ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1134

เวลาผ่านไปทีละนาทีทีละวินาที อู๋เป่ยเพียงแค่นั่งขัดสมาธิ นั่งสมาธิเพื่อฝึกลมหายใจ การรอครั้งนี้รอจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น

ใกล้เที่ยงแล้ว จู่ๆ ชายหนุ่มก็ยิ้มแล้วพูด : “ผลลัพธ์ออกมาแล้ว โชคของคุณน่าจะเกินระดับท้าทายสวรรค์ สำหรับเกินเท่าไหร่นั้น ยังไม่สามารถคำนวณได้ชั่วคราว”

ระหว่างที่พูด เขาถือจานด้วยมือทั้งสองข้าง และบนนั้นมีลูกปัดที่เปล่งแสงเซียนเก้าสีออกมา

ชายหนุ่มพูด : “นี่คือเสื้อเซียนสมบัติทั้งเก้า มันถูกสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์สร้างอาวุธชั้นนำในยุคโลกแห่งเซียนโดยใช้วัสดุล้ำค่าสูงสุด สวมเสื้อเซียนนี้แล้ว ต่อให้เป็นเซียนเทพก็ฆ่าคุณไม่ตาย”

อู๋เป่ยหยิบลูกปัดขึ้นมา ทันใดนั้น แสงเซียนอันเจิดจ้าปกคลุมร่างกายของเขา วินาทีต่อมา บนตัวของเขาก็มีเสื้อเซียนที่หรูหราอย่างมากปรากฏขึ้น มีแสงเซียนเก้าสีส่องลงมาจางๆ

เขารีบเก็บเสื้อเซียนสมบัติทั้งเก้าทันที พูด : “ไปชั้นสิบกันเถอะ”

ช่วงเวลาที่อู๋เป่ยกำลังขึ้นไปชั้นสิบ นอกหอคอยเซียนหวู่ เถี่ยวซวนและคนอื่นๆรอมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว คณบดีหลัวเต้ายี่ก็อยู่เช่นกัน เห็นอู๋เป่ยไม่ออกมา เถี่ยวซวนพูดด้วยรอยยิ้ม : “คณบดี นานขนาดนี้อู๋เป่ยยังไม่ออกมา เป็นเรื่องดีหรือว่าเรื่องร้ายเหรอ”

หลัวเต้ายี่พูดด้วยรอยยิ้ม : “เบื้องบนไปคุยกับเขา พ้นจากสถานะการเป็นที่ปรึกษา เพียงแต่ ถ้าหากเขาสามารถกลายเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จักรพรรดิได้ หรือปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนาน อย่างนั้นเบื้องบนจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน”

เหลิงหยิน : “คนเบื้องบนเหล่านั้นจริงๆเลยนะ คิดว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้รังแกง่ายเหรอ ฮ่าฮ่า ถ้าหากฉันเป็นอู๋เป่ย ก็ไม่อยากสนใจพวกเขาหรอก!”

สีหน้าของหยางจงฟ่าแย่อย่างมาก ตอนที่เขาทดสอบ ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้น ทำไมคนผู้นี้ถึงใช้เวลานานขนาดนี้ หรือว่าเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จักรพรรดิจริงๆ กระทั่งปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนานเหรอ

ชั้นที่สิบ เส้นด้ายนับไม่ถ้วนห้อยลงมา แทงเข้าไปในหัวของอู๋เป่ย เริ่มทดสอบสายเลือดของเขา

ครั้งนี้เร็วอย่างมาก ไม่ถึงสิบนาที ชายหนุ่มพูด : “ยินดีด้วย คุณมีสายเลือดระดับเต๋า! สายเลือดระดับเต๋า เป็นสายเลือดที่สูงที่สุด”

อู๋เป่ย : “หมายความว่า การทดสอบเสร็จแล้วเหรอ”

ชายหนุ่ม : “หลังจากการประเมินที่ครอบคลุม คุณได้รับการจัดอันดับให้เป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ผู้สูงศักดิ์!”

ระหว่างที่พูด เขามอบตราสถานะให้กับอู๋เป่ยหนึ่งอัน

อู๋เป่ยพูด : “มีตราสถานะของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จักรพรรดิและปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนานไหม ให้ผมอย่างละอัน”

แน่นอน ชายหนุ่มตอบตกลง จากนั้นมอบตราสถานะของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จักรพรรดิให้เขาหนึ่งอัน

อู๋เป่ย : “ชื่อของผม ถ้าหากเขียนไว้บนยอดหอคอยเซียนหวู่ ก็บอกไปเลยว่าผมเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนาน”

ชายหนุ่ม : “ได้”

พูดเสร็จ เขาเอากล่องหยกหนึ่งใบ มอบให้อู๋เป่ย

กล่องหยก เป็นลูกปัดสีทองลูกหนึ่ง มองเห็นมัน อู๋เป่ยอึ้งไปเลย รู้สึกว่าภายในลูกปัดทองคำ มีจิตวิญญาณที่ทรงพลังอย่างมากอยู่ข้างใน

ชายหนุ่มพูด : “นี่คือลูกปัดวิญญาณดวงดาว มีวิญญาณดวงดาวถูกผนึกไว้ข้างใน ดาวเนบิวลาสำหรับผู้ฝึกฝนแล้ว เป็นสมบัติอันล้ำค่าที่ประเมินมิได้”

แน่นอนว่าอู๋เป่ยรู้ดีว่าเนบิวลามีค่าแค่ไหน ตอนที่รวบรวมจิตวิญญาณ ถ้าหากได้รับพลังแห่งวิญญาณดวงดาว ก็สามารถทำให้จิตวิญญาณไปถึงระดับสูงสุดได้

เก็บวิญญาณดวงดาว อู๋เป่ยถาม : “ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ผู้สูงศักดิ์ ต้องการเข้าไปในสามชั้นสุดท้ายหรือไม่”

ชายหนุ่ม : “สามชั้นสุดท้ายคือการทดสอบขั้นสูงสุด มีข้อกำหนดสำหรับระดับการฝึกฝน หลังจากคุณกลายเป็นเซียนกษัตริย์ขั้นประตูมังกร เมื่อนั้นคุณก็สามารถมาที่นี่เพื่อทำการทดสอบขั้นสูงสุดได้”

อู๋เป่ยพยักหน้า : “ก็ดีเหมือนกัน”

ออกมาจากหอคอยเซียนหวู่ อู๋เป่ยพบว่าข้างนอกมีคนเยอะอย่างมากกำลังรอตัวเอง รวมทั้งหลัวเต้ายี่ เถี่ยวซวนและคนอื่นๆ

เห็นเขาออกมา หลัวเต้ายี่ถาม : “เป็นยังไง”

อู๋เป่ยหยิบตราสถานะของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนานออกมาให้ทุกคนดู มองเห็นตราสถานะนี้ หลัวเต้ายี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พูดด้วยรอยยิ้ม : “ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนาน! ดีมาก”

ร่างกายของหยางจงฟ่าดูเหมือนจะสูญเสียแรงผลักดันทั้งหมดทันที เขาเข้าไปในหอคอยเซียนหวู่สามครั้ง เป็นได้แค่ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จักรพรรดิ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เข้าไปแค่สองครั้งก็กลายเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนาน สิ่งนี้ทำให้เขารับไม่ได้!

อู๋เป่ย : “ขอบคุณสำหรับความรักของทุกท่าน ผมเหนื่อยมาก ต้องการไปพักผ่อน”

เย่ชิงหวู่พูด : “ตระกูลเว่ยมีเซียนกษัตริย์คนหนึ่งนั่งอยู่ ยังมีอาวุธวิเศษที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ นอกจากนี้ ตระกูลเว่ยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโลกแห่งเซียน เขาเป็นตัวแทนของนิกายชั้นหนึ่งในคุนหลุน”

อู๋เป่ย : “ฉันจำได้ว่าเธอเคยพูดว่า ดินแดนเทพโอสถยังมีพื้นที่ต้องห้ามมากมายไม่ใช่เหรอ”

เย่ชิงหวู่พยักหน้า : “ไม่ผิด มีพื้นที่ต้องห้ามสามแห่งสำหรับดินแดนเทพโอสถแห่งชีวิต แม้ว่าจะมียาอันล้ำค่าและยาศักดิ์สิทธิ์มากมายอยู่ในนั้น แต่คนที่มีชีวิตยากที่จะเข้าใกล้ ผู้ที่เข้าไปตายสถานเดียว”

อู๋เป่ยพยักหน้า : “ผมกำลังจะไปดินแดนเทพโอสถหนึ่งรอบพอดี พร้อมกับไปช่วยเธอแก้ปัญหาด้วย”

เย่ชิงหวู่ดีใจอย่างมาก : “ขอบคุณอาจารย์อู๋!”

อู๋เป่ย : “ไม่ต้องเกรงใจแล้ว ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นนักเรียนที่ฉันแนะนำเข้ามา เตรียมตัวสักหน่อย พวกเราออกเดินทางคืนนี้เลย”

เหตุผลที่ต้องไปดินแดนเทพโอสถ เพราะหลังจากพลังวิญญาณฟื้นคืนชีพแล้ว จะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ถึงเวลาค่อยไปเก็บยา มันก็จะไม่ค่อยสะดวกเหมือนตอนนี้แล้ว

หลังจากครึ่งชั่วโมง อู๋เป่ยพาเย่ชิงหวู่มาถึงดินแดนแห่งเซียน หลังจากนั้นใช้ดินแดนแห่งเซียนเป็นกระดานกระโดด เดินทางไปดินแดนเทพโอสถ

ดินแดนเทพโอสถ ความหมายตามชื่อเลย มีสมุนไพรมากมายเติบโตที่นี่ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมียามากแค่ไหนก็ถูกขุดออกมาจนหมด ทรัพยากรก็หมดลง ถูกแทนที่ด้วย สวนสมุนไพรที่มีคนปลูกไว้เป็นจำนวนมาก สวนสมุนไพรเหล่านี้ ส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยกองกำลังทั้งเล็กและใหญ่ของคุนหลุน

กระทั่ง กระทั่งแม้แต่พรรคฉู่ซานจิ้นก็มีสวนยาของตัวเอง และมีคนมาดูแลโดยเฉพาะ

เข้าไปในดินแดนเทพโอสถ เย่ชิงหวู่รีบติดต่อคนในครอบครัวทันที ในไม่ช้า เธอก็พาอู๋เป่ยไปหาคนในครอบครัว

ภูเขาแห้งแล้งแห่งหนึ่ง มีคนเดินออกมากลุ่มหนึ่งจากข้างในถ้ำสกปรกที่เต็มไปด้วยกลิ่นของสัตว์ดุร้าย มีทั้งคนแก่และเด็กน้อย มีชายมีหญิง อย่างน้อยๆมีคนหลายสิบคน

คนเหล่านี้มองเห็นเย่ชิงหวู่ ต่างร้องไห้ออกมา ผู้หญิงคนหนึ่งกอดเย่ชิงหวู่ : “ชิงหวู่ พ่อของเธอถูกตระกูลเว่ยฆ่าตายแล้ว ฮือฮือ.....”

เย่ชิงหวู่เศร้าและร้องไห้เพราะสิ่งนี้ พูด : “คุณแม่ ฉันเชิญที่ปรึกษาของฉันมาแล้ว เขาร้ายกาจอย่างมาก ช่วยพวกเราได้แน่นอน”

คนของตระกูลเย่ คุกเข่าให้อู๋เป่ยทีละคน