ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1265

สรุปบท บทที่ 1265 ห้องโถงใหญ่จี๋อู่: ยอดคุณหมอตาวิเศษ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1265 ห้องโถงใหญ่จี๋อู่ – ยอดคุณหมอตาวิเศษ โดย เสี่ยวเยา

บท บทที่ 1265 ห้องโถงใหญ่จี๋อู่ ของ ยอดคุณหมอตาวิเศษ ในหมวดนิยายความสามารถแปลก เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี่ยวเยา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

อู๋เป่ยมอบพลังที่ไร้ขีดจำกัดให้กับถังจื่ออี๋ แต่เธอไม่สามารถรับพลังได้ทั้งหมด โชคดีที่เขาสามารถหยุดพลังนี้ได้ทัน ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาพลังนี้ก็ค่อย ๆ ปรับให้เข้ากับร่างกายของเธอ

เมื่อการปรับตัวของถังจื่ออี๋เริ่มดีขึ้น อู๋เป่ยก็รู้สึกวางใจ

เขาได้รับพลังนี้และฝึกตนให้มีความแข็งแกร่งขึ้นและเปิดวังศิลปะการต่อสู้แห่งแรกด้วยตัวเอง

หอศิลปะการต่อสู้แห่งแรกหรือที่เรียกกันว่า ห้องโถงใหญ่จี๋อู่ ก่อนหน้านี้เคยมีคนคิดที่จะริเริ่มเปิดหอศิลปะการต่อสู้นี้ แต่ด้วยความที่มีพลัง ความสารถไม่มากพอ ทำให้การเปิดหอศิลปะการต่อสู้ชะงักลง

ต่อมาห้องโถงใหญ่จี๋อู่ อยู่ในมือของเขา ทำให้สภาพแวดล้อมในวังเปลี่ยนไปและเขาก็ได้เดินเข้ามายังพระราชวังขนาดใหญ่แห่งนี้

ด้านหน้าทางเดินได้มีแสงแห่งความศักดิ์สิทธิ์สาดส่องลงมาที่ตัวเขา หลังจากนั้นไม่ประตูก็เปิดดัง “ปัง”

ฝาผนังบนกำแพงในห้องโถงใหญ่จี๋อู่มีเทคนิคด้านพลังงาน ศิลปะการต่อสู้มากมายที่แขวนอยู่ เช่นเดียวกับยาอายุวัฒนะ ยาประเภทอื่น ๆ รวมไปถึงแนวคิดเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้

สิ่งเหล่านี้ต้องทำตามลำดับขั้นตอน มีเพียงแค่ทำลายสิ่งที่อยู่ด้านหน้าถึงจะสามารถไปต่อได้

ในเวลานี้ จู่ ๆ ก็มีชายวัยกลางคนปรากฏตัวออกมา: “ยินดีต้องรับเข้าสู่ห้องโถงใหญ่จี๋อู่”

อู๋เป่ย: “ที่นี้มีบทสอบกี่ข้อที่ต้องทดสอบล่ะ”

ชายวัยกลางคน: “ที่จริงแล้วที่นี่มีเพียงทักษะเดียวเท่านั้น นั่นคือทักษะจี๋อู๋เจวี๋ย จี๋อู่เจวี๋ยถือเป็นทักษะที่สุดยอดที่สุดบนโลกใบนี้”

“แค่ทักษะเดียวเองหรอ ทุกทักษะเป็นส่นหนึ่งของจี๋อู่เจวี๋ยหมดเลยหรอ”

ชายวัยกลางคน: “พลังวิชาจากสวรรค์นั้นยากที่จะฝึกฝน ดังนั้นจึงมีการสร้างห้องโถงจี๋อู่ขึ้นมาเพื่อได้ให้มีการฝึกฝน โดยมีแบบฝึกหัดทั้งหมด 17 ชุด และศิลปะการต่อสู้ 7 ชุด ผู้ฝึกหักจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดทีละขั้นตอนถึงจะสามารถผ่านด่านไปถึงทักษะพลังจี๋อู่เจวี๋ย เมื่อการฝึกฝนได้ถึงขั้นนั้นแล้วเจ้าก็จะรู้สึกว่าศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงสุดไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป”

อู๋เป่ยพยักหน้าตอบ: “ไม่ทราบว่า ผู้ฝึกครั้งก่อนที่เคยมาสามารถทำผ่านด่านฝึกนี้ไปกี่ชุด”

ชายกลางคน: “ชายก่อนหน้าเจ้านั้นสามารถผ่านแบบฝึกหัดทั้งหมด 7 ชุด และศิลปะการต่อสู้อีกเพียง 2 ชุดเท่านั้น”

เมื่ออู๋เป่ยมาถึงเทคนิคแรก เทคนิคการลอยตัว เทคนิคนี้ถือเป็นขั้นตอนการสร้างรากฐานของศิลปะการต่อสู้ทั้งหมด มีชื่อขนานนามว่า ทักษะการปรับเลือด

ทักษะการปรับเลือดนั้นเป็นทักษะของการปรับเลือดร่างกาย การฝึกนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขา เพราะเขาเคยผ่านด่านเกี่ยวกับโลกบนโลกมนุษย์นี้มาแล้ว

ชายวัยกลางคน: “ทักษะการปรับเลือดมีทั้งหมด 5 ระดับ หากเจ้าฝึกมาถึงขั้นตอนที่ 3 แล้ว เจ้าสามารถใช้ยาที่อยู่ด้านหลัง เพื่อช่วยให้เจ้าทะลุผ่านถึงระดับ 5 โดยเร็ว”

อู๋เป่ยพยักหน้า การฝึกฝนนี้ไม่สามารถทำได้ภายในวันหรือสองวัน ดังนั้นเขาจึงต้องออกจากห้องโถงใหญ่จี๋อู่ก่อน

ทันที่ทีคนของเขาปรากฏตัวตัวขึ้น เขาก็ได้รับข่าวจากโหวเจิ้นคุน ผู้นำกลุ่มขอทานหยุนจิงว่ามีข่าวเกี่ยวกับหม้อปีศาจ

เขาจึงรีบเดินทางไปหยุนจิงเพื่อพบกับโหวเจิ้นคุน

“ท่านชายขอรับ เมื่อกี้สายของข้าได้รายงานว่ามีชาวบ้านได้ขุดหลุมเพื่อนำหม้อออกมา แต่จู่ ๆ ก็มีคนแย่งไป”

อู๋เป่ยรีบถามกลับ: “ใครกล้าแย่งไปกัน”

โหวเจิ้นคุน: “ผู้แซ่อู๋ จากตระกูลที่โด่งดังมากในช่วงนี้”

อู๋เป่ยถามกลับว่า: “ชื่ออะไร”

ชื่อ “อู๋เจิ้นจง” โหวเจิ้นคุนกล่าว “คนผู้นี้เก่งกาจมากกับเรื่องที่เขาต้องการทำให้สำเร็จ เมื่อตอนที่เขาต้องการหม้อใบนั้น เขาได้ทุบชาวบ้านจนเสียชีวิต ที่จริงแล้วครอบครัวนั้นไม่ได้ต้องการเงินมากมาย เขาต้องการเพียงไม่กี่พันเหรียญมังกรเท่านั้นเอง”

อู๋เป่ยคิดทบทวนอยู่สักครู่ และพูดกลับไปว่า: “อืม เจ้าทำงานได้ดีมาก กลับไปข้าจะมอบรางวัลให้แก่เจ้า”

หลังจากที่อู๋เป่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปที่จวนสกุลอู๋ สกุลอู๋ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก เป็นไปที่ไม่ได้ที่เขาจะนำหม้อปีศาจไปซ่อน สิ่งที่ตอนนี้พวกเขาทำได้มากที่สุดคือส่งมอบหม้อปีศาจมาให้ ไม่อย่างนั้นชีวิตของพวกเขาต้องจบลงอย่างแน่นอน

เมื่อถามผู้คนรอบ ๆ แล้ว เขาก็ได้ข่าวว่าบ้านหลังใหม่ของสกุลอู๋ เป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ เจ้าของเดิมถูกคนในสกุลอู๋ทุบตีจนตายและเข้ายึดครองบ้านหลังนี้

อู๋เป่ยใช้เท้าแนบไปที่อกของเขา: “ลุกขึ้นมาพูดสิ”

อู๋เป่ยใช้เท้าเตะไปที่อู๋คังคังจนเขาแทบจะร้องไห้ออกมา เขาลุกขึ้นมาด้วยความโกรธพร้อมพูดกับอู๋เป่ยว่า: “เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะตีข้า”

อู๋เป่ย: “พาข้าไปเจอพ่อเจ้า ไม่อย่าวนั้นข้าจะเอาเรื่องเจ้าให้ถึงที่สุด ถึงเวลานั้นเจ้าก็ไม่มีเวลาที่จะร้องไห้แล้ว”

อู๋คังคังพูดอย่างเย็นช้า: “อู๋เป่ย เจ้าคิดจะให้พ่อข้าฝึกฝนวิชาให้เจ้าล่ะสิ เจ้าฝันไปเถอะ พ่อข้าไม่ช่วยเจ้าแน่นอน!”

จู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่งผ่านเข้ามา ภายในรถมีชายชราและหญิงชราคู่หนึ่ง ซึ่งนั่นคือ อู๋เหลียนเซิ่งและภรรยาของเขา

รองเท้าที่หญิงชราสวมใส่นั้น แท้จริงแล้วถูกปกคลุมไปด้วยกระดาษสีทองแวววาว คอของเธอประดับด้วยสร้อยคอทองคำ นิ้วมือก็ประดับแหวนเพชร บนติ่งหูของเขาก็ประดับด้วยตุ้มหูเล็ก ๆ ราวกับว่าเธอกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้ดีมีเงิน

ภรรยาของอู๋เหลียนเซิ่งเหลือบมองไปเห็นอู๋เซิ่ง เธอพูดกับอู๋เป่ยด้วยความโกรธ: “อู๋เป่ย ไอ้สารเลวเจ้ากล้ามาที่นี่ได้อย่างไร ไสหัวออกไปจากบ้านข้าเดี๋ยวนี้!”

เมื่อเห็นท่าทีของภรรยาอู๋เหลียนเซิ่งแล้ว อู๋เป่ยพูดกลับไปว่า: “ข้ามาที่นี้เพื่อต้องารจะบอกพวกเจ้าว่า สกุลอู๋กำลังจะถูกทำลาย รีบให้ข้าพบกับอู๋เจิ้นจงเดี๋ยวนี้”

“ไอ้สารเลว! เจ้ากล้าเรียกว่าอู๋เจิ้นจงหรอ พ่อของเจ้าไม่ลูกของข้า พ่อเจ้ามันก็แค่ลูกที่เก็บมาเลี้ยงเท่านั้น” อู๋เหลียนเซิ่งพูดด้วยความโกรธ

อู๋เป่ยหรี่ตาลง: “อู๋เหลียนเซิ่ง ตอนนั้นชายคนนั้นให้เงินเจ้าสามแสนหยวน เจ้าถึงเลี้ยงพ่อข้าไม่ใช่หรอ”

แท้จริงแล้ว เขาส่งคนให้มาดูสถานการณ์พ่อ ในเวลาต่อมาพ่อของเขาก็ถูกส่งไปที่บ้านสกุลอู๋ให้ดูแล และมอบเงินให้อีกสามแสนหยวน คนในสกุลอู๋นำเงินที่ได้มาไปซื้อบ้าน และขายในภายหลังเพื่อให้ได้ผลตอบแทนราคาที่ดี

ตั้งแต่เด็กจนโตหลี่เนี้ยนจู่แทบไม่เคยได้รับการดูแลจากเขา เขาจึงปฏิบัติตนไม่ดีต่ออู๋เหลียนเซิ่ง

อู๋เหลียนเซิ่งสีหน้าเปลี่ยนทันทีที่รู้เรื่องนี้: “ไอ้สารเลว! เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”

อู๋เป่ย: “อู๋เหลียนเซิ่ง เห็นแก่พ่อของข้า ข้ามาที่นี่เพื่อเตือนเจ้า หากพวกคุณไม่ฟังก็ช่างมันซะ!”

เขาหันหลังและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ภรรยาของอู๋เหลียนเซิ่งถ่มน้ำลายรดลงพื้น: “ถุ้ย! เห็นว่าครอบครัวของพวกเรามีเงินก็คิดจะมาเกาะกิน ฝันไปเถอะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ