ตอนที่ 331 ผู้เฒ่าหลู่
หลังจากที่หลู่เซินล้มลงกับพื้น ฉีเลี่ยจึงได้ก้มลงใช้มือตบลงบนพื้นข้างใบหน้าของเขาอย่างแรง เศษหินและดินปลิวว่อน ส่วนหนึ่งได้ร่วงหล่นลงบนใบหน้าของซีดเซียวไร้สีเลือดของหลู่เซิน
“พะ.. พี่ชาย.. ผะ.. ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”
เวลานี้ หลู่เซินไม่อาจต้านทานแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากการข่มขู่ของฉีเล่ยได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ในเวลานี้คือ อ้อนวอนร้องขอความเมตตาจากเขา
“ยกโทษงั้นเหรอ?! นี่แกพูดใหม่อีกทีสิ พูดกับผู้อาวุโสท่านนั้นเดี๋ยวนี้!”
ฉีเล่ยร้องคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางร่างของแพทย์อาวุโส ที่ตอนนี้กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนเก้าอี้
หลู่เซินรีบร้องออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน “ผะ.. ผมผิดไปแล้วครับ วันหน้าผมไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้อีกแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยครับ!”
ฉีเล่ยหัวเราะเสียงดังกึกก้อง ก่อนจะยกมือขึ้นจิกผมของหลู่เซินกระชากจนหน้าหงาย ปากก็ตวาดใส่หน้าเสียงดัง
“แกเชื่อไหมว่า ฉันจะทำกับแกเหมือนที่แกทำกับผู้อาวุโส?”
ทันทีที่พูดจบ ฉีเล่ยก็สังเกตเห็นว่า จู่ๆ ร่างของหลู่เซินกลับสั่นเทิ้มผิดปกติ ก่อนจะได้กลิ่นแปลกๆตามมา
“ห๊ะ?! นี่แกกลัวจนฉี่ราดเลยงั้นเหรอ?”
ฉีเล่ยเห็นเช่นนั้นจึงอดที่จะพูดประชดประชันออกไปไม่ได้ “นี่น่ะเหรอประมุขตระกูลหลู่? น่าสมเพชชะมัด!”
แต่ยังไม่ทันที่หลู่เซินจะได้พูดจาอ้อนวอนร้องขอชีวิตต่อ ก็มีลมพัดกรรโชกมาจากด้านนอก
“นี่มัน…”
“ถึงจุดจบของแกแล้ว!”
หลู่เซินที่มีท่าทีหวาดกลัวจนฉี่ราดเมื่อครู่ จู่ๆกลับลุกขึ้นยืนราวกับได้ชีวิตใหม่ สีหน้าท่าทางของเขาดูไม่แยแสกับฉีเล่ยเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่ร้องตะโกนบอกฉีเล่ยพร้อมกับวิ่งตรงไปยังประตูทางออก
“คนของฉันมาถึงแล้วโว้ย!”
ระหว่างที่วิ่งออกไปนั้น ยังคงมีหยดน้ำไหลออกมาจากกางเกงของเขา และหยดไปตามทางด้วย
“ฉีเล่ย! ฉันจะบอกอะไรให้ ครั้งนี้แกตายแน่ๆ! ฮ่าๆๆ”
หลู่เซินร้องตะโกนบอก ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความสะใจ
ทุกคนในห้องต่างก็จ้องมองไปที่ประตูทางออกด้วยสีหน้างุนงง เพราะจู่ๆ ก็มีคนมากมายปรากฏตัวขึ้นในวังมังกรอีกครั้ง
ฉีเล่ยรีบวิ่งตรงเข้าไปหาฮวาโหล่วพร้อมกับกระซิบปลอบโยนข้างหู “ไม่ต้องกลัว! ผมจะจัดการทุกอย่างเอง!”
กลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินเข้าประตูมา โดยมีคนสูงอายุสองสามคนเดินตามหลังมา
“ท่านปู่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว! ฉีเล่ยคนนี้ไม่เห็นหัวตระกูลหลู่ของเราเลย ในเมื่อท่านปู่ใหญ่มาแล้ว ได้โปรดช่วยล้างแค้นให้กับหลานด้วย!”
ชายชราที่เดินตามหลังมานั้น หลังจากที่ได้ยินหลู่เซินเรียกขานว่าท่านปู่ใหญ่ ทุกคนก็พอคาดเดาได้ว่าเขาคือใคร?
“คนผู้นี้คงจะเป็นผู้ก่อตั้งตระกูลหลู่ และเป็นแพทย์ที่โด่งดังมีชื่อเสียงอย่างมากในอดีต”
ใครบางคนกระซิบกระซาบกัน
ชายชราอายุนับร้อยปีที่ดูมีพลังอำนาจอย่างมากเดินตรงเข้ามา ก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงหน้าหลู่เซินโดยไม่เอ่ยกล่าวอันใดออกมา แต่กลับยกมือขึ้นตบหน้าหลู่เซินอย่างแรง พร้อมกับตวาดเสียงดัง
“ชั่วช้า! ฉันอบรมสั่งสอนแกอย่างไร?”
หลู่เซินนิ่งอึ้งไปด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะร้องคร่ำครวญออกมา
“ท่านปู่ใหญ่ ตอนนี้ผมนับเป็นประมุขของตระกูลหลู่แล้ว ซึ่งท่านปู่ก็เห็นด้วย แต่ตอนนี้ผมถูกคนข่มเหงรังแก ท่านปู่ไม่เพียงไม่ช่วย แต่ยังตบหน้าผมทำไมกัน?”
ผู้เฒ่าหลู่หันไปมองฉีเล่ยที่ยืนอยู่ตรงข้าม ก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา
“เฮ้อ…”
เขาไม่สนใจหลู่เซินหลานชายอีกเลย แต่กลับเดินตรงเข้าไปหาฉีเล่ยแทน
“ประธานฉี”
ผู้เฒ่าหลู่เป็นฝ่ายเอ่ยทักทาย พร้อมกับโน้มศรีษะลงด้วยท่าทางนอบน้อม
“ผู้อาวุโสหลู่”
ในเมื่ออีกฝ่ายแสดงท่าทางสุภาพและมีมารยาทกับตนเช่นนี้ ฉีเล่ยย่อมต้องแสดงสิ่งเดียวกันกลับไป
“แม้ว่าตอนนี้หลู่เซินจะมีฐานะเป็นประมุขตระกูลหลู่ แต่ประธานฉีได้โปรดวางใจ ฉันจะจัดการสะสางเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และจะต้องมีคำตอบที่ทำให้ประธานฉีพอใจได้อย่างแน่นอน”
ทุกคนในที่นั้นแม้กระทั่งตัวฉีเล่ยเอง ต่างก็ไม่มีใครคิดว่าผู้เฒ่าหลู่จะพูดออกมาเช่นนั้น
ผู้เฒ่าหลู่เป็นใครน่ะหรือ? นอกจากจะเป็นผู้มีอำนาจบารมีอย่างมากของตระกูลหลู่แล้ว เขายังนับเป็นแพทย์แผนจีนระดับต้นๆของประเทศด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน