เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1978

อู๋เป่ยมองไปที่คนนั้น และถามขึ้น “ฉันไปได้หรือยัง?”

ชายที่หน้าดำคร่ำเครียด โบกดาบขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือไปมา และตอบกลับเสียงเรียบ “อยากจะไปก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าแกจะต้องชนะฉันให้ได้”

อู๋เป่ยลอบถอนหายใจออกมา “ทุกคนล้วนเดินมาสู่หนทางแห่งผู้เที่ยงแท้ เพื่อตามหาโอกาสและโชคชะตา แล้วทำไมถึงยังต้องมาสู้รบกันด้วย?”

กล่าวจบ เขาก็ก้าวไปหาชายคนนั้นทันที จนตัวเขาแทบจะติดกับชายคนนั้น จากนั้นเขาจึงผลักเข้าที่หัวไหล่ของมันจนลอยออกไป

ชายคนนั้นถูกผลักออกมาไกลหลายสิบเมตร จนร่างของเขาตกจากถนนลงไปในความมืดมิดที่มีที่สิ้นสุด ในขณะที่ร่างกายของเขากำลังเข้าสู่ความมืดมิด แม้แต่เสียงเขาก็ไม่สามารถเปล่งออกได้ และจากนั้นก็ได้ถูกกลืนกินไปทั้งหมด

เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นได้หายไปในความว่างเปล่าแล้ว อู๋เป่ยก็รู้สึกตกใจ ที่แท้ความว่างเปล่านี้ก็สามารถกลืนกินคนเป็นๆได้!

เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วจึงเดินหน้าต่อไป เดินไปไม่เท่าไหร่เขาก็พบเข้ากับหญิงสาวผู้หนึ่ง เธอได้รับบาดเจ็บมาและมีเลือดไหลออกมาจากหลังของเธอ

ถนนเส้นนี้มีความกว้างเพียงห้าเมตร การค้นพบของอู๋เป่ยนั้น จึงทำให้เธอตื่นตัวขึ้น ยืนนิ่งและหันกลับมา

เธอสวมด้วยชุดกระโปรงสีม่วง ผิวขาวราวกับหิมะและสวยสดงดงาม ขาทั้งสองข้างของเธอเรียวยาว ดวงตาของเธอสีน้ำเงินราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า แต่บนแขนของเธอมีแผลลึกจนเห็นกระดูกและมีเลือดไหลไม่หยุด จนไม่สามารถหยุดเลือดได้

อู๋เป่ยหยุดยืนอยู่ห่างจากเธอสองสามเมตร และถามขึ้น “คุณมีเลือดไหลอยู่ ต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า?”

“คุณช่วยฉันไม่ได้หรอก คุณไปเถอะ” หญิงสาวตอบกลับเสียงเรียบ พร้อมกับเขยิบตัวของเธอเพื่อให้อู๋เป่ยผ่านเธอไป

อู๋เป่ยเดินต่อไปข้างหน้าได้ห้าก้าว ก็กล่าวขึ้นเสียงเรียบ “กฎของที่นี่ก็คือไม่สามารถรักษาบาดแผลได้ใช่ไหม?”

หญิงสาวคนนั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับ เธอเพียงจ้องมองอู๋เป่ย

อู๋เป่ย “ผมมีผงยาที่อาจจะสามารถช่วยคุณได้อยู่” เขาหยิบขวดยาขวดเล็กขวดหนึ่งออกมาและโยนให้อีกฝ่าย จากนั้นก็เดินต่อไปข้างหน้า

หญิงสาวคนนี้เธออ่อนแอมากแล้ว พื้นฐานพลังยุทธ์ของเธอนั้นคือเลือด ถ้าเลือดไหลออกไปจนหมดเธอก็จะตาย เธอเปิดฝาขวดที่อู๋เป่ยให้พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับพูดพึมพำออกมา “ก็ถือว่านี่เป็นยาพิษก็แล้วกัน ตายเร็วขึ้นมาอีกไม่กี่ชั่วยามแล้วจะแตกต่างอะไรกัน?”

พูดจบเธอก็เทยานั้นลงไปบนแผล ซึ่งวินาทีที่น่าอัศจรรย์ก็ได้ปรากฏขึ้น เลือดบริเวณบาดแผลของเธอนั้นหยุดไหลลง และเกิดเป็นรอยแผลเป็นขึ้นอย่างรวดเร็ว

ไม่กี่นาทีต่อมา บาดแผลของเธอก็ได้หายไปจนมองไม่เห็น ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้น จากนั้นจึงรีบวิ่งตามอู๋เป่ยไปอย่างรวดเร็ว

อู๋เป่ยเดินมาได้สักระยะ ก็พบว่าข้างหน้ามีเทพสองคนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ยืนอยู่ที่ประตูก่อนหน้านี้ เป็นคนที่เอ่ยว่าจะเป็นคนแรกของเผ่าเทพที่ฆ่าเขา

เทพผู้นี้มองมาที่อู๋เป่ย ราวกับมองศพ เขาเอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ “แกคิดเหรอว่าฉันจะปล่อยแกไป?”

อู๋เป่ยหัวเราะเสียงเย็น “พวกเทพนี่โง่เง่าเหมือนกันหมดทุกคนเลยหรือเปล่า ?ฉันกลัวแกเหรอแกใช้อะไรคิด ในสายตาของฉันพวกแกก็ไม่ต่างอะไรกับพวกหนอน!”

เทพคนนั้นตะวาดออกมาเสียงดัง “แกหาที่ตายแล้ว!”

ทั้งขยับเข้าไปขนาบข้างซ้ายขวาของอู๋เป่ย พวกเขาปล่อยพลังอันมหาศาลแผ่ออกมารอบตัว สรรพสิ่งอื่นใดที่เข้ามาใกล้ก็จะสามารถโดนดันลอยออกไปด้วยแรงอันมหาศาล บนเส้นทางนี้ ถ้าลอยออดนอกเส้นทางไป ก็จะถูกความมืดมิดกลืนกินไป

ชายทั้งสองใกล้เขาเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งอู๋เป่ยก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหรืออารมณ์ใดๆออกไป และยังคงยืนอยู่ที่เดิม ทันใดนั้นด้านหลังของเขาก็มีคนมาอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นหญิงสาวคนก่อนหน้านี้

เธอเดินมายืนอยู่ที่ด้านหน้าของอู๋เป่ย พร้อมกับเอ่ยขึ้นเสียงเย็น “ถ้าจะฆ่าเขา ก็ข้ามศพฉันไปก่อน!”

เทพทั้งสองที่กำลังเข้ามาใกล้หยุดยืนนิ่ง เทพคนก่อนหน้านั้นขมวดคิ้ว “เทพธิดาวิลโลว์ ฉันจะถือเสียว่าเธอเป็นเทพธิดา ดังนั้นฉันจะปล่อยผ่านไป แต่คนๆนี้ฉันจะต้องฆ่าเขา เธอหลีกไปเสีย!”

เทพทิดาหลิงเจียวกล่าวเสียงเรียบ “ฉันพูดแล้วนะ ว่าถ้าจะฆ่าเขา ก็ข้ามศพฉันไปก่อน!”

อู๋เป่ยรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อกี้เขาเพิ่งให้ยากับเธอไป ตอนนี้เธอมาออกหน้าเธอเขาแล้ว เมื่อเห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวที่ตรงไปตรงมาเขาก็ระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย “คนสวย ไอ้สองคนนี้มันทำอะไรผมไม่ได้หรอก คุณไปรอดูอยู่ข้างๆเถอะ ”

ในขณะที่พูดเขาก็ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง พร้อมกับแผ่พลังอันมหาศาลออกมา เทพทั้งสองถูกไล่ต้อนจนต้องล่าถอย สีหน้าเริ่มเปลี่ยนไป

“เป็ฯไปไม่ได้!” เทพคนนั้นตระโกนออกมาเสียงดัง

ทันใดนั้นอู๋เป่ยก็เร่งความเร็วขึ้น และรีบตามไป

อู๋เป่ยไม่ได้ถามรายละเอียดใดๆต่อ “คุณเชียนเสวี่ย พวกเราเดินไปข้างหน้าด้วยกันเถอะ จะได้ช่วยดูแล”

ความประใจแรกของเขาที่มีต่อเธอนั้นดีมากๆ ได้ช่วยเธอในตอนแรกและช่วยไปถึงท้ายที่สุด

เมื่อได้ยินอู๋เป่ยกล่าวดังนั้น เทพธิดาหลิงเจียวก็มีอาการเขินอายขึ้นมา แต่กระนั้นเธอก็พยักหน้าลงเบาๆ พร้อมกับตอบกลับมาด้วยเสียง “อืม” เบาๆ

อู๋เป่ยรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ ก็แค่ร่วมทางไปด้วยกันก็เท่านั้น เขินอะไรกัน?

จากนั้นทั้งสองก็เดินเคียงกันไป เดิมทีเขาเดินห่างกับเทพธิดาหลิงเจียวอยู่สองก้าว แต่เมื่อเดินไปสักพักก็พบว่าเทพธิดาหลิงเจียวดูจะเดินมาชิดกับเขาเป็นพิเศษ และมีท่าทีที่แปลกไป

ถึงแม้ว่าอู๋เป่ยจะรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเดินห่างออกมาจากเธอ

เมื่อเดินไปสักระยะหนึ่ง ที่ด้านของพวกเขาก็มีคนสองคนปรากฏขึ้น เป็นคู่ชายหญิงที่จับมือกัน และดูรักใคร่กัน ชายคนนั้นหยิบอาหารออกมาและป้อนให้กับฝ่ายหญิง

เมื่อดูมาถึงตอนนี้ อู๋เป่ยก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา “คุณเชียนเสวี่ยดูคนข้างหน้าที่เขากำลังมีความรักกันสิ ถ้าไม่รู้จะคิดว่าเป็นเส้นทางเห็นความรักเสียอีก”

เทพธิดาหลิงเจียวเหลือบมองไปที่เขา พร้อมกับตอบกลับเสียงเบา “ที่หนทางแห่งผู้เที่ยงแท้นี้มีกฎข้อหนึ่งที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ คู่บำเพ็ญบุญชายหญิงที่ร่วมทางกัน จะต้องเป็นคนรักกัน”

ทันใดนั้นอู๋เป่ยก็นิ่งชะงักไป จากนั้นเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเทพธิดาหลิงเจียวถึงได้เขินอาย และเขาเป็นผู้ที่ชวนเธอร่วมทางเอง ก็ไม่เท่ากับว่าเขาอยากเป็นคนรักของเธอหรอกหรือ ?และเธอเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ นี่...

เธอกระแอมในขณะที่กำลังจะอธิบาย เทพธิดาหลิงเจียวหัวเราะออกมาเล็กน้อย “คุณชายช่วยชีวิตของฉันไว้ หลิงเจียวขอตอบแทนด้วยทั้งชีวิตของฉันเลย!” ในขณะที่พูดมือเล็กๆที่อบอุ่นของเธอกับคว้ามือของอู๋เป่ยมากุมไว้

อู๋เป่ยใจเต้นขึ้นมา สิ่งที่อยากจะพูดออกมาก็ถูกกลืนลงไปทันที หนทางแห่งผู้เที่ยงแท้นี้อันตรายมากๆสำหรับทุกคน มีทั้งความอันตรายจากสภาพแวดล้อม และความอันตรายจากจิตใจของมนุษย์ หากมีคู่รักมาที่นี่ ในยามที่พวกเขาได้พบกับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ ถึงจะสามารถเป็นห่วงกันและกันได้

เมื่อขึ้นมาถึงขั้นนี้ เขาก็หัวเราะเล็กน้อย และกระชับมือของเทพธิดาหลิงเจียวเบาๆ “ถ้าคุณเชื่อใจผมในตอนนี้ ชีวิตนี้ของผมก็จะไม่ทรยศต่อคุณ”

เมื่อได้ฟังดังนั้น น้ำตาของเชียนเสวี่ยหลิงเจียวก็ไหลออกมา พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ