เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 1036

ตอนที่ 1036 หน่วยหมาป่าเงา

……….

คนที่มีความทะเยอทะยานมักจะเกิดจากความต่ำต้อยและความโลภของมนุษย์และเมื่ออยู่ในตำแหน่งที่สูงเป็นเวลานานพวกเขาก็มักจะลืมตัวตนของตัวเองไป

ในตอนแรกเย่เชียนเห็นว่าโจ่วหยวนเป็นคนที่ฉลาดมากและเป็นชายหนุ่มที่สมควรได้รับการฝึกฝน ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะให้โอกาสโจ่วหยวน อย่างไรก็ตามในแผนของเย่เชียนนั้นโจวหยวนจะเป็นผู้รับผิดชอบสิ่งต่างๆในเซินเจิ้นเพราะเขาไม่ต้องการให้โจ่วหยวนทำอะไรยุ่งย่างจนเกินไป เพราะจริงๆแล้วเซินเจิ้นเป็นสถานที่ที่สำคัญมากและมันติดกับฮ่องกงและมาเก๊าซึ่งมีทรัพยากรที่สำคัญมากอยู่ละแวกนั้น

แต่ตอนนี้โจ่วหยวนได้ย่างก้าวเข้ามาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเขาซึ่งทำให้เย่เชียนไม่พอใจอย่างมาก เพราะที่แห่งนี้เป็นถิ่นของเหล่ามังกรซ่อนเขี้ยวและเสือซ่อนเล็บและมันอันตรายมาก สถานการณ์ในภาคตะวันตกเฉียงกำลังร้อนระอุดังนั้นการกระทำของโจ่วหยวนอาจจะทำลายสิ่งต่างๆที่ทำมาทั้งหมดในเซินเจิ้นถ้าเขาไม่ระวัง ด้วยเหตุนี้เย่เชียน จึงรู้สึกว่ามันจำเป็นที่จะต้องพบกับโจ่วหยวนแล้ว

ระหว่างทางเย่เชียนโทรหาแจ็คและถามเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ของโจ่วหยวนและแจ็คก็บอกความจริงด้วยว่าพฤติกรรมในปัจจุบันของโจ่วหยวนค่อนข้างที่จะล้ำเส้นไปหน่อยแต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่ไม่สามารถรับได้ ดังนั้นแจ็คจึงไม่ได้บอกเย่เชียนแต่สั่งให้หน่วยข่าวกรองคอยสอดส่องทุกการเคลื่อนไหวของโจ่วหยวนเผื่อว่ามีอะไรผิดพลาด เรื่องนี้เย่เชียนจำเป็นต้องตำหนิแจ็คสองสามประโยคเพราะสิ่งเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆเพราะไม่งั้นมันจะทำให้อีกฝ่ายได้ใจ

หลังจากวางสายแล้วเย่เชียนก็หันไปมองม่อหลงแล้วพูดว่า “พี่ม่อหลงสิ่งที่พี่เพิ่งพูดไปมันเป็นความจริงหรือเปล่า?”

“มันเป็นความจริงแค่ครึ่งเดียว” ม่อหลงพูด “ปัญหาเกี่ยวกับวิธีการปกครองสำนักม่อจื๊อเพราะตอนนี้มันไม่ใช่สังคมศักดินาและยุคเผด็จการแล้วและสำนักม่อจื๊อจะต้องตามให้ทันกับการพัฒนาของสังคมในสมัยใหม่..เพราะงั้นเจ้าสำนักไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนจากตระกูลม่อ..ซึ่งหากทำแบบนั้นความสามารถของเจ้าสำนักก็จะลดลงเรื่อยๆ..ดังนั้นเราควรแต่งตั้งให้คนที่มีคุณธรรมและความสามารถที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับจิตวิญญาณของสาวกทุกคนได้จะดีกว่าทายาทของตระกูลม่อเหมือนที่ผ่านมา..ทำไมกลุ่มมาเฟียฝรั่งและต่างชาติถึงได้อยู่กันอย่างแน่นแฟ้นมานานหลายปีล่ะ?..นั่นก็เพราะว่าพวกเขาแต่งตั้งคนที่แข็งแกร่งที่สุดมาเป็นผู้นำ..ดังนั้นถ้าฉันอยากจะเป็นเจ้าสำนักและผู้นำที่ดีล่ะก็ฉันต้องปฏิรูปจากด้านนี้ซะก่อน”

เย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “สิ่งที่พี่พูดมานั้นก็สมเหตุสมผลแต่ผมไม่สนเรื่องพวกนี้หรอกเพราะหน้าที่ของผมคือการช่วยให้พี่ได้รับสิ่งที่ควรเป็นของพี่กลับคืนมา..ส่วนวิธีการจัดการนั้นก็แล้วแต่..ซึ่งชาฮัวเอียนนั้นจะทำอะไรเราก็ไม่รู้เลย”

“มันยอดเยี่ยมมาก” จินเหว่ยห่าวพูด

เย่เชียนและม่อหลงก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งเพราะคำว่า “ยอดเยี่ยมมาก” คืออะไร? เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็ถามว่า “แล้วคุณจินคิดว่าเขาจะทำอะไรกับตู้ฟู่เหว่ย?”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งจินเหว่ยห่าวก็พูดว่า “ผมไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรกับตู้ฟู่เหว่ยหรอกเพราะด้วยความฉลาดและความรอบคอบของเขาแล้วเขาจะไม่มีวันเดิมพันในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงแบบนี้เพราะถ้าเขาเดิมพันหมดหน้าตักล่ะก็ถ้าสิ่งต่างๆล้มเหลวมันจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเท่านั้น..เขาจะไม่โง่ขนาดนั้นและในความคิดของผมเขาเตรียมตัวเอาไว้ดีที่สุดแล้วและหลังจากที่พวกคุณเอาชนะตู้ฟู่เหว่ยได้เขาจะทำให้สำนักม่อจื๊อขัดแย้งภายในอย่างรวดเร็ว”

“คำพูดของคุณจินมีเหตุผล..บอสเราห้ามประมาทชาฮัวเอียนเด็ดขาดเพราะถึงแม้ว่าเราจะเอาชนะตู้ฟู่เหว่ยได้จริงๆถึงยังไงเราก็ต้องระวังเขาเอาไว้..ก่อนหน้านี้ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเขาและมันลึกมากและฉันเชื่อว่าเขามีความทะเยอทะยานอย่างมาก” ม่อหลงพูด “เขาซ่อนตัวจนได้เก่งมากเพราะงั้นคนแบบนี้แหละที่น่ากลัวที่สุด!”

เย่เชียนก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “เขามีแผนของเขาเพราะงั้นผมเองก็มีแผนของผมด้วย..แผนเดิมของเราก็ยังคงเหมือนเดิมและเราจะทำการตัดสินใจหลังจากเห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน..การได้ต่อสู้กับคนแบบนี้ผมชอบมากที่สุดเลย”

เย่เชียนก็ตกตะลึงเล็กน้อยและพูดว่า “อย่านะ..ผมเป็นผู้ชายเพราะงั้นอย่ามายุ่งกับผม..ผมชอบผู้หญิงผมไม่สนใจคุณหรอก”

เมื่อได้ยินแบบนั้นจินเหว่ยห่าวก็กลอกตาไปมาอย่างช่วยไม่ได้และรู้สึกว่าเย่เชียนนั้นน่าสนใจและดูเป็นมิตรมากขึ้นเรื่อยๆ

“บอส!..เราต้องระวังเกี่ยวกับเหมืองทองคำเพราะหวงฟู่ชิงเตี๋ยนได้เตือนพวกเราแล้วเพราะงั้นเราควรระวังให้มาก” ม่อหลงพูด

“ไม่เป็นไรหรอกผมรู้ว่าควรทำยังไง” เมื่อเสียงของเย่เชียนจบลงคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันกันทีและฝีเท้าของเขาก็หยุดลงพร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า “ออกมา”

เมื่อได้ยินแบบนั้นม่อหลงกับจินเหว่นห่าวก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งและเห็นร่างคนเดินออกมาจากความมืดทั้งสูงและเรียวมีผมสีส้มปนแดงปลิวว่อนเป็นลอนและดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษ “สวัสดีค่ะบอส “ผู้หญิงคนนั้นเดินออกมาแล้วเรียกเย่เชียนด้วยความเคารพ

“นี่คุณลืมตัวตนของคุณไปแล้วเหรอ?..คุณถึงกล้าสะกดรอยตามผมมาอย่างลับๆแบบนี้” เย่เชียนพูดอย่างเย็นชา

ผู้หญิงคนนั้นคุกเข่าลงและพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “ฉันไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกค่ะบอส..เคโกะแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของบอสเท่านั้น..ฉันจึงเดินตามหลังคุณเพื่อคอยปกป้องคุณ” คนที่มาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนากาซาวะเคโกะอดีตผู้นำองค์กรชาโด้ซากุระและตอนนี้เธอเป็นหัวหน้าหน่วยเงาหมาป่า

“ลุกขึ้นได้แล้ว” เย่เชียนพูด “ฉันไม่ต้องการการปกป้องจากคุณเพราะผมต้องเตรียมการสำหรับการทำสิ่งต่างๆและถ้าหากคุณตามผมมาอย่างลับๆโดยไม่ได้รับอนุญาตในอนาคตก็อย่ามาโทษที่ผมหยาบคายกับคุณก็แล้วกัน”

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน