ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 157

รถของอีกฝ่ายขับเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่ง อู๋เป่ยบอกให้คนขับรถขับตามไป หลังจากจ่ายเงินเป็นอันเรียบร้อย เขาก็แอบตามไป

มองจากระยะไกล อู๋เป่ยเห็นเฉินหย่งเจิ้นขึ้นลิฟท์ เขาจึงขึ้นบันไดตามขึ้นไป ขณะเดียวกันเขาก็เปิดตาวิเศษของเขาเพื่อดูตำแหน่งของเฉินหย่งเจิ้น

เขาเห็นเฉินหย่งเจิ้นขึ้นไปชั้นบน เดินเข้าไปในห้อง 8606 เขาจดจำเลขห้องเอาไว้ เขาจึงกลับมาที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งและเปิดห้อง และห้องที่เขาเปิดก็คือห้อง 8605 ซึ่งอยู่ข้างกัน

หลังจากเช็คอินเสร็จเขาก็กลับขึ้นมาด้านบน เปิดประตูห้อง เริ่มจับตาดูการเคลื่อนไหวของเฉินหย่งเจิ้น เมื่อมองผ่านกำแพงกันเสียง เขาเห็นเฉินหย่งเจิ้นนั่งอยู่บนโซฟา ตรงข้ามของเขามีชายชราผมและเคราสีขาวนั่งอยู่คนหนึ่ง ชราจนไม่อาจชราไปมากกว่านี้ได้แล้ว ดูเหมือนว่าอายุขัยของเขาพร้อมที่จะหมดลงได้ทุกเวลา

ในตอนที่ทั้งสองพูดคุยกัน อู๋เป่ยสังเกตการณ์เคลื่อนไหวจากปากของพวกเขา จึงพอคาดเดาได้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร

เฉินหย่งเจิ้นกล่าวออกมาว่า “ศิษย์พี่ ความแข็งแกร่งของท่านตงฟ๋อนั้นเหนือกว่าพวกเราทั้งสอง หากทำอย่างบุ่มบ่ามมันจะไม่เป็นผลดีต่อพวกเราทั้งสอง ฉันเพิ่งจะได้ครอบครองร่างนี้มา ทำให้ยังมีขีดจำกัดในเรื่องของพลังอยู่ ส่วนศิษย์พี่เองก็อายุมากแล้ว อีกอย่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่านตงฟ๋อ”

ชายชราผู้นั้นกล่าวว่า “ศิษย์น้อง นายกับฉันล้วนไม่ใช่เง็กเซียน หากยังในใช้วิชายึดร่างต่อไป มีแต่ทำให้ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ต้องเสียหาย ตอนนี้เราต้องการการบำรุงทางจิตวิญญาณอย่างเร่งด่วน ในพื้นที่ของอ่าวไป๋หลง มันเก็บซ่อนพลังปราณมังกรม่วง สิ่งนี้คือสมบัติล้ำค่า หากได้มันมาครอบครอง ไม่แน่ว่านายกับฉันอาจจะมีโอกาสก้าวขึ้นไปถึงขั้นเง็กเซียน”

“หากกลายเป็นเง็กเซียน นายกับฉันก็จะได้อายุมาครอบครองอีกร้อยปี หรืออาจจะมากเป็นสองถึงสามร้อยปีด้วยซ้ำ” ชายชราพูดออกมา “ดังนั้นศิษย์น้อง ครั้งนี้ต่อให้ท่านตงฟ๋อเข้ามาขวางทาง พวกเราก็ต้องเอามันมาให้จงได้”

เฉินหย่งเจิ้นพยักหน้า “ศิษย์พี่พูดถูก นั่นเป็นสิ่งที่ฉันต้องนำมาจากเจ้าเด็กที่ชื่ออู๋เป่ย ส่วนท่านตงฟ๋อ เป็นไปได้ยากที่เขาจะมาต่อสู้กับพวกเราโดยตรง ผู้ที่คิดและวางแผนไว้ล่วงหน้าย่อมมีสิทธิ์ชนะมากกว่า คราวนี้พวกเรามีโอกาสชนะสูง”

ชายชรากล่าวออกมา “ศิษย์น้อง ดวงวิญญาณของนายไม่มั่นคง สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือสายฟ้า ช่วงนี้ฝนตกฟ้าคะนอง ฉันคิดว่านายอย่าออกไปข้างนอกเลยดีกว่า เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง”

เฉินหย่งเจิ้นพยักหน้า “ตกลง เช่นนั้นก็ต้องขอรบกวนศิษย์พี่ด้วย”

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ใบหน้าของอู๋เป่ยเปลี่ยนไปอย่างมาก ที่แท้ทั้งสองคนก็เล็งพลังปราณมังกรม่วงไว้ตั้งแต่แรก แต่พวกเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

ในตอนนั้น เขาเห็นชายชราคนดังกล่าวออกมาจากประตู เดินผ่านหน้าห้องของเขา ในตอนที่ชายชราเดินผ่านหน้าห้อง จู่ ๆ ชายชราก็หยุดฝีเท้าของเขาลง หันกลับมา จ้องมองมาด้วยใบหน้าอันว่างเปล่า

ราวกับว่า สายตาของเขาสามารถมองทะลุผ่านประตูห้องได้ และมองเห็นอู๋เป่ยที่อยู่ในห้อง!

หัวใจของอู๋เป่ยเต้นแรง เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขาสั่นไหว เคลื่อนที่มาอยู่ข้างหน้าต่าง นอกหน้าต่างคือลาดจอดรถ หากอีกฝ่ายเข้ามา เขาจะหนีออกไปทันที!

ตึกสูงแค่นี้สำหรับยอดฝีมืออย่างพวกเขา มันไม่เป็นอันตรายเลยแม้แต่น้อย

เขาจ้องมองชายชราที่อยู่หน้าประตู เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้รับปราชญ์แห่งเทพ ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกเปิดเผยไปตั้งนานแล้ว

ชายชราหยุดอยู่สองสามวินาที จากนั้นก็ก้าวเดินต่อไป จนกระทั่งถึงหน้าลิฟท์ รอให้อีกฝ่ายลงลิฟท์ไป อู๋เป่ยถึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก อีกฝ่ายน่าจะยังสัมผัสถึงตัวเขาไม่ได้

“เรื่องนี้จำเป็นต้องนำไปบอกท่านอาจารย์” เขาพูดในใจ หลังจากนั้นก็เดินออกมาด้านนอกพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาหยางมู่ไป๋

ทางเดินด้านนอกไม่มีใคร เขาตั้งใจเดินผ่านหน้าห้องของเฉินหย่งเจิ้น พบว่าเฉินหย่งเจิ้นกำลังนั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว เขายังสังเกตเห็นอีกว่า ดวงวิญญาณสองดวงในหัวใจของเฉินหย่งเจิ้นกำลังต่อสู้กัน แม้ว่าดวงวิญญาณที่ถูกข่มเหงจะอ่อนแอกว่า แต่มันก็หนาแน่นเป็นอย่างมาก เวลานี้มันกำลังโต้กลับด้วยกำลังทั้งหมดที่มี

หัวใจของอู๋เป่ยเต้นแรง นี่ถือเป็นโอกาสดีของเขา! ลงมือ หรือไม่ลงมือดี?

เขารู้ว่าโอกาสเช่นนี้มีไม่มาก เขาจึงกัดฟันและวางสายโทรศัพท์ เปิดประตูห้องเข้าไป เมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของเฉินหย่งเจิ้นทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ