ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 456

อู๋เป่ย “ไม่มีปัญหา การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ต้องเป็นทางการถึงจะดี”

ในเวลานี้ พ่อกับแม่ของกังจื่อพึ่งมาถึง ทั้งคู่อายุราวห้าสิบต้นๆ วันนี้พวกเขาพากันสวมใส่ชุดแต่งงาน พร้อมด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

“พ่อครับ แม่ครับ ท่านผู้นี้คือบอสของผมเอง ชื่อคุณอู๋”

พ่อกับแม่ของกังจื่อรีบเข้ามากล่าวคำทักทายต้อนรับทันที แถมยังยื่นบุหรี่และรินน้ำให้อีกด้วย จนอู๋เป่ยถึงกับรีบเอ่ยปากบอกไปว่าไม่ต้องมากพิธีขนาดนี้ก็ได้

“คุณอา คุณป้า ยินดีกับพวกคุณด้วยนะครับ กังจื่อกำลังจะแต่งงานแล้ว เดี๋ยวปีหน้าท่านอาวุโสทั้งสองก็จะได้รับขวัญหลานชายสมบูรณ์อ้วนท้วนแล้ว” อู๋เป่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

พ่อของกังจื่อยิ้มรับและตอบว่า “คุณอู๋ ต้องขอบคุณคุณเป็นอย่างมากเลยสำหรับเรื่องของกังจื่อ”

อู๋เป่ยโบกมือเชิงปฏิเสธ “กังจื่อเป็นน้องชายของผม คนกันเองทั้งนั้น อย่าได้เกรงใจเลยครับ”

ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น ก็มีชายผู้หนึ่งเดินตรงเข้ามา เขาคืออารองของกังจื่อนั่นเอง สีหน้าของเขาไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่จนไม่ทันได้ทักทายอู๋เป่ย และพูดว่า “พี่ใหญ่ ว่านเหล่าซานพูดประกาศออกมาแล้วว่า หากวันนี้ใครกล้ามาร่วมงานมงคลตระกูลฟังของพวกเราแล้ว จะถือว่าเป็นปรปักษ์กับตระกูลว่าน! ว่านเหล่าซานผู้นี้ชักจะกลั่นแกล้งกันมากเกินไปแล้ว!”

พ่อของกังจื่อขมวดคิ้วผูกเป็นปมและพูดว่า “เอาหล่ะ ถึงแขกจะมาร่วมงานน้อยก็ช่างเถอะ วันนี้เป็นวันดีสิริมงคล อย่าเอาความวุ่นวายเข้ามาแทรกทำให้เสียฤกษ์เลย”

อารองของกังจื่อโกรธจนหน้าเขียว “พี่ใหญ่ ขบวนขันหมากของพวกเราต้องล่มลง ก็เป็นเพราะว่านซานนั้นแหละ เรื่องนี้ยอมไม่ได้ มิเช่นนั้นพฤติกรรมของว่านซานต้องเหิมเกริมมากขึ้นแน่นอน!”

พ่อของกังจื่อถอนใจเบาๆ “ทนไม่ไหวแล้วทำอะไรได้หล่ะ? ว่านซานมีอำนาจและอิทธิพลมาก แถมยังเลี้ยงพวกอันธพาลไว้กลุ่มหนึ่ง แม้แต่หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยกับนายกเทศมนตรียังเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเขาเลย แล้วพวกเราจะเอาอะไรไปสู้กับเขาได้?”

ระหว่างที่พี่น้องทั้งสองกำลังปรึกษาหารือกันอยู่ อู๋เป่ยก็เรียกกังจื่อมาและถามว่า “กังจื่อ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

กังจื่อถอนใจเฮือกใหญ่และพูดว่า “บอส ตระกูลฟังของพวกเรากับตระกูลว่านมีความแค้นสืบทอดกันมานาน ตระกูลว่านมักจะชอบมาหาเรื่องตระกูลฟังของพวกเราอยู่เสมอ”

จากนั้นเขาจึงเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ของทั้งสองครอบครัวออกมา ตระกูลว่านอาศัยอยู่ในหมู่บ้านว่านมานานหลายชั่วอายุคน ครอบครัวของเขามีอิทธิพลกว้างขวาง หนึ่งในสามของคนทั้งหมู่บ้านล้วนแต่แซ่ว่านกันทั้งนั้น ต่อมาในรุ่นของคุณปู่ทวดของกังจื่อได้อพยพเข้ามาในหมู่บ้าน และตั้งรกรากถิ่นฐานที่นั่น

คุณปู่ทวดของกังจื่อเป็นอาจารย์สอนกังฟูท่านหนึ่ง ซึ่งวิชากังฟูของท่านยอดเยี่ยมมาก ต่อมาจึงเปิดสำนักรับลูกศิษย์ขึ้นในหมู่บ้าน คนของตระกูลว่านชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่าเสมอ เมื่อเห็นคุณปู่ทวดของกังจื่อเป็นคนต่างถิ่นมาอาศัยในหมู่บ้าน เลยยิ่งรู้สึกอยากกลั่นแกล้งมากกว่าเดิม ใครจะรู้ว่าคุณปู่ทวดของกังจื่อเป็นคนสู้คน กล้าได้กล้าเสีย ดังนั้นเขาจึงจัดการกับคนของตระกูลว่านจนได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อย จากนั้นเขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา

ต่อมา จึงมีผู้คนจำนวนนับร้อยคนเข้ามาขอเรียนวิชากังฟูกับเขา ประกอบกับสมาชิกของครอบครัวที่เพิ่มเติมตามมาทีหลัง จึงค่อยๆ กลายเป็นกองกำลังกองเดียวที่สามารถต่อกรกับตระกูลว่านได้

จนกระทั่งมาถึงรุ่นพ่อของกังจื่อ ตระกูลว่านอาศัยกำลังพลที่เหนือกว่า ผ่านการขายที่ทำเป็นสุสานบนภูเขา ขุดทางแม่น้ำ ถลุงหินและวิธีอื่นๆ จึงเกิดความมั่งคั่งขึ้นมากโดยใช้เวลาไม่นานนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้าพี่น้องของว่านซาน หรือที่รู้จักกันในนาม ห้าเสือตระกูลว่าน พวกเขาวางอำนาจบาตรใหญ่ในหมู่บ้านและไม่มีใครกล้าแข็งข้อกับเขาเลยสักคน

เนื่องจากความแค้นที่สั่งสมมานานตั้งแต่บรรพบุรุษ ตระกูลว่านเองจึงเริ่มกดขี่ปราบปรามตระกูลฟัง โดยเฉพาะในช่วงระยะหลังมานี้ อำนาจของตระกูลว่านเฟื่องฟูถึงขีดสุด เลยยิ่งไม่เห็นตระกูลฟังอยู่ในสายตา เมื่อไม่กี่ปีมานี้ อารองของกังจื่อพึ่งจะถูกคนของตระกูลว่านทำร้ายจนขาหัก ส่วนว่านอู๋ที่เป็นคนทำร้ายนั้นไม่เพียงแค่ไม่ติดคุก แถมยังพาคนเข้าไปทำร้ายครอบครัวอารองของกังจื่ออีกด้วย

พ่อของกังจื่อรู้ดีว่าไม่สามารถเอาชนะตระกูลว่านได้ จึงบอกให้อารองระงับความโกรธเอาไว้ แต่เวลาผ่านไปไม่ถึงสองปี บุตรชายของอารองพาแฟนสาวมาหาผู้ใหญ่ที่บ้าน คืนวันที่ส่งแฟนสาวกลับบ้าน ในระหว่างทางบนถนนเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีกลุ่มชายสวมใส่หน้ากากกรูกันเข้ามา และจับฟังเฉียงมัดไว้กับต้นไม้ จากนั้นกลุ่มคนเหล่านั้นก็กระทำการย่ำยีข่มขืนแฟนสาวต่อหน้าต่อตาเขา ฟังเฉียงโกรธจัด จนกรีดร้องออกมาประหนึ่งว่าจะขาดใจตาย

จนกระทั่งพ่อของกังจื่อและคนอื่นๆ มาถึง กลุ่มคนสารเลวพวกนั้นก็หนีกันไปหมดแล้ว แฟนสาวของฟังเฉียงร้องไห้ปล่อยโฮและเดินจากไป วันรุ่งขึ้นแฟนสาวของเขากินยาฆ่าตัวตายในบ้านทันที ฟังเฉียงทนต่อปวดใจนี้ไม่ไหว จึงกลับบ้านไปหยิบขวานเพื่อจะไปคิดบัญชีกับตระกูลว่าน แต่ถูกคนอื่นๆ ห้ามปรามเอาไว้ ฟังเฉียงรู้สึกโศกเศร้าและคับแค้นใจเป็นอย่างมาก จนเกิดอาการหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมา เขาก็กลายเป็นบุคคลเสียสติไปทันที

กรมรักษาความปลอดภัยส่งคนเข้ามาตรวจสอบ แต่คดีก็เงียบหายไปอย่างรวดเร็ว คนของตระกูลว่านลอยนวลไปอย่างสบายๆ ต่อมา ว่านซานดื่มเหล้าจนเมา และเล่าเรื่องต่อหน้าคนอื่นไปว่า เหตุการณ์วันนั้นเป็นฝีมือของพี่น้องทั้งห้าและคนของเขาเอง แถมยังบอกว่าผู้หญิงคนนั้นรสชาติไม่เลวเลยทีเดียว ช่างหวานหอมดีเหลือเกิน

เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว อู๋เป่ยก็พูดด้วยความโกรธว่า “สารเลวจริงๆ!”

กังจื่อถอนใจ “ตอนแรกที่พ่อกับแม่ส่งให้ฉันไปเป็นทหาร นั่นเป็นเพราะกลัวว่าตระกูลว่านจะมารังแกฉัน แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ยังไงซะตระกูลว่านไม่มีทางปล่อยพวกเราไปอยู่ดี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ