ตอนที่ 332 การแข่งขันเริ่มขึ้นอีกครั้ง
ฉีเล่ยนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับไปยิ้มให้พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ครับ แล้วผมจะคอยจับตามอง”
หลังเหตุการณ์วุ่นวายมากมายที่เกิดขึ้น ฉีเล่ยกับฮวาโหล่วจึงตั้งใจที่จะกลับไปพักผ่อน แต่เมื่อคิดว่า การอยู่ที่นี่ต่อไปจะปลอดภัยหรือไม่ และยังมีเรื่องที่น่ากังขาอยู่ ฉีเล่ยจึงเปลี่ยนใจที่จะไม่กลับไปห้องพักในตอนนี้ เขาได้พาฮวาโหล่วไปที่สวนใกล้ๆ พร้อมกับบอกหญิงสาวไปว่า
“ผมรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันดูซับซ้อนยังไงพิกล”
นับแต่แต่วินาทีที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในวังมังกรแห่งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะผิดปกติไปหมด
นับตั้งแต่เรื่องการเดิมพันกับหวงเหอตี้ เรื่องความร่วมมือกับหวงฝูหัว เรื่องที่อันจื่อเตาวางยาพิษเขา การตายของจื่อหยาง ซานเทียนเหมาวางยาทุกคน จนกระทั่งเรื่องของหลู่เซิน ทุกเรื่องเกิดขึ้นต่อเนื่องและติดๆอีกกัน มันมีเกิดเรื่องถี่จนดูผิดปกติ
“นี่นายกำลังรู้สึกว่ามีคนยื่นมือเข้ามาสร้างปัญหาจนผิดปกติใช่ไหม?” ฮวาโหล่วเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ถูกต้อง ไม่ใช่แค่เรื่องอันจื่อเตาแห่งสำนักแพทย์ผี แต่ยังมีเรื่องของตระกูลหลู่กับซานเทียนเหมา ผมรู้สึกว่า ผู้เฒ่าวังมังกรน่าจะรู้อะไรมากกว่าที่เห็น แต่ไม่ยอมบอกพวกเรา”
ฮวาโหล่วนิ่งไปครู่หนึ่ง หลังจากฟังฉีเล่ยพูดจนจบ เธอจึงได้พูดขึ้นยิ้มๆ “เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ตอนนี้สิ่งสำคัญคือเรื่องการเตรียมตัวสำหรับแข่งขัน”
ภายในลานกว้างเวลานี้ นอกจากจะไม่หลงเหลือใครแล้ว ยังเงียบสงัดมากอีกด้วย ราวกับว่าที่นี่ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
“อาวุโสหยาง ดูเหมือนจะมีอะไรน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆสินะ”
ไม่รู้ว่าผู้เฒ่าวังมังกรกำลังสนทนาอยู่กับใคร แต่สีหน้าค่อนข้างจริงจังอย่างมาก
“ฉันรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว เดี๋ยวจะตามสืบรายละเอียดของเรื่องทั้งหมดเอง งานสำคัญของคุณในตอนนี้ก็คือ หาคนๆนั้นให้พบ คนที่จะสามารถทำลายทุกอย่างได้”
หลังจากได้ยินเสียงพูดที่ดังมาจากปลายสาย ผู้เฒ่าวังมังกรก็ได้นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับไปว่า “ตระกูลหลู่…”
“ผู้เฒ่าหลู่ค่อนข้างมีอำนาจอิทธิพลอย่างมาก ฐานะของเขาไม่ธรรมดา พวกราคงต้องจับตาดูไปเรื่อยๆ”
“อืมม”
หลังจากนั้น ผู้เฒ่าวังมังกรจึงได้วางสายไป ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ พร้อมกับทำสีหน้าท่าทางครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่
……
สองสามวันที่ผ่านมา ดูเหมือนจะมีคนถอดใจ และถอนตัวออกจากการแข่งขันมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลานี้เหลือผู้เข้าแข่งขันอยู่เพียงแค่ 16 คนเท่านั้น
“เอาล่ะ ถึงจะเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียงแค่สิบหกคน แต่ก็นับว่าเป็นคนที่มีฝีมือทางด้านการแพทย์มาก พวกเราอย่าเสียเวลามากไปกว่านี้เลย มาเริ่มการแข่งขันกันเลยดีกว่า”
ผู้เฒ่าวังมังกรร้องบอกอย่างอารมณ์ดี
“เอาล่ะ ทุกคนต่างก็มีป้ายหมายเลขอยู่ในมือแล้ว ขอให้ทุกคนเข้าไปที่กล่องใบใหญ่ข้างหน้าสุ่มจับคู่แข่งขันของตนเองได้เลย”
ฉีเล่ยกับฮวาโหล่วต่างก็โล่งอก ที่ไม่ได้มาเป็นคู่แข่งขันกัน เพราะหากเป็นเช่นนั้น ฮวาโหล่วมั่นใจว่าเธอต้องไม่ผ่านเข้ารอบต่อไปอย่างแน่นอน
คู่แข่งขันของฉีเล่ยคือแพทย์หนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้าอ่อนหวานน่ารัก แต่แววตากลับแข็งกร้าว และดูไม่เป็นมิตรนัก ซึ่งฉีเล่ยเองก็สามารถสัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้ จึงได้หันไปยิ้มให้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่า อีกฝ่ายจะมองเขากลับมาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยัน
“เอาล่ะ ใครที่จับคู่ได้แล้ว ให้ย้ายไปรอเพื่อเริ่มแข่งขันได้เลย
เสียงของพิธีกรประกาศดงขึ้น เพราะเกรงว่าสถานการณ์ในการแข่งขันจะตึงเครียด
คู่แข่งขันของฮวาโหล่วนั้นเป็นแพทย์หนุ่มร่างอวบอ้วนที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร เขารีบวิ่งเข้ามาหาฮวาโหล่วพร้อมกับร้องบอกด้วยสีหน้าดีอกดีใจ
“พี่ฮวาโหล่ว คิดไม่ถึงว่าผมจะได้มาแข่งกับพี่นะครับเนี่ย?”
ฮวาโหล่วเองก็หัวเราะออกมา พร้อมตอบกลับไปว่า “มาคอยดูกันว่า เราสองคนใครจะเก่งกว่าใคร?”
“ฮ่าๆๆ ใครเก่งกว่าก็ดีทั้งนั้นล่ะครับ!” แพทย์หนุ่มอายุน้อยร่างอ้วนตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ฉีเล่ยเห็นเข้าก็อดที่จะร้องถามออกมาไม่ได้ “นี่พวกคุณสองคนรู้จักกันมาก่อนเหรอ?”
“พวกเราสองคนยิ่งกว่ารู้จักกันซะอีก!”
ฮวาโหล่วเอ่ยตอบ พร้อมกับหันไปยิ้มหวานให้แพทย์หนุ่มร่างอวบ ปากก็ร้องตอบไปว่า
“เขาเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทพ่อฉันเอง อายุน้อยกว่าฉันสี่ห้าปี วิ่งตามก้นฉันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน