ตอนที่ 1066 พลิกแพลงสถานการณ์ (2)
…………….
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้เย่เชียนก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าเมื่อเขาเข้ามาครั้งแรกพฤติกรรมของเหล่าบอดี้การ์ดที่มีต่อเขานั้นถูกควบคุมโดยวาก้าโดยสิ้นเชิงเพราะวาก้าต้องการจะทำให้เขาหวาดกลัวอย่างชัดเจน เย่เชียนนั้นเกลียดคนอื่นที่จ่อปืนมาที่เขามากที่สุดและตอนนี้วาก้าก็ได้ทำสิ่งนั้นแล้ว ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการท้าทายที่สมบูรณ์และโจ่งแจ้ง
ไม่มีที่ว่างสำหรับการหลบหนีของทั้งสองและไม่ว่าเขาจะตายหรือมีชีวิตรอดได้นั่นก็ไม่สามารถกำหนดได้เลย อย่างไรก็ตาม วาก้ากล้าที่จะฆ่าเย่เชียนที่นี่จริงหรือ? เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่มีความกล้าหาญแบบนั้นเพราะเขารู้ดีว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร หลังจากการสังหารเย่เชียนแล้วด้วยอิทธิพลขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าในทวีปตะวันออกกลางแล้วไม่เพียงแต่วาก้าจะได้รับผลกระทบจากการตำหนิจากคนในประเทศดท่านั้นแต่จะต้องทนทุกข์กับการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและองค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่และกองกำลังอื่นๆอีกมากมายที่พร้อมจะถล่มประเทศซาอุดิอาระเบีย
เย่เชียนนั้นไม่เคยกลัวอะไรแบบนี้เลยไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าที่จะมาตั้งแต่แรก ซึ่งความกลัวตายของวาก้าเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้วาก้าไม่กล้าที่จะฆ่าเย่เชียน ไม่อย่างนั้นวาก้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาจะรอดชีวิตได้อย่างปลอดภัยหลังจากการลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าของสมาชิกเขี้ยวหมาป่า? เกรงว่าคงไม่มีใครในโลกใบนี้ที่ปลอดภัยได้ภายใต้การแก้แค้นขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เย่เชียนก็ยืนอยู่นิ่งๆโดยไม่ลดแรงกดดันโดยรอบเลยและในตอนนี้พลังปราณในร่างกายของเขาก็กำลังหมุนเวียนอย่างรวดเร็วและเย่เชียนก็ยังมีความรู้สึกที่ชัดเจนมากว่าเขาไม่สามารถหลบหนีไปจากที่นี่ได้เลย แต่เย่เชียนไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่าเพราะเขาเห็นภาพที่แวบเข้ามาในหัวของเขาว่าสามารถหยุดคนเหล่านี้ได้ก่อนที่พวกเขาจะเคลื่อนไหวใดๆซะอีก ตอนนี้เย่เชียนถือได้ว่าเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้โบราณที่แท้จริงแล้วและเกรงว่าจะมีอยู่เพียงไม่กี่คนที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นอย่างที่หยานตงพูดว่าเย่เชียนยังคงไม่สามารถใช้พลังที่อยู่ในร่างกายของเขาได้อย่างเต็มที่ก็ตามแต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนธรรมดาๆเหล่านี้เย่เชียนมีข้อได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด
สุดยอดศาสตร์แห่งศิลปะการต่อสู้มันคืออะไรกันแน่? สิ่งนี้ที่เย่เจิ้งหรานแสวงหามาโดยตลอดในช่วงชีวิตของเขาและมันสามารถตกทอดมาสู่เย่เชียนได้จริงหรือไม่?
ความรู้สึกนี้สบายตัวอย่างมากและความรู้สึกที่ควบคุมสิ่งต่างๆได้นั้นทำให้เย่เชียนจมอยู่กับมัน เป็นไปได้ไหมว่านี่คือความรู้สึกของความก้าวหน้าในการพัฒนา?
เมื่อเห็นแบบนั้นวาก้าก็ตกตะลึงอย่าวมากเพราะเมื่อมองดูสีหน้าของเย่เชียนแล้วไม่เพียงแต่เขาไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อยแต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสุขจนวาก้าอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งและจู่ๆเขาก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรงและไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ อันที่จริงแผนแรกของเขาคือใช้วิธีนี้เพื่อทำให้เย่เชียนกลัวเพื่อป้องกันไม่ให้เย่เชียนสร้างปัญหา เพราะตำแหน่งประธานาธิบดีอาจจะอยู่ได้อีกไม่กี่ปีดังนั้นวากาต้องคิดเกี่ยวกับครึ่งหลังของชีวิตและหาเงินโดยเร็วที่สุด นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดและเมื่อบริษัทบิลล์กรุ๊ปมาเสนอเงื่อนไขดีๆดังกล่าวให้เขาก็ตกลงโดยไม่ลังเลใดๆ
ไม่เคยมีความขัดแย้งระหว่างองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและเครือบิลล์กรุ๊ปมาก่อน แต่ครั้งนี้การกระทำของเครือบิลล์กรุ๊ปไม่ได้มุ่งเป้าไปที่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าอย่างโจ่งแจ้งและพวกเขาก็คำนึงถึงผลประโยชน์ต่างๆและไม่ได้สนใจองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเลย แน่นอนว่าเย่เชียนนั้นไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบและท้าทายเขาได้ง่ายๆดังนั้นเย่เชียนจึงต้องตอบโต้แต่จะเป็นอย่างไรต่อไปก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลย
วาก้าไม่มีความกล้าที่จะฆ่าเย่เชียนที่นี่ดังนั้นเขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆและระงับความกลัวที่เขารู้สึกได้จากเย่เชียนเอาไว้ในใจและโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องของพวกแกเพราะงั้นออกไปซะ!” คนพวกนั้นดูแปลกใจอย่างมากเพราะตอนแรกวาก้าเป็นคนส่งสัญญาณให้พวกเขาดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าวาก้าจะให้พวกเขาฆ่าเย่เชียนที่นี่ แต่ตอนนี้การกระทำของวาก้าทำให้พวกเขาสับสนแต่พวกเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะไม่มีสิทธิ์ที่จะพูด นอกจากนี้ในความเป็นจริงในใจของพวกเขาก็ไม่ต้องการทำแบบนี้เพราะพวกเขาชัดเจนมากว่าหากพวกเขาฆ่าเย่เชียนล่ะก็ไม่ช้าก็เร็วชีวิตของพวกเขาก็จะจบลงเช่นกัน
“จะเอายังไงต่อ?..ผมไปได้หรือยัง?..หรือจะให้ผมนั่งอยู่ที่นี่อีกสักพัก?” เย่เชียนพูด “ตราบใดที่ผมไม่กลับไปภายในหนึ่งชั่วโมงผมรับรองได้เลยว่าทำเนียบประธานาธิบดีจะกลายเป็นซากปรักหักพังอย่างแน่นอน”
เมื่อเย่เชียนข่มขู่แบบนี้วาก้าจะทำอะไรได้อีก? จากนั้นวาก้าก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ว่า “เย่เชียนผมคิดว่าคุณน่าจะรู้ตัวว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำนะ..ผมจะทำเป็นไม่สนใจเรื่องของวันนี้ก็แล้วกัน..แต่ถ้าคุณยังคิดที่จะทำอะไรต่อก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน”
เย่เชียนหันหลังกลับและเดินออกไปข้างนอกด้วยเสียงหัวเราะเบาๆที่ดูถูกเหยียดหยาม ส่วนจินเหว่ยห่าวก็ยักไหล่เล็กน้อยแล้วเดินตามไปอย่างรวดเร็วและเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะเมื่อครู่นี้เขาคิดว่าเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆ แต่การกระทำที่เย่อหยิ่งและมั่นใจของเย่เชียนทำให้จินเหว่ยห่าวตกใจอย่างมากเพราะภายใต้สถานการณ์แบบนี้เย่เชียนยังสามารถรักษาความสงบและสมาธิเอาไว้ได้ เป็นความจริงที่ว่ามีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำแบบนี้ได้และยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนเผชิญหน้ากับประธานาธิบดีของประเทศหนึ่งและข่มขู่เขาจากนั้นก็เดินออกมาจากทำเนียบประธานาธิบดีได้เหมือนสวนหลังบ้านของเขาเอง ทั้งหมดนี้เย่เชียนต้องชื่นชมความกล้าหาญของเย่เชียนอย่างมาก
หลังจากออกจากทำเนียบประธานาธิบดีแล้วเย่เชียนก็เห็นเล้งยี่ยืนรออยู่ไกลๆและเขาดูกังวลอย่างมาก เมื่อเล้งยี่เห็นเย่เชียนออกมาเขาก็รีบเข้าไปถามว่า “บอสเป็นยังไงบ้าง?..มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
เย่เชียนส่ายหัวและพูดว่า “ไม่มีอะไรผิดปกติ..เขาแค่ต้องการท้าทายฉัน..เอาล่ะกลับกันก่อนเถอะ” เมื่อพูดจบเย่เชียนก็เข้าไปในรถและเล้งยี่ก็สตาร์ทรถแล้วขับออกจากทำเนียบประธานาธิบดีอย่างรวดเร็ว
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วแน่นเพราะการพบกับวาก้าทำให้เย่เชียนไม่พอใจอย่างมาก รายได้ต่อปีขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าในประเทศซาอุดิอาระเบียนั้นสูงมากและเย่เชียนก็จะไม่ยอมปล่อยไปอย่างง่ายๆแน่นอน อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุดเพราะเหตุผลหลักๆคือเขาไม่สามารถแพ้ให้กับเครือบิลล์กรุ๊ปได้เพราะบิลล์กรุ๊ปกำลังขโมยรายได้ขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าไปดังนั้นเขี้ยวหมาป่าจะอยู่รอดในทวีปตะวันออกกลางได้อย่างไรในอนาคต? ที่สำคัญกว่านั้นคือทวีปตะวันออกกลางมีแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเป้าหมายของเย่เชียน การควบคุมสิ่งเหล่านี้จะทำให้การพัฒนาขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ามีเสถียรภาพมากขึ้น
“บอสเป็นยังไงบ้าง?” เมื่อเห็นการแสดงออกของเย่เชียนแล้วเล้งยี่ก็เดาว่าผลที่ออกมาจะต้องไม่ดีอย่างแน่นอนแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน