อู๋เป่ยนิ่งอึ้งไป ในใจคิดว่านี่คือการปัดความรับผิดชอบมาให้ฉันงั้นเหรอ?
เขาสบถเหอะเบาๆ แล้วพูด:“ลั่วเมิ่งเฉิน เรื่องแต่งงานเรื่องใหญ่ ผมไม่สามารถตัดสินใจได้ ค่อยว่ากันวันหลังเถอะ”
ลั่วฉังเซิงยิ้มเล็กๆแล้วพูด:“คุณอู๋ ให้เมิ่งเฉินได้ปรนนิบัติรับใช้ข้างกายคุณเถอะ ส่วนจะให้ฐานะเธอหรือไม่ ก็แล้วแต่ความรู้สึกของคุณ”
ลั่วเมิ่งเฉินก็พูดขึ้นมา:“คุณอู๋เป่ย ให้ฉันได้อยู่ข้างกายคุณเถอะ!”
อู๋เป่ยยังคงบ่ายเบี่ยง ลั่วฉังเซิงลุกขึ้น สีหน้าผุดรอยยิ้มที่เคร่งเครียดขึ้น แล้วพูด:“คุณอู๋ ผมจะไปเจอขยะสองคนนั่นหน่อย ฝากเมิ่งเฉินไว้กับคุณชั่วคราวละกัน”
ลั่วฉังเซิงพูดไปก็ไปเลย พออู๋เป่ยไล่ตามมาถึงนอกประตู เขาก็ไม่เห็นเงาแล้ว
ลั่วเมิ่งเฉินเผยสีหน้ากังวล:“คุณทวดเขาไปรับมือกับปราชญ์นินจาและปราชญ์ดาบน่ะ แต่พลังของเขายังไม่ฟื้นฟู......”
“วางใจเถอะ” อู๋เป่ยพูดด้วยเสียงเรียบเฉย:“เง็กเซียนคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกได้ว่าน่ากลัวที่สุด อีกอย่างเหล่าลั่วก็ไม่ใช่เง็กเซียนธรรมดาทั่วไป ไม่ว่าปราชญ์นินจาหรือปราชญ์ดาบ ตราบใดที่ยังมีชั้นห่าง ก็ข่มขู่อะไรเขาไม่ได้หรอก”
ลั่วเมิ่งเฉินเบาใจ:“จริงเหรอ? คุณอู๋เป่ยเก่งจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเข้าใจเรื่องแดนเง็กเซียนด้วย”
สำหรับคนที่เป็นเง็กเซียน ต่อให้เป็นมนุษย์เซียน ก็เข้าใจเรื่องลึกลับของเง็กเซียนเป็นอย่างดี อู๋เป่ยเลยพูดชี้ขาด แสดงให้เห็นว่าความเข้าใจของเขาที่มีต่อเง็กเซียนนั้นไม่ธรรมดา
อู๋เป่ย:“รู้มาบ้างเล็กน้อย”
หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังนินจาสาวสองคนที่อยู่ด้านหลังลั่วเมิ่งเฉิน แล้วถาม:“พวกเขาคือหน่วยคุ้มกันของเธอ?”
ลั่วเมิ่งเฉินรีบพูด:“ซิงเยี่ยกับเหม่ยไต้ พวกเขาโตมาด้วยกันกับฉันน่ะ คุณปู่ฉันเป็นคนจัดการ พวกเขาเลยได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มงวดตั้งแต่เด็ก เป้าหมายก็เพื่อคุ้มกันฉัน ถึงแม้พวกเราจะมีฐานะนายบ่าว แต่ความจริงก็เหมือนพี่น้องกันนั่นแหละ”
อู๋เป่ยส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ:“น่าเสียดาย ต้นกล้าดีๆสองต้น กลับถูกคนฝึกให้กลายเป็นแบบนี้”
ฟังเขาพูดแบบนี้แล้ว เหม่ยไต้ที่อยู่ข้างๆก็เผยสีหน้าไม่พอใจ แต่ตอนนี้มีลั่วเมิ่งเฉินอยู่ เธอไม่กล้าเอ่ยปากพูด
อู๋เป่ยไม่สนใจเธอ แล้วพูดต่อ:“วิชานินจาที่พวกเขาเรียนมันไร้ประโยชน์มาก สิ่งที่เรียกว่าใช้วิธีการไม่ถูกต้อง เลยไปไม่ถึงเป้าหมาย คำพูดนี้ก็หมายถึงพวกเขานั่นแหละ”
ซิงเยี่ยโมโหจนพองแก้ม แล้วพูดกระซิบเบาๆ:“ฉันเป็นถึงนินจาชั้นสูงนะ”
อู๋เป่ยมองไปที่เธอ:“นินจาชั้นสูง? ถูกต้อง พลังยุทธ์ของเธอเหมือนว่าจะถึงชั้นพรสวรรค์นะ แต่ต่อหน้าผู้มีฝีมือ แม้แต่สักกระบวนท่าเธอก็รับมือไม่ได้”
ในใจลั่วเมิ่งเฉินสั่นไหว แล้วพูด:“คุณอู๋เป่ย คุณพอจะชี้แนะพวกเธอหน่อยได้ไหม? วิชานินจาของพวกเธอเรียนจากด้านนอกน่ะ เป็นอาจารย์ปราชญ์นินจาท่านหนึ่งจากสำนักเจี่ยเฮ่อ”
อู๋เป่ยคิดสักพักแล้วพูด:“ก็ได้”
หลังจากนั้นเขาก็เรียกซิงเยี่ยและเหม่ยไต้มาที่ลานกว้างของเรือน แล้วพูด:“ฉันจะสอนวิชาฝึกกำลังกายให้พวกเธอ จะทำให้ดูก่อน”
ลั่วเมิ่งเฉินยิ้มแล้วพูด:“คุณอู๋ ฉันเรียนด้วยได้ไหม?”
“ได้นะ มาสิ ฝึกด้วยกัน”
เขาทำท่าให้ดูท่าหนึ่ง ให้ทั้งสามคนเรียนตาม แค่นี้ ก็สามารถมองความสามารถในการเข้าใจของพวกเขาออกแล้ว ลั่วเฉิ่งเฉินสมกับเป็นลูกหลานของลั่วฉังเซิง ไม่นานก็จับท่าสำคัญได้หมดแล้ว
ซิงเยี่ยก็เรียนรู้ได้ค่อนข้างไว พอๆกันกับลั่วเมิ่งเฉินเลยทีเดียว
เหม่ยไต้นั้นช้าสักหน่อย แต่ท่าทางทำออกมาก็ไม่เลว
ทั้งสามทำท่าพร้อมกันออกมา พวกเขาต่างก็มีหน้าตาที่สะสวย มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป ซิงเยี่ยกับเหม่ยไต้ถอดผ้าคลุมหน้าออก เพื่อไม่ให้กระทบต่อการหายใจ เลยเผยให้เห็นใบหน้าอันงดงาม
ต้องบอกก่อนว่า ขณะที่ทั้งสองอายุห้าขวบนั้นก็ถูกลั่วฉังเซิงเลือกตัวไปแล้ว ไม่เพียงแต่ต้องการคนที่หน้าตาสะสวย แถมยังต้องฉลาดด้วย สามารถอดทนต่อความยากลำบากได้ดี สุดท้าย ซิงเยี่ยและเหม่ยไต้เลยถูกเลือกออกมาจากหญิงสาวที่ฉลาดหลักแหลมจำนวนสามร้อยคน และกลายเป็นคนคอยดูแลอยู่ข้างๆลั่วเมิ่งเฉิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...
ด้วยความเคารพนะครับ หลังๆ มานี่ดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจเลย ตอนละ 2-3 บรรทัด เห็น 2-3 เรื่องล่ะ เหมือนรีบเอามาลง แต่ไม่ได้ตรวจสอบเนื้อหาข้างในเลยว่าตอนที่ลงมีเนื้อหาครบสมบูรณ์หรือไม่...
เหลือตอนละ5บรรทัดแล้วครับหลายตอนแล้วครับ...
รบกวนเรียนถามหน่อยครับ ทำไมหลังๆจึงเพี้ยนไปหมด จากนิยายดีๆจนอ่านไม่รู้เรื่อง มีบทละ 5 บรรทัด พอขึ้นบทใหม่เป็นคนละตอนกันเลยครับ แอดและคณะควรตรวจดูก่อนโพสต์นะครับ...