ประจักษ์ให้เห็นว่า ซั่งกวนหว่านไม่ยินยอมที่จะนำเครื่องใช้จากงานอภิเษกสมรสคราวก่อนมาใช้ต่อ
ทว่าสำหรับงานใหญ่โตเช่นนี้ ที่อาจจะกินงบส่วนตัวได้นั้น ซั่งกวนหว่านคงแอบรู้สึกเสียใจเป็นแน่
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกโค้งขึ้น
และไม่นาน คนทั้งสองก็เคลื่อนตัวมาถึงตำหนักฮวาหยาง
ฉานอี้เป็นฝ่ายก้าวเท้าไปข้างหน้าเพื่อเคาะประตู พลันมีเสียงตอบรับของซั่งกวนหว่านดังมาจากในห้อง
จากนั้นฉานอี้ก็ถอยตัวออกมา และเชิญฉู่หลิวเยว่เข้าไปข้างใน
ใบหน้านวลของฉู่หลิวเยว่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม นางส่งเสียงตอบรับกลับไปแล้วสาวเท้าเข้าไปในตำหนัก
…
ด้านในห้องรับรอง ซั่งกวนหว่านกำลังนั่งรออยู่ที่นั่น
และทันทีที่ฉู่หลิวเยว่เดินเข้าไป สายตาของนางก็จับจ้องไปที่ฉู่หลิวเยว่ทันที
เมื่อเห็นใบหน้าอันคุ้นเคย ซั่งกวนหว่านก็เผลอขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
และจับจ้องอยู่ที่รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของฉู่หลิวเยว่ตาไม่กะพริบ
“องค์หญิงสาม โปรดอยู่ในที่ปลอดภัย”
“มิได้พบกันนานนะ องค์หญิงสาม”
ฉู่หลิวเยว่ยืนห่างจากซั่งกวนหว่านห้าก้าว แล้วพูดเย้ยหยันเสียงเย็นเยียบ
นางเอ่ยอย่างไม่เคารพ สีหน้าของนางไร้ซึ่งความอ่อนน้อมถ่อมตน
ราวกับว่านาง… มิได้สนใจสถานะของซั่งกวนหว่านเลย
สิ่งนี้ทำให้ซั่งกวนหว่านหงุดหงิดกว่าเดิมหลายเท่า พลันเยาะเย้ยกลับอย่างอดไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...