ตอนที่ 334 ฉีเล่ยก็แค่คนกระจอก
“หวงฝูหัวถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลหวงฝู ในการหวนคืนสู่วงการแพทย์แผนจีน เพราะฉะนั้น ต้องไม่ประเมินความแข็งแกร่งของพวกเขาต่ำเกินไป”
ผู้เฒ่าวังมังกรพยักหน้าพร้อมกับเปรยขึ้นมา
ชายชราอีกคนทำสีหน้าท่าทางครุ่นคิด ก่อนจะถามขึ้นทีเล่นทีจริงว่า “แต่หากเทียบกันแล้ว ฉีเล่ยก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเลย”
ผู้เฒ่าวังมังกรได้แต่นึกแปลกใจ ที่ชายชราดูเหมือนจะล่วงรู้ฝีมือ และความแข็งแกร่งของฉีเล่ยมานานแล้ว จึงได้แต่ทำสีหน้าสงสัย แต่ก็หัวเราะคิกคัก ก่อนจะตอบกลับไปว่า
“มาดูกันว่าฉีเล่ยจะสามารถผ่านรอบนี้ได้หรือไม่ เพราะผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 9 ก็ใช่ว่าจะไม่มีฝีมือ”
“ก็ต้องรอดูกันต่อไป” ชายชราเอ่ยตอบ
ในระหว่างนี้ ก็เริ่มมีผู้เข้าแข่งขันทยอยเดินออกมาจากห้องของตัวเองเรื่อยๆ จนชายชราถึงกับเอ่ยถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“หรือเป็นบททดสอบของคุณง่ายจนเกินไป”
ผู้เฒ่าวังมังกรเอ่ยตอบในทันที
“เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน อาจเป็นเพราะแต่ละคนก็ล้วนต้องการยาอายุวัฒนะ จึงต้องส่งคนที่มีความสามารถ และแข็งแกร่งที่สุดมา”
แต่ชายชรากลับส่ายหน้าไปมา พร้อมกับเปรยๆว่า “อาจจะไม่ใช่แค่เหตุผลนั้นก็ได้ เป้าหมายที่แท้จริงของใครบางคน อาจเป็นการแข่งขันครั้งนี้ต่างหาก”
จากนั้น ชายชราทั้งสองคนก็หันไปมองหน้ากัน
ในระหว่างนั้นเอง ประตูห้องที่ฉีเล่ยเดินเข้าไปก็เปิดออก ผู้เฒ่าวังมังกรและชายชราต่างก็จ้องมองแน่นิ่ง ทั้งคู่ต่างก็ภาวนาขอให้เป็นฉีเล่ยที่เดินออกมา
แต่ผลที่ปรากฏกลับทำให้ชายชราทั้งสองคนผิดหวังอย่างมาก
“ผู้อาวุโส บททดสอบครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยยากอะไรมากมายนัก มันดูไม่ค่อยท้าทายความสามารถสักเท่าไหร่ ด่านต่อไปขอยากกว่านี้หน่อยนะครับ”
เด็กหนุ่มหมายเลข 9 เอ่ยบอกผู้เฒ่าวังมังกร ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แต่ยิ้ม และตอบกลับไปว่า
“นี่เธอคงคิดว่าเธอออกมาเป็นคนแรกสินะ? หวงฝูหัวออกมาก่อนหน้าเธอตั้งสิบนาที”
แต่เมื่อผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 9 ได้ยินชื่อของหวงฝูหัว เขาก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“หวงฝูหัวนี่นะ? น่าขำ! ขนาดคนที่ได้ชื่อว่าหมอเทวดาผมยังไม่กลัวเลย เพราะฉะนั้นหวงฝูหัวไม่ได้อยู่ในสายตาของผมเลยแม้แต่น้อย เอาเป็นว่า รอดูผมเป็นผู้ชนะการแข่งขันครั้งนี้จะดีกว่า”
แต่ผู้เฒ่าวังมังกรกับชายชราก็เพียงแค่ยิ้ม ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ กับคำพูดของเด็กหนุ่มคนนี้อีก
ไม่นานนัก ฮวาโหล่วก็เดินออกมา หลังจากนั้นอีกราวสองสามนาที ชายหนุ่มร่างอ้วนก็เดินตามออกมาเช่นกัน ฮวาโหล่วจึงได้หันไปพูดกระเซ้าเย้าแหย่ พร้อมกับยิ้มให้
“นี่นายสู้ฉันไม่ได้จริงๆเหรอนี่?”
แต่แล้วจู่ๆ หญิงสาวก็ได้ยินผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 9 พูดขึ้นว่า
“ดูท่าชื่อเสียงของฉีเล่ยคงจะจอมปลอม อะไรกัน จนป่านนี้ยังไม่ออกมาอีก กระจอกชะมัด!”
“นี่นายพูดพล่ามอะไร?” ฮวาโหล่วร้องตะโกนถามออกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ฉันก็บอกว่าฉีเล่ยมันกระจอกยังไงล่ะ! หรือเธอจะปฏิเสธ?”
“นายออกมาก่อนก็จริง ว่าแต่เปอร์เซ็นต์การรักษาเท่าไหร่เถอะ?” ฮวาโหล่วย้อนถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์” ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 9 ตอบกลับด้วยสีหน้าท่าทางเย่อหยิ่ง
การแพทย์แผนจีนนั้น เป็นเรื่องยากยิ่งนัก ที่จะสามารถรักษาคนไข้ให้หายร้อยเปอร์เซ็นต์ภายในเวลาเพียงแค่สามเดือน อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีอย่างต่ำครึ่งปี หรือไม่ก็หนึ่งปี เว้นแต่เป็นโรคภัยไข้เจ็บธรรมดาทั่วไป
แต่สำหรับอาการเจ็บป่วยที่พบในการแข่งขันนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถรักษาให้หายได้ถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
ผู้เฒ่าวังมังกรได้แต่พยักหน้า และได้แต่คิดว่า ดูเหมือนเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นคนที่มีคะแนนสูงสุด ประกอบกับสามารถทำเวลาได้เร็วกว่า ดูท่าครั้งนี้ฉีเล่ยคงต้องถูกคัดออกอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ
ในใจของผู้เฒ่าวังมังกรรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะจากการกระทำที่ผ่านมาหลายๆ เรื่องของฉีเล่ย ทำให้เขารู้สึกชื่นชม และเคารพในตัวชายหนุ่มผู้นี้ไม่น้อย และเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องถูกคัดออก เขาก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อย
ส่วนฮวาโหล่วนั้นก็ได้แต่จ้องมองไปที่ประตูห้องทดสอบของฉีเล่ย และได้แต่หวังว่า จะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้น
ทางด้านชายชราอีกคนนั้น กลับดูสงบเยือกเย็นอย่างมาก ใบหน้าของเขายังคงเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เอ่ยบอกกับผู้เฒ่าวังมังกรว่า
ผู้เฒ่าวังมังกรหันไปมองชายชราด้วยสีหน้างุนงงระคนตกใจ พร้อมกับเอ่ยถามว่า “คุณหยาง นี่คุณหมายความว่า…”
“ผลการแข่งขันที่แน่ชัดยังไม่ปรากฏ” ผู้เฒ่าหยางตอบยิ้มๆ
………
“คุณหมอฉีคะ ช่วยด้วยค่ะ! ดูเหมือนจะมีอะไรผิดพลาด ลูกสาวของฉันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน