อู๋เป่ยไม่คิดว่าคนจะนัดจองคิวกันเยอะขนาดนี้ จึงได้แต่พูดว่า
“งั้นก็วันอังคารแล้วกัน”
พนักงานสาวพยักหน้า
“ได้ค่ะ กลับไปรอการแจ้งเตือนได้เลย”
ออกมาจากโถงด้านนอก อู๋เป่ยก็ถามเย่หนิงปิงว่า
“ช่วงนี้มีคนมารายงานตัวที่สถาบันเยอะไหม”
“เยอะสิ ตามที่ฉันสังเกต สองสามวันนี้มีคนมารายงานตัวทุกวัน วันละหลายสิบคน แล้วก็ลงชื่อจองคิวเข้ารับการประเมินกันทั้งนั้น”
อู๋เป่ยพูดว่า
“ถ้าไม่ใช่เพราะดินแดนต้องห้ามโบราณล่ะก็ ฉันคงไม่มาที่นี่หรอก”
เย่หนิงปิงว่า
“ใช่ ดินแดนต้องห้ามโบราณยังไงก็ต้องไปให้ได้ จำคนที่ฉันบอกเมื่อกี้ไหม คนที่ทิ้งบันทึกเอาไว้ เขาพกแผนที่ติดตัวมาด้วย หลังจากฉันเอาไปศึกษาดู ฉันว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับดินแดนต้องห้ามโบราณแน่นอน รอให้ดินแดนต้องห้ามเปิด ฉันยังไงก็ต้องไปสักเที่ยว”
อู๋เป่ยถาม
“แผนที่แบบไหนกัน”
เย่หนิงปิงจึงหยิบแผนที่เก่าแก่ผืนหนึ่งส่งให้อู๋เป่ย เขากางดูเพียงแวบเดียวก็จดจำทุกอย่างบนแผนที่ไว้ในใจ ก่อนจะคืนให้เธอ
“หนิงปิง เธอคิดว่า ที่ไม่กี่จุดที่เขาไฮไลต์ไว้บนแผนที่นั่น จะมีอะไรอยู่”
เย่หนิงปิงตอบ
“ของที่ทำให้เขายอมเสี่ยงข้ามโลกมาถึงนี่ได้ ฉันว่ามันต้องล้ำค่ามากแน่ ๆ อู๋เป่ย ถึงตอนนั้นเราไปสำรวจกันด้วยกันเถอะ”
อู๋เป่ยพยักหน้าทันที
“ดี!”
เพราะหานปิงเหยียนยังสอบไม่เสร็จ อู๋เป่ยจึงไม่อยู่ต่อ คุยอีกไม่กี่ประโยคก็รีบกลับไปยังสนามสอบ
พอเขากลับมาถึงสวนสาธารณะใกล้สนามสอบ ก็เห็นมู่ปิงฉานยืนรอเขาอยู่ตรงนั้น
“พี่อู๋เป่ย!” พอเห็นเงาร่างอู๋เป่ย เธอก็โบกมืออย่างดีใจ
อู๋เป่ยยิ้ม
“มู่ปิงฉาน เธอไม่ได้หลับทั้งคืน ทำไมไม่ไปพักล่ะ”
บนใบหน้ามู่ปิงฉานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“พี่อู๋เป่ย ฉันกลับไปนอนมารอบหนึ่งแล้วนะ แต่ดันฝันยาวมาก รู้สึกเหมือนในฝันผ่านไปตั้งหลายร้อยปีแน่ะ!”
อู๋เป่ยนึกประหลาดใจ
“อยู่ในฝันตั้งหลายร้อยปี? ก่อนหน้านี้เคยฝันอะไรแบบนี้ไหม”
มู่ปิงฉานส่ายหน้า
“ไม่เคยเลย นี่เป็นครั้งแรก ฉันว่ามันน่าจะเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนของเรานั่นแหละ เรื่องเมื่อคืนเหมือนความฝันที่ทั้งระทึกทั้งหวาดเสียวจริง ๆ”
อู๋เป่ยมองเธอแล้วยิ้ม
“ดูเธอเหมือนจะดีใจมากนะ”
มู่ปิงฉานยิ้มออกมา มือขาวสะอาดเล็ก ๆ ของเธอจู่ ๆ ก็ขยับร่ายวิชากำหนดขึ้นมา ทันใดนั้น รอบตัวเธอก็มีแสงสีขาวอ่อน ๆ ล้อมรอบ ให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์น่าศรัทธา
อู๋เป่ยจ้องมองแสงสีขาวบนตัวเธอ แล้วถามอย่างตกตะลึง
“เธอมีพลังแห่งความรอบรู้?”
ไม่น่าแปลกที่เขาจะตกใจ ในสายตาเขา มู่ปิงฉานชัด ๆ ว่าไม่มีพลังแห่งความรอบรู้แม้แต่น้อย แล้วอย่างนี้เธอไปงัดเอาวิชานี้มาจากไหน
มู่ปิงฉานว่า
“ในฝันนั่นแหละ ฉันได้เรียนวิชานี้ ชื่อว่าคาถาแสงศักดิ์สิทธิ์ คาถานี้รักษาได้ทั้งโรค พิษ บาดแผล ภัยพิบัติ ทุกอย่างทั้งของศัตรูและพวกเราเอง พอตื่นขึ้นมา ฉันทนไม่ไหวเลยลองใช้ดูสักที ไม่คิดว่าจะใช้ได้จริง ๆ พี่อู๋เป่ย หรือว่าฉันกำลังการบำเพ็ญเพียรอยู่ในฝันกันแน่”
อู๋เป่ยถึงกับอึ้งไป เขายื่นมือไปกดลงบนจุดชีพจรของมู่ปิงฉานอีกครั้ง พบว่าโรคภัยในร่างเธอหายไปหมดสิ้น แถมร่างกายยังแข็งแรงขึ้นอย่างมาก ชัดเจนว่านี่เป็นผลจากคาถาแสงศักดิ์สิทธิ์!
แต่ถึงอย่างนั้น มู่ปิงฉานก็ยังไม่มีพลังยุทธ์ในตัวอยู่ดี แล้วคาถาแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เธอใช้เมื่อครู่มาจากไหนกันแน่
เขาสูดหายใจลึก กล่าวเสียงขรึม
“ปิงฉาน มากับฉันกลับโรงแรมหน่อย”
มู่ปิงฉานหน้าแดงซ่านขึ้นมาทันที ลังเลอยู่สองสามวินาทีแต่สุดท้ายก็พยักหน้า ในมุมมองของเธอ พี่อู๋เป่ยไม่มีทางคิดร้ายกับเธออยู่แล้ว ถึงต่อให้คิด เธอก็ไม่ได้อยากปฏิเสธด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้อู๋เป่ยรีบอยากรู้ว่าพลังแห่งความรอบรู้ของเธอมาจากไหนกันแน่ จนไม่ได้ทันสังเกตความรู้สึกของเธอ เขาคว้ามือเธอไว้ แล้วทั้งคู่ก็หายวับไปโผล่บนภูเขารกร้างลูกหนึ่งนอกนครศักดิ์สิทธิ์ในทันที


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...