ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 2251

เหตุผลที่อู๋เป่ยรู้เรื่องนี้ เป็นเพราะเขามีประสบการณ์การปรุงยามากมาย ชำนาญอย่างยิ่ง และอีกอย่างคือ เขาเข้าใจฤทธิ์ของสมุนไพรแต่ละชนิดอย่างถ่องแท้ แน่นอนว่านี่ยังต้องขอบคุณดวงตาแห่งมิติของเขาด้วย ที่สามารถมองเห็นแก่นแท้ของปฏิกิริยาระหว่างสมุนไพรได้

“ข้าบังเอิญคุ้นเคยกับสมุนไพรไม่กี่ชนิดนี้ดีพอดี” เขาอธิบาย

หมิงเชียนยิ้มแล้วกล่าวว่า “ศิษย์น้องช่วยข้าไว้มากจริงๆ ยาเจวี่ยซินขนานนี้ มีนักปรุงยาเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถปรุงได้ และพวกเขาต่างก็ปิดบังสูตรไว้เป็นความลับ และใช้ยาขนานนี้หาเงินได้มากทีเดียว”

ในใจของอู๋เป่ยพลันหวั่นไหว “ดูเหมือนว่านี่จะเป็นช่องทางทำเงินชั้นดี”

หมิงเชียนกล่าวว่า “รายได้จากยาขนานนี้ ข้าจะแบ่งให้ศิษย์น้องครึ่งหนึ่ง”

อู๋เป่ยกล่าวว่า “ศิษย์พี่หญิงพูดเกินไปแล้ว ข้าจะไปรับเงินของท่านได้ยังไง”

หมิงเชียน “ถ้าไม่มีเจ้า ข้าคงแก้ปัญหาในการปรุงยานี้ไม่ได้ อย่าเกรงใจศิษย์พี่หญิงเลย”

อู๋เป่ยนึกถึงยาอายุวัฒนะอีกขนานหนึ่งที่เขาเคยปรุงจากอันดับยาวิญญาณมาก่อน จึงถามว่า “ศิษย์พี่หญิง ข้ารู้สึกว่ายาอายุวัฒนะในอันดับยาวิญญาณแต่ละขนาน ล้วนเป็นตัวแทนของปัญหาหนึ่งอย่างในศาสตร์การปรุงยา”

หมิงเชียนยิ้มแล้วกล่าวว่า “ศิษย์น้องเก่งจริงๆ ถึงกับค้นพบหลักการข้อนี้ได้ด้วยตนเอง แท้จริงแล้วยาอายุวัฒนะหนึ่งร้อยขนานแรกในอันดับยาวิญญาณ ล้วนเป็นตัวแทนของปัญหาหนึ่งร้อยประเภทในศาสตร์การปรุงยา ยิ่งอันดับสูงขึ้น ปัญหาก็ยิ่งยากขึ้น”

หลังจากนั้น หมิงเชียนก็สั่งให้คนนำสมุนไพรมา แล้วลงมือปรุงยาด้วยตนเองหนึ่งเตา นางใช้วิธีที่อู๋เป่ยแนะนำไป ผลก็เป็นอย่างที่คิด สามารถปรุงยาสำเร็จได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่รายละเอียดบางอย่างยังต้องค่อยๆขัดเกลาอีกระยะ

หลังจากปรุงติดต่อกันสองเตา เวลาก็ล่วงเลยมาไม่น้อย อู๋เป่ยจึงขอตัวลากลับ ตอนจะกลับ หมิงเชียนมอบเหรียญทองแดงหนึ่งชิ้นให้เขา เหรียญนี้เป็นสัญลักษณ์ของสิทธิ์ในการเช่าเตาปรุงยาแบบพิเศษ หากมีเหรียญนี้ อู๋เป่ยก็สามารถไปเช่าเตาปรุงยาขั้นสูงได้ เตาปรุงยาเหล่านี้คิดค่าเช่าตามวัน เตาระดับสูงหน่อย วันหนึ่งอาจต้องเสียถึงหลักล้านเงินเซียนเลยทีเดียว

เมื่อกลับถึงเรือน หูจงหลิงก็ได้นำรายการยาของอันดับยาวิญญาณมาให้ อู๋เป่ยกวาดตามองคร่าวๆ แล้วก็ตัดสินใจเริ่มจากยาอายุวัฒนะที่อยู่ในอันดับที่หนึ่งร้อยก่อน

เขาสั่งให้หูจงหลิงไปซื้อยาอายุวัฒนะ และในขณะเดียวกันก็ให้นำยาอายุวัฒนะที่เขาเคยปรุงไว้ก่อนหน้านี้ไปส่งให้สำนัก เพื่อชำระหนี้ค่ายาที่เคยเบิกไปก่อนหน้า เพราะถ้ายังไม่คืนหนี้ เขาก็จะไม่สามารถเบิกสมุนไพรเพิ่มได้อีก

เวลานี้ฟ้ามืดแล้ว อู๋เป่ยยังคงปรุงยาอายุวัฒนะที่ใช้ในรอบที่ห้าและหกของการกลั่นทารกพลังลับ

ก่อนฟ้าสาง เขาได้กินยาอายุวัฒนะเกรดสูงสุดไปแล้วสองเม็ด ทำให้สามารถฝึกสำเร็จทั้งรอบที่ห้าและหก พอเขาออกจากการเข้าฌาน ก็เป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว

ทันทีที่เขาออกมา หูจงหลิงก็กล่าวว่า “คุณชาย ทางหอห้ารสส่งคนมาขอให้คุณชายไปพบ คุณชายเข้าฌาน ข้าก็เลยไม่ได้ไปรบกวน”

อู๋เป่ยถามว่า “หอห้ารสคืออะไร?”

หูจงหลิงกล่าวว่า “หอห้ารสเป็นองค์กรของนักปรุงยาในสำนัก สมาชิกมีทั้งหมดห้าสิบเจ็ดคน ต่างก็มีหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะบางขนาน แล้วนำมาวางขายร่วมกันในหอห้ารส เงินที่ขายได้ สองส่วนจะเข้าสู่บัญชีของสำนัก ใช้พัฒนาองค์กร ส่วนอีกแปดส่วนจะเป็นของนักปรุงยาแต่ละคน”

อู๋เป่ย “โอ้ มีองค์กรแบบนี้ด้วย ระดับของนักปรุงยาในนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”

หูจงหลิง “ส่วนใหญ่เป็นนักปรุงยาระดับสามกระถางขึ้นไป ในจำนวนนั้นก็มีทั้งผู้ที่เป็นนักปรุงยากระถางเหลืองและกระถางเขียวอยู่ไม่น้อย”

“แล้วหอห้ารสมาหาข้าทำไม? หรือว่าต้องการเชิญข้าเข้าร่วม?”

หูจงหลิง “จากที่อีกฝ่ายพูด ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น คุณชายจะเข้าร่วมไหม?”

อู๋เป่ยว่า “ข้าขายยาอายุวัฒนะให้กับสำนักโดยตรงไม่สะดวกกว่าหรือ แล้วมันต่างกันยังไง?”

หูจงหลิงหัวเราะแล้วกล่าวว่า “แน่นอนว่ามีความต่าง คุณชายขายยาอายุวัฒนะให้สำนัก คนอื่นจะไม่รู้ แต่ถ้าขายผ่านหอห้ารส หากยาของคุณชายดีพอและหายากพอ ราคาก็สามารถแพงกว่าการขายให้สำนักหลายเท่า แถมยังสามารถสร้างอิทธิพลของตนเอง กลายเป็นนักปรุงยาที่มีชื่อเสียง”

อู๋เป่ย “นักปรุงยาที่มีชื่อเสียงมีข้อดีอะไร?”

“ยาอายุวัฒนะของนักปรุงยาที่มีชื่อเสียง จะมีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าปกติ ยาอายุวัฒนะขนานเดียวกัน หากเป็นของนักปรุงยาที่มีชื่อเสียง จะได้รับความไว้วางใจจากผู้คนมากกว่า”

อู๋เป่ยพยักหน้า “ก็สมเหตุสมผลดี หอห้ารสนี้เชื่อถือได้หรือเปล่า?”