ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 2270

หลังจากได้รับสมุนไพร อู๋เป่ยก็ปรุงยาอีกสองเตา แล้วนำไปวางไว้ในห้องจัดแสดงให้ผู้คนวิจารณ์

หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว บนภูเขากลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง ด้วยความที่ได้ครอบครองภูเขาลูกหนึ่งโดยเฉพาะ หมิงเชียนและพรรคพวกจึงไม่กลับลงไป คืนนี้จะพักอยู่บนเขา และพรุ่งนี้จะแสดงยาอายุวัฒนะต่อ

ในคืนนั้น อู๋เป่ยได้ปรุงยาอายุวัฒนะที่ใช้ในขั้นที่สองของสุดยอดเทพวิชา เป็นยาที่ชื่อว่า "หลิงเวยตาน" เขาปรุงไปสองเตา ได้ยาอายุวัฒนะเกรดสูงสุด แล้วก็กินยานั้นเข้าไปเพื่อเข้าสู่การเข้าฌานฝึกตน

สุดยอดเทพวิชาขั้นแรกคือ “เสริมพลังเทพ” ส่วนขั้นที่สองคือ “ปรับพลังเทพ”

การปรับพลังเทพ คือการปรับความถี่ของมี่อิง ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของจักรวาล เจิ้นตั้น เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการฝึกตนสูงสุด ซึ่งต้องใช้หลิงเวยตานช่วย ไม่เช่นนั้นจะยากที่จะบรรลุผล

เมื่อกินหลิงเวยตานเข้าไปแล้ว อู๋เป่ยก็เริ่มปรับพลังเทพ ด้วยความช่วยเหลือของยาอายุวัฒนะ เขาใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆ ก็สามารถปรับมี่อิงเข้าสู่สถานะที่ดีที่สุดได้สำเร็จ ขณะนั้นเขารู้สึกเหมือนตนเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล พลังจิตของเขาแผ่ออกไปได้ไกลนับล้านลี้ และยังคงขยายออกไปจนทะลุขอบเขตจิ่วหยาง สั่นสะเทือนไปทั่วจักรวาลหลัก

ในสภาพเช่นนี้ เขารู้สึกสบายอย่างยิ่ง มี่อิงเติบโตอย่างรวดเร็วและเริ่มสุกงอม

จนกระทั่งรุ่งเช้า เขาถึงได้ถอนตัวออกจากสภาวะนั้น

วันนี้เป็นวันที่สามของงานประชุมจิ่วหยางตันฮุ่ย (งานแสดงยาอายุวัฒนะจิ่วหยาง) ตามธรรมเนียม วันนี้จะเป็นการคัดเลือกยาอายุวัฒนะ 50 อันดับแรก และแน่นอนว่า "ยาเฟิ่งเทียน" ของอู๋เป่ย คือผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งที่มาแรงที่สุด!

เมื่อประตูภูเขาเปิดออก ก็มีผู้คนจำนวนมหาศาลหลั่งไหลขึ้นเขา ผู้เข้าร่วมงานแสดงแต่ละคนมียันต์ลัทธิเต๋าจำนวนสิบใบไว้ในมือ เมื่อถึงเวลาคัดเลือก พวกเขาจะมอบ ยันต์ให้กับยาอายุวัฒนะที่คิดว่าดีที่สุด

ช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก อู๋เป่ยได้รับออเดอร์จำนวนมากอีกครั้ง ซึ่งออเดอร์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ของเขาคนเดียว แต่เป็นของนิกายโอ้อวดแห่งการปรุงยา ทั้งหมด แน่นอน ในฐานะนักปรุงยาที่ทรงอิทธิพลที่สุด เขามีสิทธิได้รับส่วนแบ่งกำไรส่วนใหญ่

เมื่อถึงเที่ยง วันนั้นก็มีเสียงระฆังดังขึ้นจากท้องฟ้า จากนั้นมีแผ่นศิลาจารึกชื่อยาอายุวัฒนะหนึ่งร้อยแผ่นปรากฏขึ้นกลางอากาศ ซึ่งมียาหลายชนิดที่อู๋เป่ยเป็นคนปรุง เช่น ยาเฟิ่งเทียน, เสี่ยวอูเซียงตัน, โอสถมังกรทอง โอสถมายา, ไท่ซวีหลิงตาน, และยาเจวี่ยซิน

จากนั้นมีคนออกมากล่าวเปิดงาน เมื่อจบคำพูด ก็ประกาศเริ่มการคัดเลือก ผู้คนก็พากันโยนยันต์จิตวิญญาณที่อยู่ในมือไปยังศิลาจารึกต่างๆ

ทันใดนั้น กลางอากาศก็เหมือนมีสายฝนแสงตกลงมา เมื่อทุกคนส่งยันต์จิตวิญญาณออกไปหมดแล้ว ตัวเลขต่างๆ ก็ปรากฏบนแผ่นศิลาทุกแผ่น โดยศิลาที่มียาเฟิ่งเทียนปรากฏอยู่ มีตัวเลขสูงถึง 267,513

อันดับที่สองคือเสี่ยวอูเซี่ยงตาน ซึ่งก็เป็นของอู๋เป่ยเช่นกัน ได้ไป 21,107 ยันต์ ส่วนในสิบอันดับแรก ยาอายุวัฒนะที่อู๋เป่ยเป็นผู้ปรุงได้เข้าไปถึงครึ่งหนึ่ง!

เมื่อผลออกมา เหล่าคนของนิกายโอ้อวดแห่งการปรุงยาก็พากันโห่ร้องดีใจ ตั้งแต่งานจิ่วหยางตันฮุ่ยเคยมีมา พวกเขาไม่เคยมีช่วงเวลาที่เปล่งประกายเท่านี้มาก่อนเลย – ยาอายุวัฒนะครองครึ่งหนึ่งของ 10 อันดับแรก!

หมิงเชียนยิ้ม “ยินดีด้วยนะพี่อู๋! จากนี้ไป คุณคือปรมาจารย์ปรุงยาที่แท้จริงแล้ว ไม่ว่าชื่อของคุณจะปรากฏอยู่ที่ร้านยาอายุวัฒนะไหน ยาของร้านนั้นก็ขายดีแน่นอน”

หยวนติ้งจื้อหัวเราะ “ดูเหมือนสายตาพวกเราจะไม่พลาด มองออกว่าพี่ชายคนนี้มีอนาคตรุ่งเรืองจริงๆ”

หมิงเชียนพูดขึ้น “เหล่าศิษย์พี่ทั้งหลาย ถ้าอยากให้พี่อู๋อยู่กับหอปรุงยาอ้าวซื่อต่อไป คงต้องปรับสัดส่วนการแบ่งรายได้กันหน่อยแล้ว”

ผู้ก่อตั้งแต่ละคนก็พูดขึ้นพร้อมกัน “แน่นอน! พี่อู๋ควรได้อย่างน้อยห้าส่วน นี่ก็เป็นเรทที่ตลาดภายนอกใช้อยู่แล้ว”

หมิงเชียนถาม “พี่อู๋ คิดว่าแบบนี้โอเคไหม?”

อู๋เป่ยรู้ดีว่าแบ่งให้เขาห้าส่วนก็ไม่ถือว่ามาก เพราะแค่ชื่อเสียงของเขา ก็ทำให้ยอดขายของหอปรุงยาเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบเท่า! ไม่ใช่แค่ขายได้มาก กำไรยังเพิ่มขึ้นอีกมากด้วย!

อู๋เป่ยพูดว่า “ศิษย์พี่ทุกคน พี่หมิง ผมเอาแค่สามส่วนก็พอแล้ว”

หมิงเชียน “ถ้าพี่เอาแค่สามส่วน งั้นยาที่พี่ปรุง หอปรุงยาจะไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มอีก”