ตอนที่ 1017 การเผชิญหน้า
……………………………………………………………………..
ทันทีที่พวกเขาพบกันเย่เชียนกับตู้ฟู่เหว่ยก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่มีต่อกัน ซึ่งถ้าหากว่าพวกเขาไม่มีเหตุผลที่ทำให้ต้องขัดแย้งกันล่ะก็ทั้งสองก็สามารถทำงานร่วมกันได้แต่เนื่องจากมันเป็นไปไม่ได้แล้วดังนั้นเย่เชียนจึงไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นถ่อมตัวต่อหน้าเขา ยิ่งไปกว่านั้นตู้ฟู่เหว่ยก็เป็นศัตรูของม่อหลงดังนั้นในฐานะพี่น้องของม่อหลงแล้วเย่เชียนจะปล่อยไปไม่ได้
เรื่องราวในอดีตของสำนักม่อจื๊อนั้นเย่เชียนไม่สนใจว่าใครถูกหรือใครผิดและไม่ว่าความขัดแย้งระหว่างพวกเขาจะเกิดจากอะไรก็ตามแต่ตู้ฟู่เหว่ยก็ยังมีชีวิตอยู่ส่วนครอบครัวของม่อหลงทั้งหมดนั้นตายไปในการต่อสู้ครั้งนั้น ดังนั้นไม่ว่าตู้ฟู่เหว่ยจะมีเหตุผลอะไรเย่เชียนก็จะไม่มีวันยอมอย่างแน่นอน
“แกมาจากตระกูลเย่แห่งมณฑลไห่หนานที่เป็นตระกูลหลักแห่งโลกศิลปะการต่อสู้เพราะงั้นแกก็น่าจะรู้กฎของเราดี..เรื่องระหว่างฉันกับม่อหลงเป็นเรื่องภายในของเราและแกไม่ควรเข้ามายุ่ง!” ตู้ฟู่เหว่ยพูด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูถูกว่า “ก็จริงที่ผมเป็นสมาชิกของตระกูลเย่แต่ผมก็เป็นพี่น้องของม่อหลงเพราะงั้นมันก็เหมือนเรื่องของผมด้วย..อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระเพราะผมไม่สนใจหรอกว่าในอดีตใครถูกหรือใครผิด!”
“แล้วแกต้องการอะไร?” ตู้ฟู่เหว่ยนั่งลงแล้วหยิบซิการ์ออกมาแล้วจุดไฟ
เย่เชียนเหลือบมองไปที่ม่อหลงแล้วพยักหน้าให้เขาและโบกมือให้ เพราะท้ายที่สุดม่อหลงก็เป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงของสำนักม่อหลงและเย่เชียนก็ต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีอย่างสมเกียรติให้กับม่อหลง จากนั้นม่อหลงก็มองไปที่ตู้ฟู่เหว่ยแล้วพูดว่า “มันง่ายมากเพราะผมแค่ต้องการให้คุณอธิบายเรื่องราวในอดีตอย่างมีเหตุผล”
“คำอธิบายที่สมเหตุสมผล?..หืม..ทำไมฉันต้องอธิบายให้แกฟังด้วย” ตู้ฟู่เหว่ยพูดต่อ “แกเป็นใครและแกมีคุณสมบัติอะไร?”
“ผู้สืบทอดของเจ้าสำนักของสำนักม่อจื๊อและทายาทของตระกูลม่อ!” ม่อหลงพูด “แบบนี้คุณคิดว่าผมมีคุณสมบัติพอหรือเปล่า?..ผมไม่อยากที่จะทำตัวเหมือนเห็นเผด็จการแต่คุณยังไม่คิดที่จะคุกเข่าลงอีกเหรอเมื่ออยู่ต่อหน้าผม?” ม่อหลงใช้ศักดิ์ของผู้นำสูงสุดในการพูดคุยและตะโกนอย่างเข้มงวด
ตู้ฟู่เหว่ยเยาะเย้ยและพูดว่า “แกคิดว่านี่ยังเป็นสังคมยุคระบบศักดินาและเผด็จการอย่างงั้นเหรอ?..อย่าลืมสิว่าตอนนี้มันเป็นยุคสมัยใหม่และยิ่งไปกว่านั้นจะมีใครมองว่าแกเป็นผู้นำที่แท้จริงของสำนักม่อจื๊อบ้าง?”
“ดูเหมือนว่าคุณต้องการยั่วยุให้เกิดการต่อสู้ระหว่างสาวกหมิงม่อกับอันม่ออีกครั้งใช่มั้ย?” ม่อหลงรู้ดีว่าตู้ฟู่เหว่ยจะไม่สามารถถูกข่มขู่ได้เพียงแค่อาศัยตำแหน่งที่จริงของผู้สืบทอดสำนักม่อจื๊อ ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่ทำการต่อต้านในสมัยก่อนอย่างแน่นอน
“ยี่สิบปีที่แล้วถ้าหากสกวกหมิงม่อคิดที่จะตอบโต้ในเวลานั้นบางทีสาวกอันม่อของเราอาจจะพ่ายแพ้ก็ได้..แต่ในตอนนี้มันจะง่ายดายแบบเมื่อก่อนเหรอ?..ฉันไม่เคยสนใจที่จะตามหาสาวกหมิงม่อเพราะฉันเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆและไม่ต้องการที่จะฆ่าพวกเขา..แกคิดว่าจริงๆแล้วในปัจจุบันสาวกหมิงม่อจะยังเป็นคู่ต่อสู้ของสาวกอันม่อได้อยู่เหรอ?..แกคิดว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาสาวกอันม่ออยู่เฉยๆอย่างงั้นเหรอ?” ตู้ฟู่เหว่ยพูด “ฉันไม่ได้คาดคิดเลยว่าคัมภีร์ลับของผู้สืบทอดจะอยู่ในมือของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนมาโดยตลอด” จากนั้นเขาก็หันมองไปที่ม่อหลงแล้วพูดว่า “ตอนนี้สำนักม่อจื๊อไม่เหมือนในอดีตอีกต่อไปและถ้าแกอยากจะเผชิญหน้ากับฉันล่ะก็แกอย่ามาโทษฉันที่โหดเหี้ยมก็แล้วกัน..โทรหาพรรคพวกของแกซะและบอกให้คนของแกเลิกต่อต้านแล้วฉันจะไว้ชีวิตพวกแกทุกคน..ถ้าพวกแกไม่เห็นโลงศพคงไม่หลั่งน้ำตาสินะ”
ม่อหลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆและระงับความโกรธในใจและพยายามสงบสติอารมณ์อย่างเต็มที่เพราะเขาเป็นพลซุ่มยิงสไนเปอร์ที่เก่งที่สุดและเป็นที่มีความคนอดทนสูงที่สุดดังนั้นเขาจึงสามารถควบคุมอารมณ์และสมาธิได้อย่างดี ในสมัยก่อนปู่ของม่อหลงสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับม่อหลงก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการเห็นสำนักม่อจื๊อถูกทำลายและถ้าหากม่อหลงต้องการที่จะแก้แค้นหรือเผชิญหน้ากับใครเขาก็จำเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งให้ได้
“ท่านปู่แค่ไม่ต้องการให้สาวกหมิงม่อกับสาวกอันม่อฆ่าฟันกันเองดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะยอมเพราะเขาไม่อยากเห็นเหล่าลูกศิษย์ต้องมาต่อสู้กันเอง..ซึ่งทั้งหมดมันก็เป็นแค่ความแค้นส่วนตัวและมันไม่เกี่ยวกับสาวกคนอื่นๆเลย” ม่อหลงพูดต่อ “เพราะงั้นถ้าคุณไม่ยอมล่ะก็มันจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายไปข้าง!”
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองม่อหลงด้วยความประหลาดใจเพราะตู้ฟู่เหว่ยเป็นปรมาจารย์ในโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณและเขาก็ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จีนโบราณมาเป็นเวลานานดังนั้นเขาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าม่อหลงจะได้รับการฝึกสอนจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนควบคู่ไปกับคัมภีร์ลับของผู้สืบทอดก็ตามแต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังไม่เพียงพอและเป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อสู้กับตู้ฟู่เหว่ย
อย่างไรก็ตามในฐานะพี่น้องของม่อหลงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสนับสนุนเขาและเย่เชียนก็ชัดเจนมากว่าก่อนที่ม่อหลงจะตัดสินใจแบบนี้เขาก็ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วและไม่ว่าเหตุผลคืออะไรเย่เชียนก็จะสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่
ตู้ฟู่เหว่ยกหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและพูดว่า “แกน่ะเหรอ?..แกมีความสามารถมากพอที่จะสู้กับฉันได้งั้นเหรอ?..ฮ่าๆ..แกอยากตายขนาดนั้นเลยเหรอ?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน