ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 470

ผู้หญิงที่ชื่อโล่วเข่อพูดขึ้นว่า "เฉียนจิน ขอบคุณที่เชิญฉันมาทานอาหารเย็น เวลาฉันมีไม่มาก มีอะไรก็พูดออกมาตามตรงเถอะ พ่อของคุณเคยเป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้ตระกูลวั่นของเรา ตอนนั้นพ่อของฉันได้ให้ลุงเฉียนเก็บเครื่องเคลือบลายครามไว้ ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว ฉันอยากได้ของพวกคืน แต่ไม่รู้ทำไม ลุงเฉียนถึงเอาแต่หลบหน้าฉัน”

ผู้ชายชื่อเฉียนจินยิ้มและพูดว่า "โล่วเข่อ พ่อของฉันแค่กำลังยุ่ง เขาฝากให้ฉันมาบอกคุณว่าในตอนนั้นนายท่านฝากของไว้ที่เขาไม่กี่อย่างแล้วของพวกนั้นก็ไม่ได้มีค่าอะไรมากด้วย"

โล่วเข่อหรี่ตาลงและพูดว่า "นี่คุณโลภของของตระกูลวั่นของฉันเหรอ? เฉียนจิน! ในเมื่อฉันวั่นโล่วเข่อกลับมา ฉันก็ได้เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทางที่ดีพวกคุณพ่อลูกไปคิดให้มาให้มันดี ๆ เถอะ!”

สีหน้าของเฉียนจินเปลี่ยนไป เขาพูดว่า "วั่นโล่วเข่อ! ฉันแค่อยากออกมาพบเธอเพราะเราโตมาด้วยกัน เธอช่วยรู้ว่าอะไรเป็นอะไรหน่อยเถอะ!"

วั่นโล่วเข่อจ้องมองเขาแล้วพูดชัด ๆ ทีละคำ "เฉียนจิน คิดจะตุกติกของของตระกูลวั่นของฉันมันไม่ง่ายนักหรอก คุณกับพ่อของคุณจะต้องชดใช้!"

เฉียนจินเริ่มโกรธทันที เขาอย่างเย็นชา "นี่เธอขู่ฉันเหรอ? นอกจากคุณแล้วครอบครัววั่นมีอะไรบ้าง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังคุยกับคุณชายคนนึงในปักกิ่ง เพื่อให้เขามาช่วยตระกูลวั่นแทนเธอ ฉันจะบอกอะไรให้นะ เรื่องนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เป็นคนที่มีอำนาจมากกว่าเขาสิบเท่า มันก็ไม่มีประโยชน์!”

วั่นโล่วเข่อรู้ดีว่าการสนทนานี้มันจะไม่จบง่าย ๆ แน่ ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นและพูดอย่างเย็นชา "เฉียนจิน คุณก็คอยดูแล้วกัน!" เมื่อพูดจบ เธอก็ยืนขึ้นและจากไป

เฉียนจินไม่ขยับ เมื่อวั่นโล่วเข่อออกไป เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วพูดเสียงต่ำ "เธอออกไปแล้ว จัดการเธอให้เรียบร้อย!"

หัวใจของอู๋เป่ยสั่น ฆ่าคนปิดปากงั้นเหรอ?

เมื่อเห็นว่าอาหารยังไม่ถูกเสิร์ฟ เขาจึงพูดกับจูชิงเหยียนว่า "ชิงเหยียน ฉันจะออกไปโทรศัพท์สักหน่อยนะ"

จูชิงเหยียนพยักหน้า "ไปเถอะ"

เมื่อเขาออกมาจากร้านอาหารเขาก็เห็นว่าวั่นโล่วเข่อเดินห่างออกไปหลายสิบเมตร เขาจุดบุหรี่แล้วเดินตามไปอย่างไม่รีบร้อน

วั่นโล่วเข่อเดินมาสักพักก็เลี้ยวเข้าซอยดูเหมือนเธอจะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลยเดินกลับได้

ทันทีที่เลี้ยวเข้าไปในซอยก็มีผู้ชายสองคนเดินมา ท่าทางเหมือนพวกอันธพาลและมีสายตาแข็งกร้าว ดูก็รู้ว่าเป็นอันตพาล! วั่นโล่วเข่อหยุดชะงัก ลังเลอยู่ครึ่งวินาทีแล้วหันหลังเดินกลับ แต่ทันทีที่เธอหันกลับก็มีคนอีกสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ฝั่งตรงข้าม ล้อมรอบเธอทั้งหน้าและหลัง

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงอันตราย เธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเธอแล้วหยิบสเปรย์พริกไทย

ผู้คนทั้งสองฝ่ายเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกกังวลอย่างมากและพูดเสียงเข้มว่า "พวกแกคิดจะทำอะไร?"

มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ มีรอยแผลเป็นกากบาทบนใบหน้าของเขา เขายิ้มน่ากลัวและพูดว่า "จะทำอะไรงั้นเหรอ เธอคงเดาได้นะ!" หลังจากพูดอย่างนั้น ดวงตาของเขาก็ชั่วร้ายมากขึ้น เขากวาดสายตาไปทั่วทั้งร่างของวั่นโล่วเข่อ

อู๋เป่ยเดินมาถึงทางเข้าซอยในตอนนั้น เขาก้าวขึ้นมาจากด้านหลังทันที ผลักอันธพาลทั้งสองออกไปแล้วสบถสาปแช่ง "ไสหัวไป อย่ามาขวางทางฉัน!"

ทันใดนั้นทั้งสองก็ถูกผลักออกไป อีกฝ่ายสบถออกมา พวกเขาทั้งตกใจทั้งโกรธ

ชายที่มีรอยแผลเป็นพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว "ให้ตายเถอะ อยากตายรึไง?!"

เขาชักมีดออกมาและพุ่งไปที่หน้าอก ในขณะที่มีดกำลังพุ่งมา เงาตรงหน้าเขาก็สว่างวาบแวบหนึ่ง ก่อนที่ชายคนนั้นจะกระเด็นออกไปหลายเมตร ชายคนนั้นเงียบ เขาไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วกันแน่

คนอื่นๆ ตกใจและรีบวิ่งไปหาเขาทันที คนเหล่านี้ต่างก็มีทักษะอยู่บ้าง แต่ในสายตาของอู๋เป่ย พวกเขานั้นดูอ่อนแอเกินไป แค่เขาขยับนิดขยับหน่อย ทั้งสามก็ล้มลงกับพื้น ถ้าไม่อาเจียนเป็นเลือดก็หมดสติไป

วั่นโล่วเข่อมองเขาค้าง หลังจากเธอได้สติเธอก็พูดว่า"ขอบคุณ"

อู๋เป่ย "ไม่เป็นไร รีบไปเถอะ"

วั่นโล่วเข่อลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า "ฉันขอทราบชื่อของคุณได้ไหม"

อู๋เป่ยยิ้ม "ฉันชื่ออู๋เป่ย บางทีเราอาจจะได้พบกันอีกในอนาคต"

วั่นโล่วเข่อพยักหน้าอย่างแรงแล้วถามว่า "ฉันขอช่องทางการติดต่อของคุณได้ไหม"

อู๋เป่ยพยักหน้า ส่งนามบัตรให้เธอแล้วพูดว่า "ฉือเฉิงไม่ปลอดภัย ทางที่ดีคุณควรไปที่ที่ปลอดภัยกว่านี้"

“ค่ะ ขอบคุณ!” วั่นโช่วเข่อมองดูอู๋เป่ยอย่างละเอียดแล้วหันหลังจากไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นเธอออกจากซอยไป อู๋เป่ยก็กลับมาที่ร้านอาหารเช่นกัน

อาหารมาเสิร์ฟแล้ว เขากับจูชิงเหยียนพูดคุยกันขณะรับประทานอาหาร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ