ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 2385

อู๋เป่ยรู้ดีว่า หากออกไปเก็บสมุนไพรตลอดสามปี เขาแทบจะสามารถได้สมุนไพรล้ำค่าทุกชนิด โอกาสเช่นนี้ย่อมไม่คิดปล่อยให้หลุดมือ

ผู้อาวุโสกล่าวว่า “เรื่องนี้สำคัญนัก เราจะส่งคนหนึ่งไปคอยติดตามและฟังคำสั่งเจ้า”

สิ้นเสียง คนรับคำสั่งเป็นสตรีผู้หนึ่ง นางงดงามจนไม่ด้อยไปกว่าสตรีใดๆ ที่อู๋เป่ยเคยพบ นางสวมชุดขาวเรียบ งามละมุนราวหมอกริมน้ำและเงาเขาไกล เมื่อก้าวมาใกล้ กลิ่นดอกไม้ใบอ่อนก็ลอยอวลชวนให้ต้องมนตร์ แผ่วพรายเย้ายวนอย่างเงียบงามจับใจ

สตรีนั้นโค้งคำนับอย่างอ่อนช้อย แล้วเอ่ยว่า “ขอคารวะเหล่าผู้อาวุโสทุกท่านค่ะ”

“เจียงชูเหยียน เจ้าเป็นหญิงงามพร้อมด้วยปัญญาและใจบริสุทธิ์ดุจกล้วยไม้ เป็นหนึ่งในเด็กสาวที่ยอดเยี่ยมที่สุดของภูเขาปฐมกาล บัดนี้ สั่งให้เจ้าติดตามอู๋เป่ย และสร้างความผูกพันกัน ครั้นถึงวาระเหมาะสม ก็จะให้แต่งงานและมีบุตร”

อู๋เป่ยมองเจียงชูเหยียนแวบหนึ่ง ใจคิดว่าทำไมเรื่องแบบนี้ไม่มาถามความเห็นเขาบ้าง แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไร เพราะนี่เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ภูเขาปฐมกาลวางไว้แต่แรก

เจียงชูเหยียนพูดอย่างสงบว่า “เจ้าค่ะ”

“อืม สองสามวันนี้ ให้เจ้าเป็นคนดูแลเรื่องต่างๆ เถิด ถอยไปได้”

อู๋เป่ยกับเจียงชูเหยียนออกจากตำหนักไปด้วยกัน พอพ้นประตู เจียงชูเหยียนกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “คุณชาย ไม่ลองไปยังที่พักของท่านก่อนหรือคะ”

อู๋เป่ยว่า “ที่พักของผมเหรอครับ”

เจียงชูเหยียนว่า “ค่ะ พองานประชุมยอดวีรบุรุษจบ ผู้อาวุโสทั้งหลายก็จัดที่พักให้คุณชายเรียบร้อยแล้วค่ะ”

อู๋เป่ยพยักหน้า “ตกลงครับ”

นางพาอู๋เป่ยขึ้นไปยังยอดเขาเขียวขจีเงียบสงัด มีคฤหาสน์ใหญ่สร้างท่ามกลางป่าไผ่ ที่นั่นคือเรือนพักของอู๋เป่ยในภูเขาปฐมกาล

พอเข้าลานบ้าน เจียงชูเหยียนพูดว่า “ที่นี่ยังไม่ได้จัดคนไว้ประจำ เดี๋ยวฉันจะพาคนมาที่นี่ ให้คุณชายคัดเลือกสาวใช้ตามที่ต้องการค่ะ”

อู๋เป่ยว่า “อืม ไปจัดการเถอะครับ”

เจียงชูเหยียนไปหาคน ส่วนอู๋เป่ยถือโอกาสกลับไปบ้าน นำสี่สาว—อวี่นู่ หงเหยียน มู่หลาน และชิงหวู่—มายังภูเขาปฐมกาล ในเมื่อเป็นคนของเขามาเนิ่นนาน เชื่อมือได้มากกว่าคนของภูเขาปฐมกาลแน่นอน

ช่วงก่อนหน้านี้ สี่สาวต่างได้พลังยุทธ์ระดับขั้นลี้ลับจากผลของยาอายุวัฒนะของอู๋เป่ย ถึงยังทำเรื่องใหญ่ไม่ได้ แต่ดูแลรับใช้เขาย่อมไม่มีปัญหา

พอกลับมา ในลานบ้านมีสาวใช้ยืนอยู่กว่าร้อยคน อู๋เป่ยก็ให้มู่หลานกับพวกคัดเลือกสิบกว่าคน ให้พวกนางคุมดูแล

เลือกคนเสร็จ เจียงชูเหยียนกล่าวว่า “คุณชาย คนจากโลกเซียนโยวเทียนคนนั้นมาถึงแดนเซียนหยวนซือแล้ว ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าจะประลองกันในอีกสามวัน ระหว่างนี้ ขอให้คุณชายพักผ่อนสะสมกำลัง แล้วเอาชนะฝ่ายตรงข้ามเพื่อเกียรติยศของภูเขาปฐมกาลค่ะ”

อู๋เป่ยว่า “คุณรู้ข้อมูลของอีกฝ่ายไหมครับ”

เจียงชูเหยียนว่า “ฉันพอรู้คร่าวๆ ค่ะ คนผู้นั้นชื่อหลินชงเซียว เป็นเทียนเฉียวอันดับหนึ่งของโลกเซียนโยวเทียน อยู่ในขั้นที่สิบของอาณาจักรแห่งความรอบรู้ เล่ากันว่าเขาเคยขึ้นเวทีประลองเทียนเชวี่ย และอยู่ในรายชื่อเซียนใหญ่อันดับที่ 84”

อู๋เป่ยว่า “ที่แท้เคยติดรายชื่อเซียนใหญ่ด้วย ไม่แปลกที่ชื่อเสียงโด่งดัง”

เจียงชูเหยียนถามอย่างสงสัยว่า “คุณชายก็เคยขึ้นเวทีเทียนเชวี่ยด้วยหรือคะ”

อู๋เป่ยว่า “ผมเป็นอันดับหนึ่งในรายชื่อเซียนน้อย อีกไม่นานก็จะไปท้าทายยอดฝีมือในรายชื่อเซียนใหญ่ เจอหลินชงเซียวพอดี จะได้ลองมือกับเขาสักหน่อยครับ”

เจียงชูเหยียนตะลึงไม่น้อย เพราะอันดับหนึ่งในรายชื่อเซียนน้อย โดยมากทะลุเข้าไปได้ถึงอันดับเจ็ดสิบต้นๆ ของรายชื่อเซียนใหญ่ นั่นหมายความว่า พลังของอู๋เป่ยน่าจะอยู่เหนือหลินชงเซียวด้วยซ้ำ!

อู๋เป่ยจึงถามเจียงชูเหยียนว่า “เจ้าไม่ได้แซ่หงเหมิง แสดงว่าไม่ใช่สายเลือดของปรมาจารย์บรรพกาลสินะ”

เจียงชูเหยียนว่า “ในภูเขาปฐมกาลนอกจากตระกูลหลักแล้ว ยังมีสี่สำนักสองสถาบัน ซึ่งล้วนเป็นเชื้อสายของศิษย์ทั้งหกของปรมาจารย์บรรพกาล เราเจียงซื่อก็อยู่ในสำนักเจียง หนึ่งในสี่สำนักค่ะ”

พูดคุยกันไม่กี่ประโยค อู๋เป่ยก็หาห้องเงียบสงบสักห้อง หยิบเตายาออกมาเริ่มปรุงยา ยังเหลือเลือดเนื้อของเทพอยู่บ้าง เขาตั้งใจปรุงยาอายุวัฒนะเพิ่มอีกชุด เพื่อเสริมพลังให้มู่หลานกับอีกสามสาวแข็งแกร่งขึ้น