เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 1004

ตอนที่ 1004 เยือนดินแดนของศัตรู

……………………………………………………………………..

การจะยืนหยัดอยู่ในดินแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือได้โดยไม่ล้มลงมานานหลายปีนั้นหวังหว่านยู่ไม่ใช่แค่อาศัยโชคช่วยเพราะถ้าเขาไม่กล้าหาญจริงๆล่ะก็เกรงว่าเขาคงตายไปแล้ว ในตอนนี้เขาได้แต่มองลูกน้องของเขาล้มลงทีละคนเขาอดไม่ได้ที่จะผงะ เพราะลูกน้องเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีโดยเขาเองและฝีมือความสามารถของแต่ละคนก็ดีเยี่ยม แต่ทว่าลูกน้องเหล่านี้ไม่มีความสามารถในการโต้กลับเลยแม้แต่น้อยและยังถูกจัดการได้อย่างง่ายดายราวกับการสับแตงโมและผัก

“หรือเธอจะมาจากตระกูลโอ่วหยาง?” หวังหว่านยู่อดไม่ได้ที่จะคิดอย่างลับๆเพราะเท่าที่เขารู้มามีเพียงคนในตระกูลโอ่วหยางเท่านั้นที่มีทักษะการต่อสู้ที่โหดร้ายและแข็งแกร่งแบบนี้ ถ้าหากปราศจากการสนับสนุนจากตระกูลโอ่วหยางแล้วก็เป็นไปไม่ได้เลยที่หวังหว่านยู่จจะยืนหยัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้นานถึงขนาดนี้ ซึ่งเขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวลว่าจะมีใครมาแย่งชิงบัลลังก์ของเขา เพราะสมาชิกตระกูลโอ่วหยางนั้นมีทั่วประเทศและพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นคนที่แข็งแกร่ง ดังนั้นถ้าอีกฝ่ายหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลโอ่วหยางล่ะก็นั่นจะไม่เท่ากับว่าเขาจะสูญเสียทุกอย่างหรอกหรือ?

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นลูกน้องของตัวเองถูกจัดการไปทีละคนแล้วหวังหว่านยู่ก็เต็มไปด้วยความโกรธและไม่ว่าในกรณีใดเขาก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือและแม้แต่ตระกูลโอ่วหยางเองก็ต้องไว้หน้าเขาบ้าง ดังนั้นในฐานะราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือจะเสียศักศรีและใบหน้าของเขาที่นี่ได้อย่างไร เขาจึงตะโกนและเข้าไปต่อยหยานซื่อฉุยด้วยหมัด

เมื่อตอนที่เขายังหนุ่มยังแน่นหวังหว่านยู่ก็มีทักษะการต่อสู้ที่ดีและเขาก็เคยสังกัดในกองทัพอีกด้วย สำหรับเขาแล้วถ้าเผชิญหน้ากับศัตรูสองสามคนก็ไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับเขาและถึงแม้ว่าช่วงหลังมานี้เขาจะไม่ได้ต่อสู้เลยก็ตามแต่ทักษะการต่อสู้ของเขาก็ไม่จางหายไป ต่อให้หลายปีมานี้เขาจะใช้ลูกน้องทำสิ่งต่างๆก็เถอะแต่การอยู่ในตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่แบบนี้เขาก็ต้องมีความสามารถในการต่อสู้และป้องกันตัวเอาไว้เพราะมันจะมีอันตรายได้ตลอดเวลาดังนั้นเรื่องการต่อสู้แล้วหวังหว่านยู่ก็ถือได้ว่าเก่งกาจเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นแบบนั้นหยานซื่อฉุยก็ยิ้มอย่างดูถูกเมื่อเห็นหมัดของหวังหว่านยู่และเธอก็หลบได้อย่างง่ายดายแล้วใช้หน้าเขาอีกครั้งจนหวังหว่านยู่รู้สึกเวียนหัวอย่างมาก

“อยากตายขนาดนั้นเลยเหรอ?” หยานซื่อฉุยพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก

หวังหว่านยู่ก็ตกตะลึงและรู้สึกมึนงงอย่างมากและความอัปยศต่อเนื่องนี้ทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขาก็คิดเสมอว่าตราบใดที่ยังไม่สิ้นชีพเขาก็ยังมีโอกาสแก้แค้นได้ดังนั้นตอนนี้เขาจึงอดทนและรอแก้แค้นทีหลัง

“พอได้แล้วซื่อฉุย..เราแค่สอนบทเรียนเล็กๆน้อยๆให้กับเขาก็พอ” เสียงของชายชราดังมาจากภายในห้องและเสียงนั้นก็ดูทรงพลังอย่างมาก “โทรไปหาตระกูลโอ่วหยางแล้วบอกให้พวกเขาดูแลสุนัขของตัวเองให้ดีๆ..อย่าปล่อยให้พวกมันออกมาเห่าคนอื่นไปทั่ว”

“เข้าใจแล้วท่านอาจารย์” หยานซื่อฉุยตอบแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรออกทันที

หลังจากนั้นไม่นานโทรศัพท์มือถือของหวังหว่านยู่ก็ดังขึ้นและหลังจากที่เขารับสายใบหน้าของหวังหว่านยู่ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเขาก็ตอบรับซ้ำแล้วซ้ำเล่าและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อหยานซื่อฉุย แน่นอนว่าตระกูลโอ่วหยางนั้นยิ่งใหญ่และสนับสนุนเขามาโดยตลอด ดังนั้นหากตระกูลโอ่วหยางพูดอะไรหวังหว่านยู่ก็ทำได้เพียงยอมจำนนและกลืนคำพูดทั้งหมดลงไป อย่างไรก็ตามในสายตาของหวังหว่านยู่ก็ยากที่จะซ่อนความโกรธแค้นเอาไว้

ถึงแม้ว่าจะมีการกล่าวกันว่าดินแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่หวังหว่านยู่ครอบครองอยู่นั้นเขาพึ่งพาอิทธิพลของตระกูลโอ่วหยางก็จริงแต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหวังหว่านยู่ก็ต่อต้านตระกูลโอ่วหยางทางอ้อมมาโดยตลอด เพราะแน่นอนว่าจะมีใครเต็มใจเป็นสุนัขรับใช้ไปตลอดชีวิต? เพียงแต่มันยังไม่ถึงเวลาเพราะเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมหวังหว่านยู่จะกำจัดตระกูลโอ่วหยางโดยไม่ลังเล แต่สำหรับตอนนี้หวังหว่านยู่ทำได้เพียงซ่อนความแค้นเอาไว้

ตระกูลโอ่วหยางนั้นไม่ได้อยู่ในเมืองซีหนิงดังนั้นถ้าหากเขาฆ่าหยานซื่อฉุยในเมืองซีหนิงจริงๆล่ะก็ตระกูลโอ่วหยางจะทำอะไรกับเขาได้? อย่างมากที่สุดเขาก็แค่โนตำหนิเท่านั้นหรือไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเพราะตระกูลโอ่วหยางนั้นไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าเขาเป็นคนทำ นอกจากนี้เขาก็เชื่อว่าการทำแบบนั้นจะนำผลประโยชน์มาสู่ตระกูลโอ่วหยางเช่นกัน

หลังจากวางสายแล้วหวังหว่านยู่ก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ฉันขอโทษคุณหยาน..ฉันประมาทไปเอง”

“หืม..ออกไปซะ” หยานซื่อฉุยพูดพร้อมกับโบกมือ

ในตอนนี้มีเจตนาฆ่าเกิดขึ้นในดวงตาของหวังหว่านยู่จากนั้นเขาก็หันหลังกลับทันทีแล้วบอกลูกน้องของเขาที่นอนอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นด้วยความอับอาย อย่างไรก็ตามหวังหว่านยู่ก็ไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้เพราะในเมืองซีหนิงเขาไม่เคยกลัวใครเลย

หลังจากขึ้นรถแล้วหวังหว่านยู่ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ส่งคนไปจับตาดูพวกนั้นเอาไว้..ฉันต้องฆ่ามันให้ได้..บัดซบจริงๆเพราะแค่มีความสัมพันธ์เพียงเล็กน้อยกับตระกูลโอ่วหยางแล้วจะมาเย้ยหยันฉันถึงที่นี่อย่างงั้นเหรอ?..ฉันจะฆ่าพวกมันให้หมดเลยคอยดู”

“ได้ครับหัวหน้า” ลูกน้องตอบ

หลังจากนั้นหวังหว่านยู่ก็พยักหน้าแล้วสั่งให้ลูกน้องขับรถกลับ จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาแล้วกดหมายเลขโทรออก “หวังฉิงเซิง..แกรีบไปเตรียมอาวุธหนักมาให้ฉันกับลูกน้องเดี๋ยวนี้..อย่ารอช้าและยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!” หลังจากพูดจบหวังหว่านยู่ก็ตัดสายทิ้งทันที

ตอนที่ 1004 เยือนดินแดนของศัตรู 1

ตอนที่ 1004 เยือนดินแดนของศัตรู 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน