ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1655

นี่คือพลังผนึกสังหารขั้นที่หนึ่ง！

สีหน้าอู๋เป่ยดูน่าเสียดาย และพูดว่า ：“เนื้ออินทรีเน่าแล้ว กินไม่ได้แล้ว”

ผู้บำเพ็ญจากชนเผ่าอื่นๆต่างก็เห็นเหตุการณ์นี้ ต่างก็รีบมาเล่าสู่กันฟัง และเฉลิมฉลองกัน มีบางคนใจกล้าเหาะไปคุกเข่าลงต่อหน้าอู๋เป่ย

อู๋เป่ยพูดเสียงดัง ：“ขณะนี้ราชาอินทรีคิ้วแดง ได้ถูกข้าจักรพรรดิมนุษย์สังหารแล้ว！”

เสียงของเขา ดังสะเทือนในดินแดนรกร้างตอนใต้ สร้างความตกใจให้กับสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน

มีเสนาบดีกล่าวว่า ：“อำนาจของฝ่าบาทแผ่กระจายไปทั่วโลก ประชากรใต้หล้าต่างต้องการสักการะ ตอนนี้ ฝ่าบาทได้สังหารสัตว์ประหลาด ช่วยประชาชนให้รอดจากภัยพิบัติ คิดว่า ชนเผ่าหลักทั้งหลายที่รู้ข่าว ก็คงจะส่งคนมาเข้าเฝ้าฝ่าบาท”

อู๋เป่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า ：“ถ้าอย่างนั้นเราก็หยุดสักสองสามวันเถอะ ข้าจะได้ถือโอกาสนี้ถามว่าพวกเขาคิดเห็นอย่างไร ยินดีจะเข้าร่วมกับประเทศเทียนหวู่ของเราหรือไม่?”

หลังจากนั้น อู๋เป่ยก็ปล่อยให้เรือรบลอยอยู่เหนืออิงหยวน ค่อยๆลงจอดอย่างช้าๆ

ไม่นานนัก ผู้นำของชนเผ่าหลักก็พาชนเผ่าของตนเองและรีบเดินทางไปที่อิงหยวน ต้องการเข้าเฝ้าจักรพรรดิมนุษย์ เพื่อแสดงความขอบคุณและความเคารพอย่างสูงสุดต่อพระองค์！

หลังจากที่เรือรบลงจอดแล้ว องครักษ์และเสนาบดีก็ทยอยลงจากเรือรบ และตั้งค่ายอยู่บริเวณใกล้เคียง

อู๋เป่ยมาที่รังของอินทรีเพียงลำพัง ก่อนหน้านั้นเขาสังเกตเห็นว่ารังของอินทรีมีบางอย่างผิดปกติ เมื่อมาถึง เขาก็พบเบาะแสจริงๆ ใต้รังอินทรี มีเส้นลมปราณจิตวิญญาณขนาดใหญ่ซ่อนอยู่

ทั่วแผ่นดินคุนหลุน มีเส้นลมปราณจิตวิญญาณเช่นนี้ไม่เกินห้าเส้น และยากที่จะพบเจอ เช่น เทียนเต้าเหมิน ก็ถูกสร้างขึ้นบนเส้นลมปราณจิตวิญญาณขนาดใหญ่

อู๋เป่ยสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบ จากนั้นก็เรียกทุกคนมา ยิ้มและพูดว่า ：“ฮวงจุ้ยของที่นี่ยอดเยี่ยมมาก ข้าต้องการสร้างสถาบันเทียนหวู่ที่นี่”

ประเทศเทียนหวู่ สถาบันประจำเขต วิทยาลัยประจำจังหวัด ได้รับการจัดตั้งขึ้นทีละแห่ง แต่สถาบันการศึกษาที่สูงที่สุดยังไม่ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ เขาพบว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา ดังนั้นเขาจึงต้องการสร้างสถาบันเทียนหวู่ที่นี่

เหล่าเสนาบดีต่างก็เห็นด้วย แต่มีบางคนรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างกันดาร และห่างไกลจากใจกลางของประเทศเทียนหวู่ แต่ท้ายที่สุดอู๋เป่ยก็ตัดสินใจ และสร้างสถาบันเทียนหวู่ที่นี่

ต่อมา เขาได้ใช้วิธีการของผู้ศักดิ์สิทธิ์ เคลื่อนย้ายภูเขาและทะเลสาบ เปลี่ยนเส้นทางน้ำ สร้างค่ายขนาดใหญ่ ปรับผืนดิน ชั่วขณะเดียว ลมและเมฆเปลี่ยนสี ภูเขาและแม่น้ำสั่นสะเทือน เทือกเขาทั้งลูกถูกปกคลุมไปด้วยปราณเซียนแห่งความโกลาหล วิธีการของอู๋เป๋ยในปัจจุบัน คล้ายคลึงกับวิธีที่เพียวเมี่ยวเต้าจวินสร้างตำหนักดาบคุนหลุนอย่างมาก

ครึ่งวันต่อมา ปราณเซียนสลายไป สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณ ต่อมา เขาสั่งให้หลู่อวี้สร้างสถาบันเทียนหวู่ที่นี่

เมื่อกลับมาบนเรือรบ มีผู้นำชนเผ่าหลายคนกำลังรอเข้าพบเขา อู๋เป่ยสั่งให้ผู้คนจัดงานเลี้ยง เพื่อต้อนรับเหล่าผู้นำชนเผ่าที่มาสักการะเขา

อู๋เป่ยหรี่ตาเล็กน้อย เขาพบว่ามีสัตว์ประหลาดทะเลจำนวนมากอยู่ในพายุ พวกมันซ่อนตัวอยู่ในพายุ และใช้ประโยชน์จากพายุเพื่อขึ้นฝั่ง

บนผิวน้ำมีคลื่นลูกใหญ่ ปู กุ้ง ปลากินเนื้อขนาดใหญ่ และแม้แต่หอยทะเลก็ทยอยกันเกยตื้น และคร่าชีวิตผู้คนที่พบเจอ

อู๋เป่ยโกรธมาก และพูดเสียงดัง ：“ถอย！”

ด้วยคำสั่ง พายุก็สงบลงทันที คลื่นทะเลก็ลดลง เหล่าสัตว์ประหลาดทะเลที่ใช้ประโยชน์จากพายุเพื่อขึ้นฝั่งก็ทะยอยร่วงลงบนพื้น พวกมันต่างก็ตกตะลึง

กุ้งตัวหนึ่งเงยหน้าขึ้นมองอู๋เป่ยที่อยู่กลางอากาศ รังสีของจักรพรรดิมนุษย์ทำให้มันตกใจ และพยายามวิ่งหนีไปที่ทะเล

อู๋เป่ยพูดเสียงดัง ：“มีอาหารทะเลมากมาย พวกเจ้ายืนอึ้งอยู่ทำไม จับพวกมันให้ข้า！”

ทันใดนั้น องครักษ์ทั้งแปดก็ลงมือ แม้แต่เสนาบดีก็อดใจไม่ไหวในการจับอาหารทะเล พวกเขาหัวเราะและวิ่งไล่สัตว์ทะเลจำนวนนับไม่ถ้วนบนชายหาด

เขอเอ่อร์และติงเอ่อร์ก็รีบวิ่งไล่เช่นกัน แม้ว่าพวกเขายังเด็ก แต่พวกเขาก็มีแรงเยอะ อีกอย่างก็มีฉยงฉีมังกรเหลืองน้อยคอยคุ้มครองอยู่ด้วย

ในไม่ช้า เหล่าสัตว์ประหลาดทะเลที่เดิมทีอยากขึ้นฝั่ง ต่างก็กลายเป็นอาหารทะเล หลังจากถูกจับได้ พวกมันก็ถูกนำไปไว้บนดาดฟ้าเรือรบ