ตอนที่ 1060 สถานการณ์ไม่สงบ (3)
…………….
ณ จุดนี้อู๋ชิงจะไม่ดำเนินการใดๆเพื่อช่วยหยานซื่อฉุยเด็ดขาดเพราะเขาไม่สามารถทนต่อผลที่ตามมาของการทำแบบนั้นได้ อย่างน้อยๆตอนนี้เขาก็สามารถปลอดภัยได้ชั่วคราวเพราะชาฮัวเอียนต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะขึ้นครองตำแหน่งเจ้าสำนักได้ ดังนั้นเขาก็ยังพอจะมีเวลาที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจนกว่าชาฮัวเอียนจะมาจัดการกับเขา
นอกจากนี้ตราบใดที่เขายังคงรักษาทัศนคติและการกระทำของเขาเอาไว้แบบนี้และละทิ้งอำนาจทั้งหมดในสำนักม่อจื๊อไปบางทีชาฮัวเอียนอาจจะมองข้ามและไม่ฆ่าเขาก็เป็นได้ หรือต่อให้หยานซื่อฉุยจะเป็นฝ่ายชนะในที่สุดแต่เขาก็เชื่ออย่างแน่นอนว่าด้วยอิทธิพลและความอาวุโสของเขาในสำนักม่อจื๊อนั้นหยานซื่อฉุยจะไม่กล้าทำอะไรเขาอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเขากับครอบครัวของเขาจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศและพวกเขาจะปลอดภัยในที่สุด
คำพูดของอู๋ชิงนั้นชัดเจนมากและแน่นอนว่าหยานซื่อฉุยไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาได้สนทนากับชาฮัวเอียน เมื่อได้ยินแบบนั้นหยานซื่อฉุยก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “อาจารย์อู๋มันคุ้มค่าจริงๆงั้นเหรอ..คุณคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลย?..ฉันเห็นเต็มๆสองตาเลยว่าชาฮัวเอียนเพิ่งจะไปจากที่นี่ได้ไม่นานใช่มั้ย?”
“ใช่ชาฮัวเอียนมาที่นี่และเขาก็ชักชวนให้ฉันช่วยสนับสนุนเขาแต่ฉันไม่เห็นด้วย” อู๋ชิงพูด “นั่นคือทั้งหมดที่ฉันทำได้เพราะงั้นเธอต้องการให้ฉันทำอะไรอีก?..ฉันไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องระหว่างพวกเอ็งสองคน..ฉันไม่ต้องการช่วยเหลือใครทั้งนั้น..ฉันแค่ต้องการหลีกทางและใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขเท่านั้นเอง”
“แล้วผู้อาวุโสอู๋เคยคิดเกี่ยวกับผลของการทำแบบนี้บ้างหรือเปล่า?..ถึงแม้ว่าคุณจะยืนกรานว่าคุณจะไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่ตอนนี้คุณกำลังช่วยเหลือชาฮัวเอียนอย่างชัดเจน..คุณดูมั่นใจมากว่าชาฮัวเอียนจะชนะเพราะงั้นถ้าหากเขาแพ้ล่ะ?..คุณจะสามารถแบกรับผลที่ตามมาของการพ่ายแพ้ของเขาได้หรือเปล่า?” หยานซื่อฉุยพูดอย่างดุเดือด
“หืม..เธอขู่ฉันงั้นเหรอ” อู๋ชิงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว ยังไงก็ตามเขาก็เป็นผู้อาวุโสของสำนักม่อจื๊อที่คอยติดตามตู้ฟู่เหว่ยเพื่อพิชิตสิ่งต่างๆในสมัยก่อนเพราะงั้นมันไม่ง่ายเลยที่เขาจะถูกคุกคามได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความแข็งแกร่งเหมือนในสมัยก่อนแต่เขาก็ไม่อนุญาตให้ใครมาดูถูกเหยียดหยามเขาง่ายๆแบบนี้อย่างแน่นอน โดยธรรมชาติแล้วเขารู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับการคุกคามที่โจ่งแจ้งที่หยานซื่อฉุยกำลังทำกับเขา “หยานซื่อฉุยเธอคิดผิดแล้ว..เธอกำลังต้อนให้ฉันจนมุมอยู่งั้นเหรอ?..ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอทำอะไรไปบ้าง?..ถ้าไม่ใช่เพราะท่านเจ้าสำนักที่คอยปกป้องเธอในทุกวิถีทางล่ะก็เธอคิดว่าเธอจะยังมีสถานะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้หรือเปล่า?..ถ้าเธอมีความสามารถจริงๆแล้วทำไมเธอถึงต้องกลัวชาฮัวเอียนด้วย?..แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องชัดเจนเพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเอ็งสองคนและไม่ว่าพวกเอ็งจะต่อสู้กันก็ตามแต่อย่างน้อยๆก็ต้องฝังศพและทำพิธีศพให้ท่านเจ้าสำนักก่อน”
หยานซื่อฉุยก็สูดลมหายใจเข้าด้วยความโกรธและยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสอู๋ฉันหวังว่าคุณจะไม่เสียใจกับสิ่งที่คุณทำในวันนี้” เมื่อเสียงนั้นจบลงหยานซื่อฉุยก็ออกจากบ้านพักของอู๋ชิงไปโดยไม่หันกลับมามอง
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของหยานซื่อฉุยแล้วอู๋ชิงก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วจุดบุหรี่สูบอย่างเงียบๆ ตามสถานการณ์วันนี้เขาทำให้หยานซื่อฉุยโกรธเคืองอย่างมาก หลังจากเงียบไปสักพักใหญ่ๆอู๋ชิงก็กดโทรออกและหลังจากอีกฝ่ายรับเขาก็พูดว่า “หูวจื้อ..ติดต่อฝั่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด่วน..ตอนนี้สำนักม่อจื๊อกำลังอยู่ในความโกลาหลและเราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป..เตรียมเอกสารเดินทางด้วยเพราะหลังจากสิ้นสุดพิธีงานศพของตู้ฟู่เหว่ยเราก็จะอพยพทันที!”
หลังจากพูดจบอู๋ชิงก็วางสายไปเพราะเรื่องนี้ก็พัฒนามาถึงจุดนี้แล้วและอู๋ชิงก็รู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่ไปก็ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะอยู่ได้อย่างมีความสุข เขาแก่แล้วและเขาก็ไม่อยากจะเสี่ยงในนาทีสุดท้ายเพราะมันไม่คุ้มเลยที่จะต้องทิ้งบั้นปลายชีวิตของเขาเอาไว้ที่นี่ ไม่อย่างนั้นเขาจะต่อสู้มาทั้งชีวิตเพื่ออะไร? เขาอยากเพลิดเพลินไปกับวัยชราของเขาในบั้นปลายชีวิต ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเข้าไปพัวพันกับเรื่องแบบนี้อีกเพราะเขาไม่อยากเอาชีวิตมาลงเอยด้วยการตายที่เลวร้ายในวัยชราแบบนี้
ทางด้านของชาฮัวเอียนเขาไม่ได้รีบร้อนที่จะดำเนินการใดๆเพียงแต่เขาได้เตรียมการเอาไว้ทั้งหมดแล้วและตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงแค่เขาจะได้เข้ารับตำแหน่งเจ้าสำนักม่อจื๊อเท่านั้นแต่ที่สำคัญกว่านั้นคือข้ออ้างและเหตุผลที่เขาจะครองตำแหน่งอย่างรุ่งโรจน์และสง่าผ่าเผย ซึ่งกุญแจสำคัญก็คือทำอย่างไรถึงจะดูชอบธรรมและไม่นองเลือดนั่นเอง นอกจากนี้ด้วยการสูญเสียน้อยที่สุดก็เป็นวิธีการที่ดีที่สุดและชาฮัวเอียนก็ไม่ได้โง่เพราะเขารู้ดีว่าหลังจากต่อสู้กับหยานซื่อฉุยแล้วเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้กับม่อหลงอีก ดังนั้นเขาต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากเพราะถึงแม้ว่าเงื่อนไขในการเจรจากับเย่เชียนจะดูเหมาะสมมากก็ตามแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร
หลังจากออกจากบ้านพักของอู๋ชิงแล้วชาฮัวเอียนก็รีบโทรหาโอ่วหยางหมิงซวนและขอให้เขาเตรียมกำลังคนเพื่อช่วยเขาในเมื่อใดก็ได้ที่เขาต้องการ ซึ่งโอ่วหยางหมิงซวนก็ตกลงอย่างง่ายดายเพราะเขากับชาฮัวเอียนรู้จักกันมาหลายปีแล้วและตอนนี้พวกเขายังร่วมมือกันในอุตสาหกรรมเหมืองแร่อีกและนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย โดยธรรมชาติโอ่วหยางหมิงซวนจึงไม่ต้องการให้ชาฮัวเอียนประสบปัญหาหรือเป็นอะไรไป นอกจากนี้หากชาฮัวเอียนประสบความสำเร็จในการยึดตำแหน่งเจ้าสำนักม่อจื๊อได้ล่ะก็อนาคตของตระกูลโอ่วหยาวก็จะรุ่งโรจน์ขึ้นเหมือนกัน เมื่อถึงเวลานั้นจะมีใครในภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่กล้าท้าทายพวกเขาอีก?
หลังจากโทรหาโอ่วหยาวหมิงซวนแล้วชาฮัวเอียนก็โทรหาเย่เชียนทันทีและหลังจากทักทายสักสองสามคำชาฮัวเอียนก็พูดว่า “คุณเย่ครับตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่อันตรายมากเพราะงั้นผมจึงต้องการให้คุณเย่ช่วยเหลือผมสักหน่อย”
“ถ้าคุณชามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลย..ตราบใดที่ผมสามารถช่วยได้ผมก็ยินดีช่วย” เย่เชียนฉีกยิ้มแล้วพูด
ชาฮัวเอียนตัดสินใจพูดแบบนั้นเพราะอย่างแรกเขาหวังว่าจะสามารถใช้หยานซื่อฉุยเพื่อทำให้เย่เชียนเสียเวลาและอย่างที่สองเขาหวังว่าเย่เชียนจะแสดงไพ่ตายที่แท้จริงของเขาออกมา หากเป็นแบบนั้นเขาจะได้มีความมั่นใจและเตรียมพร้อมมากขึ้นในอนาคต แต่ทว่าเย่เชียนเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไรเย่เชียนจะปล่อยให้ชาฮัวเอียนหลอกเขาได้ง่ายๆอย่างงั้นเหรอ?



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน