จุยเตี้ยน ขมวดคิ้ว "หนุ่มน้อย อย่าเอาแต่ใจไป ในโลกนี้หากเอาแต่ใจ สุดท้ายคนที่เสียเปรียบคือตัวเราเอง"
อู๋เป่ยจ้องมองเขา แล้วพูดอย่างใจเย็น "นี่ไม่ใช่ความเอาแต่ใจ นี้คือความมั่นใจ ต่อให้พวกเขาปรับความยากสูงสุด ฉันก็จะยังผ่านได้เหมือนเคย"
จุยเตี้ยน "การทดสอบต่อไป รวมไปถึงการประชุมผู้มาใหม่ พวกนี้ก็ต้องใช้เงินในการเปิดทาง นายก็จะยังแข็งข้อเหรอ?"
"ไม่ได้เหรอ?" เขาถามกลับ "ข้าว่า ต่อให้สำนักห้าจักรพรรดิจะแย่แค่ไหน ก็ต้องทิ้งเส้นทางไว้สำหรับอัจฉริยะที่แท้จริง ถ้าไม่มีไว้แม่แต่เส้นทางเดียว งั้นมันก็ไม่คู่ควรให้ข้าเข้าร่วม"
จุยเตี้ยนมองไปยังอู๋เป่ย จู๋ๆก็ยิ้มเห็นฟันออกมาแล้วพูดว่า "ไม่เลว อัจฉริยะก็ต้องอารณ์ดีไว้"
มันหยุดไปชั่วครู่ แล้วพูดว่า "รอให้ท่านกลายเป็นศิษย์ของสำนักห้าจักรพรรดิแล้ว ข้าจะบอกเรื่องหนึ่งแก่ท่าน"
อู๋เป่ยรู้สึกมาตลอดว่าจุยเตี้ยนนั้นดูลึบลับ เพียงแต่เขาไม่ได้ถามออกไป เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม"ได้เลย"
เมื่อเดินได้สักพักนึง ทั้งสองก็เลือกเข้าพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ค่าครองชีพของเมืองอู่ตี้เทียบกับเมืองจางแล้วสูงกว่ามาก โรงเตี๊ยมนี้ระดับค่อนข้างสูง เข้าพักหนึ่งคืนเรียกเก็บเงินห้าสิบเหรียญทอง ซึ่งไม่ใช่ราคาที่คนธรรมดาจะจ่ายไหว
อู๋เป่ยถาม "เจ้าไม่ได้มีคฤหาส์นในเมืองอู่ตี้หรอกเหรอ? ทำไมไม่ไปพักที่นั้น?"
จุยเตี้ยน "ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั้น พักโรงเตี๊ยมนี้กันไปก่อนเถอะ"
หลังจากปักหลักพักในโรงเตี๊ยมแล้ว อู๋เป่ยก็นั่งที่โรงน้ำชาฝั่งตรงข้ามและสั่งชาไปหนึ่งแก้วฟังนักเล่าเรื่อง เล่าเรื่องต่างๆ แต่คนเหล่านี้ไม่ฟังเรื่องเล่า ส่วนมากกลับพูดคุยกันมากกว่า
เขานั่งฟังอยู่ครู่นึง ก็มีโต๊ะหนึ่งพูดเรื่องการคัดเลือกของสำนักห้าจักรพรรดิขึ้น เขาก็รีบนำชาของตัวเองไปด้วยและยังสั่งผลไม้อบแห้งมาอีก
เห็นคนมาร่วมโต๊ะสนุกด้วย ก็ไม่ว่าอะไร แถมยังดึงอู๋เป่ยเข้ามาสนทนาคุยด้วย
อู๋เป่ย "อีกนานไหมกว่าจะมีการคัดเลือก? ไม่รู้ว่าฉันจะสามารถเข้าร่วมได้ไหม?"
คนหนึ่งพูด "น้องชาย อยากจะเข้าร่วมนั้นไม่ใช่ว่าไม่ได้ เพียงแต่ต้องถามที่บ้าน?"
อู๋เป่ย "ทำไมต้องถามสถานการ์ณในบ้านของฉัน?"
คนนั้นหัวเราะแล้วพูดว่า "ถ้าบ้านนายมีเงิน นายก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่ถ้าไม่มีเงิน ทางที่ดีก็อย่าไปเลย เพราะค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนไม่ใช่น้อยๆเลย"
อีกคนหนึ่งพูด "นี้นายกำลังพูดเล่นรึเปล่า? ค่าลงทะเบียนนั้นแพงมาก คนธรรมดาจะมีเงินจ่ายไหวได้ยังไง ถึงจะจ่ายไหวแต่ก็ต้องหาทางหาเงินมาอีกในตอนหลัง"
อู๋เป่ยพูด "บ้านฉันยังพอไหว มีเก็บอยู่หนึ่งล้านเหรียญคริสตัลม่วง"
เมื่อฟังจบ หลายคนก็เริ่มสุภาพกับเขามากขึ้นทันที
"ที่แท้ครอบครัวน้องชายก็เป็นคนรวยนี้เอง งั้นก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน การคัดเลือกรอบนี้จะจัดขึ้นอีกสองวันให้หลัง คนเข้าร่วมในครั้งนี้มีเยอะมาก ว่ากันว่ามีมากถึงหมื่นคน"
อู๋เป่ยตกใจ "หนึ่งหมื่นคน?"
หนึ่งหมื่นคน เพียงค่าลงทะเบียนอย่างเดียวก็หนึ่งพันล้านเหรียญคริสตัลม่วง!
คนที่สามพูดขึ้น "ปีนี้นับว่าน้อย ปีที่แล้วมากที่สุดมีคนเข้าร่วมถึงเจ็ดหมื่นคน เฮ้อ สมัยนี้คนมีเงินมีเยอะจริงๆ อย่างฉันที่ทำงานหนักหนึ่งเดือน ทำเงินได้เพียงสิบกว่าเหรียญทอง!"
เมื่อออกจากโรงน้ำชา อู๋เป่ยก็เดินเล่นตามถนน ซื้อของกินกลับมาไม่น้อย
ยังมีเวลาอีกสองวัน เขาฝึกตนทุกวันและไม่ค่อยได้ออกจากโรงเตี๊ยมเลย
ในที่สุดก็ถึงวันคัดเลือก อู๋เป่ยมาถึงสถานที่คัดเลือกแต่เช้าตรู่ ณ จัตุรัสขนาดใหญ่นอกสำนักห้าจักรพรรดิ
ในขณะเดียวกันบนจัตุรัสก็เต็มไปด้วยผู้คน เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เขามาถึงก็นับว่าเช้าแล้วแต่กลับมีคนต่อคิวแล้วสิบคน เขาหาบริเวณที่มีคนน้อยแล้วยืนอยู่ตรงนั้น เข้าคิวเป็นคนที่ร้อยกว่า
เขาถามคนที่อยู่ข้างหลัง "ไฮ ต้องรอนานแค่ไหน?"
อู๋เป่ยต่อยเข้าไปที่หน้าของเขา ชายร่างใหญ่ล้มลงกับพื้นและสลบไป คนรอบข้างต่างตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าอู๋เป่ยทำอะไร
อู๋เป่ยก็ไม่ได้สนใจพวกเขา และเดินตรวจไปด้านหน้า เขาถือลูกบอลที่มีเลข"ห้า"เขียนอยู่ ดังนั้นคนที่รักษาความเรียบร้อยด้านหน้าจึงปล่อยเขาให้เข้าไปได้โดยตรง
เมื่อคนอื่นเริ่มรู้สึกตัวและอยากจะไปตามตัวเขาในตอนนั้นเขาก็ลงทะเบียนเสร็จก่อนแล้ว
เมื่อลงทะเบียนแล้ว อู๋เป่ยและคนด้านหน้าก็ถูกพาไปยังพื้นที่พิเศษซึ่งมีคนอยู่ประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบคน ในเวลานั้นก็มีชายไว้หนวดเดินเข้ามา ยิ้มแล้วพูกว่า "ทุกท่าน การคัดกรองด่านที่หนึ่งยากมาก ใครต้องการความช่วยเหลือขอให้มาคุยกับฉัน"
ในขณะนั้น ในหนึ่งร้อยห้าสิบคนมีอย่างน้อยหนึ่งร้อยยี่สิบคนรีบไปจ่ายเงินเพื่อซื้อความง่าย คนที่เหลือที่ไม่มีการเคลื่อนไหวต่าง รสีหน้าที่ดูไม่ได้ เพราะพวกเขารู้ดีว่าหากตอนนี้ไม่จ่ายเงินเกรงว่าการคัดกรองด่านแรกคงจะผ่านไปไม่ได้ง่ายๆ
อู๋เป่ยมองดูด้วยสายตาเย็นชา ก็พบว่าคนเหล่านั้นให้เงินหนึ่งพันเหรียญคริสตัลม่วง มากสุดถึงหมื่น คิดว่าหากยิ่งให้เงินเยอะ ได้รับ"การดูแล"ก็จะยิ่งมากตาม
ชายไว้หนวดเสี่ยวหูจือรวบรวมเงินทีละคน และหันกลับมามองอู๋เป่ยด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขากำลังมองดูกลุ่มคนโง่
อู๋เป่ยรู้ว่า เขาถูกเสี่ยวหูจือมองเป็นกลุ่มคน"ไม่มีเงิน"พวกนั้น แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ เพียงรอการคัดกรองด่านที่หนึ่งอยู่เงียบๆ
ในตอนนั้นเอง คนที่พาพวกเขาเข้ามาก็พูดเสียงดังว่า "พวกคุณฟังให้ดี ด่านที่หนึ่งคือถ้ำแรงโน้มถ่วง สามารถผ่านเข้าไปได้ ถือว่าผ่านด่าน เอาบะ เข้าแถวให้เรียบร้อยแล้วตามฉันมา"
หนึ่งร้อยห้าสิบคนตามคนคนนี้มายังปากถ้ำดิน จากนั้นเขาก็เรียกชื่อทีละคน ในบรรดาไม่กี่คนแรกมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถผ่านได้
อู๋เป่ยเปรียบเทียบดูแล้ว คนที่ผ่านได้นั้นจ่ายไปหนึ่งหมื่นห้าพันเหรียญคริสตัลม่วง คนที่ไม่ผ่าน ไม่เป็นพวกไม่มีเงินก็เป็นพวกที่จ่ายเงินน้อยเกิน เสี่ยวหูจือคนก่อนหน้านี้ก็ยืนหัวเราะเยาะอยู่ด้านข้างผู้ทำหน้าที่คัดกรอง
อู๋เป่ยเป็นคนที่เจ็ดสิบแปดที่จะเข้าถ้ำดิน คนนั้นไม่แม้แต่ปรายตามองเขา ขณะที่เสี่ยวหูจือเบะริมฝีปากอย่างดูถูกเหยียดหยาม
เมื่อเข้ามาในถ้ำดิน มีบันไดอยู่สิบสองขั้นเมื่อลงไปจะเป็นทางเดินหนึ่งทาง ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในทางเดิน เสี่ยวหูจือก็พยักหน้าเล็กน้อย คนรับผิดชอบนั้นก็เหยียบแผ่นกระเบื้องที่ใหญ่ที่สุดบนพื้น
อู๋เป่ยรู้สึกถึงแรงดึงดูดอันแข็งแกร่งทันที แรงโน้มถ่วงในถ้ำแรงโน้มถ่วงสามารถปรับได้สูงมาก น้อยที่สุดคือสิบเท่า สูงที่สุดคือหนึ่งเท่า!
และตอนนี้อู๋เป่ยกำลังเผชิญกับแรงโน้มถ่วงหนึ่งพันเท่า!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...