บทที่ 908 จดหมายฉบับนั้น – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 908 จดหมายฉบับนั้น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของฉู่หลิวเยว่ เจียงอวี่เฉิงก็เลือกที่จะเงียบ
เขาปิดปากแน่นและไม่ยอมพูดอันใด พลางทำทีมองไปทางอื่นและหันไปรอบๆ ราวกับไม่ต้องการที่จะสนทนากับฉู่หลิวเยว่อีกต่อไป
เปรี๊ยะ!
ฉู่หลิวเยว่ดีดนิ้ว!
พลันมีเปลวไฟสีแดงเข้มพุ่งขึ้นจากนิ้ว และเผาไหม้ภาพวาดนั้นในบัดดล!
เมื่อเจียงอวี่เฉิงได้ยินเสียง เขาก็หันศีรษะไปมองทันที และพอเห็นฉากนี้ เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็กระตุกถี่อย่างรุนแรง!
“ในเมื่อเจ้าไม่อยากพูดถึงมัน ก็ไม่ต้องพูด ส่วนภาพวาดนี้…เจ้าควรจะเผามันทิ้งตั้งแต่วันที่เจ้าตัดสินใจฆ่าข้า”
น้ำเสียงของฉู่หลิวเยว่ฟังดูเย็นชาและเด็ดขาด
การเห็นภาพนี้มีแต่จะทำให้นางสะอิดสะเอียนมากกว่าเดิม
นางไม่รู้หรอกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาแสร้งทำเป็นหลงใหลผู้ใดอยู่?
ทว่าตราบใดที่เขาจริงใจต่อนาง เขาจะไม่ทำสิ่งเหล่านั้นตั้งแต่แรก
ปลิ้นปล้อนสิ้นดี ช่างน่าขำ!
ภาพวาดผืนนั้นถูกไฟเผาไหม้อย่างรวดเร็วและกลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด!
เมื่อแสงเจิดจ้าเสมือนดวงดาราของเปลวเพลิงดวงสุดท้ายดับลง ก็มีคลื่นอารมณ์บางอย่างผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเจียงอวี่เฉิงแวบหนึ่ง
ดูเหมือนเขาจะต้องการคว้าภาพวาดนั่นไว้ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ทำ
ฉู่หลิวเยว่มองเขาอย่างมีนัยยะ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไป
ครั้นพ้นร่างของนาง บรรยากาศในห้องโถงก็กลับคืนสู่ความเงียบอีกครา
แต่ไม่นานนัก ก็มีเสียงร้องตะโกนโหยหวนและน่าสลดใจ ดังขึ้นจากห้องโถงใหญ่ที่อยู่ถัดไป
ร่องรอยความรังเกียจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจียงอวี่เฉิงทันควัน
เพราะนั่นคือเสียงร้องอันทุกข์ระทมของซั่งกวนหว่าน ดูเหมือนจักถึงเวลาที่นางจะต้องทนทรมานอีกครั้ง
เกือบทุกวันจะมีเสียงตะโกนแบบนี้ดังขึ้นเป็นระลอก
ซึ่งเขาไม่ต้องเห็นก็สามารถจินตนาการได้ไม่ยาก ว่าเจ้าของเสียงนี้กำลังพบกับความเจ็บปวดแสนสาหัสขนาดไหน
แต่จู่ๆ เจียงอวี่เฉิงก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนในหัวใจ ใบหน้าของเขาซีดเซียว ก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าลง
…
หลังจากจัดการกับเรื่องเหล่านี้แล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็วางแผนจะกลับไปยังตำหนักเจาเยว่เสียก่อน
แม้ว่าตอนนี้สถานะของนางจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่นางก็ยังคงอาศัยอยู่ในห้องบรรทมเดิม
และทันทีที่ขาเรียวเดินไปถึงประตูของตำหนักเจาเยว่ ดวงตากลมสวยก็มองเห็นร่างที่คุ้นเคย
เชียงหว่านโจว
ดูเหมือนว่าเขากำลังรอนางอยู่ และเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าย่างกรายเข้าไป เขาก็เงยหน้าขึ้น
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ก่อนจะเดินเข้าไป
“เสี่ยวโจว เหตุใดเจ้าจึงกลับมาเร็วนัก?”
ก่อนหน้านี้นางวานขอให้เชียงหว่านโจวไปทำธุระบางอย่างแทนตัวเอง… ซึ่งก็คือการกลับไปยังแคว้นเย่าเฉิน แล้วพาฉู่หนิงมาที่นี่
ครั้นออกมาจากแคว้นเย่าเฉิน ฉู่หนิงรับรู้เพียงว่านางเดินทางมายังราชวงศ์เทียนลิ่งพร้อมมู่ชิงเห่อ แต่เขาไม่รู้ว่านางกลับมาเพื่อแก้แค้น ซึ่งแน่นอนว่าเขาย่อมไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของนาง
ทว่ายามนี้พายุได้สงบลงแล้ว นางจึงวางแผนที่จะเชิญฉู่หนิงมาที่นี่และบอกความจริงของเรื่องนี้ให้เขาได้รู้ว่าโนเวล-พีดีเอฟ
ฉู่หลิวเยว่คนก่อนนั้นได้เสียชีวิตแล้ว และผู้ที่อาศัยอยู่ในร่างนี้ก็คือจิตวิญญาณของนางที่เข้ามาแทนที่
แม้ว่ามันจะโหดร้ายเกินไปสำหรับผู้เป็นบิดา แต่สุดท้ายมันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เนื่องจากในปัจจุบัน นางได้กอบกู้สถานะที่แท้จริงในราชวงศ์เทียนลิ่งคืนมาแล้ว จะให้นางแกล้งทำเป็นฉู่หลิวเยว่บุตรสาวคนเดิมของเขาต่อไปเรื่อยคงไม่ได้
แต่นางก็คิดมาแล้วว่า หากฉู่หนิงยินยอม นางก็จะเป็นบุตรสาวให้เขาไปตลอดชีวิต
ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเขาอยากจะอยู่ที่ซีหลิง หรือกลับไปที่เย่าเฉิน นางก็จะเคารพการตัดสินใจของเขาและพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อติดตามและดูแลเขา
หลังจากเกิดใหม่ ถึงนางจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับฉู่หนิงได้ไม่ถึงปี แต่ในใจของนางก็ถือว่าฉู่หนิงเป็นพ่อที่แท้จริงของตนไปแล้ว
ทว่าเมื่อเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเชียงหว่านโจว ฉู่หลิวเยว่ก็ตระหนักได้ทันทีถึงการแสดงออกของเขาดูผิดปกติไปจากเดิม
หัวใจดวงน้อยร้อนรนขึ้นมาทันที
ก่อนจะได้ยินเชียงหว่านโจวพูดว่า
“ใต้เท้าฉู่หนิงไม่อยู่แล้ว”
…
ภายในห้องทรงงานของตำหนักเจาเยว่ มีเพียงความเงียบงัน
ฉู่หลิวเยว่นั่งประจำลงบนเก้าอี้ประจำกาย ในขณะที่เชียงหว่านโจวยืนห่างจากนางไปห้าก้าว
บรรยากาศในห้องอัดแน่นไปด้วยความเย็นเยียบ ประหนึ่งถูกแช่ให้กลายเป็นน้ำแข็งทีละนิด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...