ปกติแล้วจะเห็นท่าทางเอาแต่ใจของปีศาจแดง นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นท่าทางแบบนี้ของมันเลย
เมื่อเห็นว่าน้ำตาของปีศาจแดงนั้นไม่สามารถหยุดยั้งได้ ถวนจื่อก็กระพรือปีกอย่างหงุดหงิด พร้อมเงยหน้าไปมองทางฉู่หลิวเยว่ แววตาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมา นางยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้กับปีศาจแดง
“เอาล่ะๆ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ข้าไม่ฆ่าเขาแล้ว”
ในตอนนั้นทุกคนที่กำลังมองดูภาพเหตุการณ์นี้ก็ต้องตกใจอย่างพร้อมเพรียงกัน
นะ นี่หมายความว่าอย่างใด?
เพื่อนกชิงเชวี่ยตัวหนึ่ง ดังนั้นนางจึงไม่ฆ่ามู่ชิงเห่อแล้วอย่างนั้นน่ะหรือ?
ในตอนนั้นเองเสียงซุบซิบก็ดังขึ้นท่ามกลางกลุ่มคน
“ไม่หรอกมั้ง องค์หญิงใหญ่จะไม่ฆ่ามู่ชิงเห่อแล้วหรือ? เพราะว่านกชิงเชวี่ยตัวนั้นเนี่ยนะ?!”
“เจ้านี่ไม่รู้อันใด แม้ว่านกชิงเชวี่ยตัวนั้นจะเป็นอสูรพันธสัญญาของมู่ชิงเห่อ แต่ความจริงแล้วเวลาส่วนใหญ่นั้นองค์หญิงใหญ่เป็นคนที่เลี้ยงดูมันต่างหาก…ได้ยินมาว่าองค์หญิงใหญ่รักใคร่ถนอมอสูรตัวนั้นเทียบเท่ากับอสูรในพันธสัญญาของตัวนางเองเลย! หากมู่ชิงเห่อตายแล้ว เห็นได้ชัดว่านกชิงเชวี่ยตัวนั้นก็คงจะไม่มีชีวิตรอดต่อไป”
“เป็นเช่นนี้นี่เอง…แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม…อสูรในพันธสัญญาขององค์หญิงใหญ่ในตอนนี้คืออสูรศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ จะมาสนใจกับนกชิงเชวี่ยตัวเล็กๆ เช่นนั้นเหตุใด?”
“ความคิดขององค์หญิงใหญ่ใครก็ยากจะคาดเดา…แต่ในทางกลับกันมู่ชิงเห่อนั้นโชคดีเหลือเกิน! คาดไม่ถึงว่าเขาจะมีชีวิตรอดมาได้เพราะอสูรในพันธสัญญาของตนเอง!”
คนจำนวนไม่น้อยล้วนตกใจกับเรื่องนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเรื่องขององค์หญิงใหญ่นั้น นางจะจัดการอย่างใด ก็ล้วนอยู่ที่นางแล้ว
มู่ชิงเห่อหักหลังนาง ในเมื่อนางไม่ฆ่า คนอื่นๆ จะมีสิทธิ์พูดว่าอันใดเล่า?
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองมู่ชิงเห่อ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าถูกขับออกจะตำแหน่งรองแม่ทัพ ทหารม้าทมิฬ! กักบริเวณในจวนตระกูลมู่! ไม่มีคำสั่งจากข้า ห้ามเจ้าออกจากคฤหาสน์ และไม่ว่าใครก็ห้ามเยี่ยมโดยเด็ดขาด!”
ในที่สุดแล้วหัวใจของเจี่ยนเฟิงฉือก็สามารถปล่อยวางและหายใจได้ เขาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ดีจริงๆ…
ไม่เช่นนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่าเอ่ยปากอ้อนวอนอย่างใด…
แต่ว่าเหมือนมีอันใดบางอย่างผิดปกติไป เหตุใดอยู่ดีๆ เขาถึงต้องเรียกร้องหาความตายด้วย?
ถ้ามีโอกาสแล้วจะต้องไปถามเสียหน่อย!
ใบหน้าของมู่ชิงเห่อเต็มไปด้วยความตกตะลึง
เดิมทีเขาคิดว่าสิ่งที่รอเขาอยู่นั้นคือความตาย แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า…
ทันใดนั้นแววตาแห่งความมุ่งมั่นของเขาก็ลุกโชน ราวกับเขาต้องการจะพูดอันใดบางอย่าง
“ฝ่าบาท…”
“นำตัวเขาลงไป”
ฉู่หลิวเยว่ออกคำสั่ง ทหารม้าทมิฬที่อยู่ด้านข้างก็รีบเข้ามาแล้วจับตัวของมู่ชิงเห่อเอาไว้!
ชายคนนั้นเป็นชายรูปร่างกำยำ แต่เมื่อครู่ไม่มีใครสนใจถึงการมีอยู่ของเขาเลย แต่เมื่อเขาออกมายืนด้านหน้า ทุกคนถึงเพิ่งตระหนักว่าเขาผู้นี้มีรัศมีปราณที่แข็งแกร่งอย่างมาก!
มู่ชิงเห่อขมวดคิ้วมุ่น หันกลับไปมอง จากนั้นก็ได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
คนผู้นั้นคือ พี่เหลยสี่!
คาดไม่ถึงว่าเขาจะแทรกซึมเข้าไปในกองทัพทหารม้าทมิฬ แต่ไม่มีคนพบเลยแม้แต่คนเดียว
“ซื่อจิง ลำบากเจ้าแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น
ซื่อจิงหัวเราะคิกๆ
“ฝ่าบาทได้โปรดวางใจในการทำงานของข้า!”
ทุกคนต่างตกตะลึงไป
ซื่อจิง?
นั่นมันสิบสามผู้พิทักษ์เยว่ ลำดับที่สี่ไม่ใช่หรือ?
สิบสามผู้พิทักษ์เยว่กลับมาที่ซีหลิงตั้งแต่เมื่อไร! อีกทั้งยังไม่มีใครพบถึงความผิดปกตินี้เลย!
ก่อนหน้านี้เจียงอวี่เฉิงใช้กำลังคนไปจำนวนมากในการตามจับตายสิบสามผู้พิทักษ์เยว่!
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะไม่สามารถตามจับได้แม้แต่คนเดียวซ้ำพวกคนเหล่านั้นก็ตามองค์หญิงใหญ่กลับมาที่ซีหลิงแล้ว!
คิ้วของเจียงอวี่เฉิงก็ขมวดเป็นปมมากขึ้น
มิน่าล่ะ!
สิบสามผู้พิทักษ์เยว่ได้แปลงโฉมและกลับเข้ามาที่นี่ใหม่แล้ว!
เมื่อตอนที่เขากับซย่าโหวหรงได้พูดคุยเรื่องโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนที่หายไปนั้น เขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
หลังจากนั้นเขาก็ได้ส่งคนไปสืบหาในเมืองแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล ไม่พบอันใดสักอย่างเลย
คิดไม่ถึงว่า พวกเขาจะเข้าวังมากันในวันนี้เลย!
เรื่องทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นแผนของฉู่หลิวเยว่ที่วางเอาไว้ตั้งนานแล้ว!
นางตัดสินใจพลิกกลับมามีชัย โดยไม่คิดจะเหลือหนทางรอดให้พวกเขาเลยแม้แต่น้อย!
นางไปคุกเข่าลงตรงหน้า แต่กลับถูกผู้อาวุโสเฉินเค่อขวางทางเอาไว้!
“บังอาจ!”
ร่างกายของซั่งกวนหว่านลอยกระเด็นออกไป พร้อมกระแทกลงพื้นอย่างแรง!
เดิมทีนางก็ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว เพิ่มแรงกระแทกนี้เข้าไป ทำให้นางกระอักเลือดออกมาหลายคำ
ซั่งกวนหว่านยกมือขึ้นพยายามจะเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก
เมื่อก้มลงมอง ทั่วทั้งร่างของนางนั้นเต็มไปด้วยสีแดง ทันใดนั้นเองนางก็รู้สึกแสบตาอย่างมาก!
จู่ๆ นางก็คิดขึ้นมาได้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของนาง
บนร่างกายของนางยังสวมชุดแต่งงานสีแดงปักลายเฟิ่งหวงสีทอง พร้อมสวมกว้านอยู่เลย
ตำแหน่งจักรพรรดินั้นอยู่ห่างจากนางแค่ก้าวเดียว
เดิมทีนางคิดว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไป นางจะกลายเป็นผู้หญิงที่มีเกียรติที่สุดในเมืองซีหลิงแห่งนี้แล้ว
แต่ว่าตอนนี้ มันไม่หลงเหลืออันใดทั้งนั้น!
ความพยายามที่ผ่านมาหลายปี เพียงชั่วข้ามคืนมันก็กลายเป็นของที่ไร้ประโยชน์
ในใจของซั่งกวนหว่านเต็มไปด้วยความเคียดแค้น! ในอกสุมไปด้วยความริษยาระคนโมโห จนมันแทบจะทำให้ตัวเธอมอดไหม้ไปแล้ว
ระหว่างคิ้วของนางมีอักขระยันต์สีดำปรากฏขึ้น!
ไม่มีแล้ว…
ไม่มีอันใดแล้ว!
อีกทั้งผู้หญิงคนนั้น…ไม่ว่านางจะเป็นซั่งกวนเยว่หรือฉู่หลิวเยว่! ท้ายที่สุดแล้วนางก็แย่งทุกสิ่งทุกอย่างไป!
ตอนนี้นางอยู่ตำแหน่งสูงสุด น่าภูมิใจนักหรือ!
ซั่งกวนหว่านส่ายหน้าอย่างช้าๆ พร้อมจ้องไปที่ฉู่หลิวเยว ก่อนจะพูดออกมาหนึ่งประโยค
“เจ้าได้ของไปมากมายพอแล้ว”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกวูบ และรู้สึกในตัวของซั่งกวนหว่านนั้นมีบางอย่างผิดปกติไป
วินาทีต่อมาเสียงลมหายใจของซั่งกวนหว่านก็กระชั้นเชิดขึ้นทันที!
จากนั้นใบมีดสีดำก็ได้แหวกอากาศ แล้วพุ่งไปที่ฉู่หลิวเยว่ทันที
————————————————————–
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...