ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 910

สรุปบท บทที่ 910 เจ้าพูดก่อน: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 910 เจ้าพูดก่อน – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ

บท บทที่ 910 เจ้าพูดก่อน ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ขนตาของฉู่หลิวเยว่สั่นไหวเบาๆ เปลือกตาบางเปิดขึ้นแล้วตวัดตามองเขา

“ยังไม่ได้เจอเลย มีอันใดหรือไม่?”

“แคกๆ เปล่า ไม่มีอันใด แค่… ถามเฉยๆ”

เจี่ยนเฟิงฉือกำหมัดแน่นแล้วยกขึ้นทับริมฝีปาก กระแอมไอแก้เก้อ

“ข้าจำได้ว่าเจ้ากับมู่ชิงเห่อมีความสัมพันธ์ต่อกันที่ไม่เลวเลยใช่หรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้ว พลางถามย้อน

เจี่ยนเฟิงฉือแอบเบะปากในใจ ยามนางพูดกับมู่หงอวี่นั้นแทนตัวว่า “ข้า” ด้วยน้ำเสียงสนิทสนม

แต่เวลาอ้าปากพูดกับเขา นางกลับเน้นย้ำคำว่า “ข้า” เสียหนักแน่น นี่กลัวเขาลืมสถานะของนางในปัจจุบันหรือไร?

ก่อนหน้านี้เขาได้ช่วยเหลือนางไว้หลายเรื่อง ไฉนตอนนี้นางถึงปฏิบัติต่อเขาต่างไปจากเดิมเล่า?

แต่เขาก็ไม่กล้าพูดมันออกไปตรงๆ

“ฝ่าบาทจำผิดแล้ว”

เจี่ยนเฟิงฉือเบนสายตาไปทางอื่น พร้อมสายตาที่ดูคลุมเครือ

“ในอดีตความสัมพันธ์ของพวกข้าเป็นเช่นไร ฝ่าบาทเองก็รู้ดีมิใช่หรือ?”

ฉู่หลิวเยว่กระตุกยิ้มมุมปาก

“ใช่แล้ว ข้ายังจำได้ดีเลย ตอนนั้นมารดาของมู่หงอวี่ล้มป่วย และมู่ชิงเห่อก็ขอให้เจ้าไปช่วยเขาที่แคว้นเย่าเฉิน

หากสองคนนี้ไร้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีต่อกันจริงๆ ล่ะ คนอย่างเจี่ยนเฟิงฉือจะวิ่งแจ้นไปช่วยดูคนป่วยให้เขาถึงที่หรือ?

จากนั้นมู่ชิงเห่อก็มอบความไว้วางใจให้เจี่ยนเฟิงฉือ โดยการให้เขาเป็นคนพานางกลับมาที่ซีหลิง

หากสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าสองคนนี้ติดต่อกันเป็นการส่วนตัวอยู่บ่อยครั้ง และชัดเจนว่าพวกเขาไว้วางใจซึ่งกันและกันมาก

ถ้าจะมาปัดว่าพวกเขาเกลียดกันเอาตอนนี้ ก็สายเกินไปแล้ว

สีหน้าของเจี่ยนเฟิงฉือชะงักแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง

นี่เขาลืมไปได้อย่างใดกันว่าฉู่หลิวเยว่เองก็รู้เรื่องเหล่านั้นทั้งหมด แถมยังจำมันได้ไม่ลืมอีก!

เมื่อเห็นว่าไม่สามารถปฏิเสธได้ เจี่ยนเฟิงฉือจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดงึมงำว่า

“ในเมื่อฝ่าบาทยืนกรานเช่นนี้… ความจริงก็ถูกอย่างที่ท่านพูดนั่นแหละ… อย่างใดเสียมู่ชิงเห่อก็เป็นถึงรองแม่ทัพของกองกำลังทหารม้าทมิฬ สถานะของเขาไม่ได้ต่ำต้อยเรี่ยดินและมีอำนาจมากมาย การที่ท่านชายผู้สูงศักดิ์อย่างข้าจะติดต่อกับเขาบ่อยๆ นั้นย่อมเป็นเรื่องปกติมิใช่หรือ?”

ฉู่หลิวเยว่อมยิ้ม

ถ้าเจี่ยนเฟิงฉือไม่พูดคำเหล่านี้ออกมาคงจะดีเสียกว่า แต่การที่เขาพูดแบบนี้ ยิ่งทำให้เห็นว่าเขากำลังร้อนตัวมากเพียงใด

นางพูดต่อช้าๆ

“อ่อ เป็นเช่นนี้นี่เอง… แต่ย้อนกลับไปตอนนั้น ข้าเองก็เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ สถานะและอำนาจของข้าย่อมสูงส่งกว่าเขา ทว่าเจ้าก็ยังไม่ไว้หน้าข้าอยู่ดี? ไฉนถึงมาเปลี่ยนนิสัยเอาตอนนี้กัน?”

เจี่ยนเฟิงฉือแทบสำลัก เขาหาเหตุผลมาแย้งนางไม่ได้เลย

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ไปจวนตระกูลมู่พร้อมข้าแล้วกัน”

ฉู่หลิวเยว่เชิดคางขึ้นเล็กน้อย

“ดี ข้ามีเรื่องต้องซักไซร้พวกเจ้าหลายเรื่องเลย”

เมื่อมาถึงหน้าจวนตระกูลมู่ และมองไปยังประตูที่คุ้นเคย เจี่ยนเฟิงฉือก็แอบรู้สึกเสียใจขึ้นมาหน่อยๆ

เหตุใดเขาถึงห้ามปากตัวเองไม่เคยได้สักทีนะ!

หากเขาไม่พูดถึงเรื่องนี้ ก็คงไม่ถูกนางบังคับมาที่นี่หรอก!

นายทหารที่รับผิดชอบในการปกป้องดูแลจวนตระกูลมู่ ยังคงเป็นกำลังพลจากกองทัพทหารม้าทมิฬ ทว่าหน่อยที่รับผิดชอบก่อนหน้านี้ที่เป็นคนสนิทของมู่ชิงเห่อ ล้วนถูกแทนที่ด้วยทหารใหม่ทั้งหมด

นายทหารที่ยืนอยู่หน้าประตูตกใจเมื่อเห็นทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามา เขาเตรียมจะทำความเคารพ แต่กลับเห็นฉู่หลิวเยว่โบกมือปฏิเสธเสียก่อน

“มู่ชิงเห่อล่ะ?”

นายทหารคนหนึ่งตอบอย่างรวดเร็ว

“รองแม่ทัพมู่… อยู่ข้างในจวนพ่ะย่ะค่ะ ใต้เท้าซื่อจิงเองก็อยู่ที่นั่นด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

ก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่ส่งซื่อจิงให้ไปรับตัวมู่ชิงเห่อกลับมา หลังจากนั้นซื่อจิงก็ปักหลักอยู่ที่นี่มาโดยตลอด

การฝึกพลังปราณของมู่ชิงเห่อยังไม่ถูกยกเลิก และคนเดียวที่สามารถปราบปรามพลังของเขาได้ก็คือ ซื่อจิง

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปทันที

ในใจเจี่ยนเฟิงฉืออยากจะหนีไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด และปฏิเสธที่จะเดินหน้าต่อไป แต่สายตาก็ดันไปเห็นฉู่หลิวเยว่ที่หันกลับมาจ้องหน้ากันเสียก่อน

เจี่ยนเฟิงฉือใจเต้นระส่ำทันที ก่อนจะเดินตามนางไปอย่างเชื่อ

หลังจากก้าวเข้าไปในลานด้านใน ซื่อจิงก็โผล่หน้าออกมาทันทีเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว

บทที่ 910 เจ้าพูดก่อน 1

บทที่ 910 เจ้าพูดก่อน 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์