เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 110

ขณะที่พวกเขาทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่อย่างออกรสนั้น ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงหน้าศาลาเซียงเฟย

หลังจากที่เย่เชียนกล่าวร่ำลาจีเมิงฉิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็เปิดประตูรถและลงจากรถไป จีเมิงฉิงไม่ลืมที่จะขอร้องให้เย่เชียนมาร่วมงานวันเกิดของเบ็งเบ็งอีกครั้งอย่างคาดหวัง ซึ่งเย่เชียนก็พยักหน้าและบอกว่าเขาจะไปอย่างแน่นอน

ที่ชั้นสองของศาลาเซียงเฟยเป็นโรงน้ำชาที่มีการตกแต่งสไตล์โบราณอันสวยงาม เย่เชียนรีบตรงไปที่นั่นทันที

หลังจากลงมาจากรถของจีเมิงฉิง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงอย่างประหม่า เพราะครั้งนี้นั้นเป็นการพบกันครั้งแรกของพวกเขา ถ้าจะบอกว่าเขาไม่ประหม่ามันก็คงจะเป็นเรื่องโกหก โชคดีจริง ๆ ที่เขาเป็นคนมีจิตใจแข็งแกร่ง เมื่อเขาเข้าไปในโรงน้ำชาที่ชั้นสองแล้ว หัวใจของเขาก็ค่อย ๆ สงบลง

มีผู้คนนั่งอยู่ไม่มากนักในโรงน้ำชาแห่งนี้ เย่เชียนกวาดสายตามองไปทั่วห้อง จนกระทั่งเห็นผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งตัวตรงอยู่ริมหน้าต่าง เธอสวมชุดสูทนักธุรกิจและรองเท้าส้นสูงสีดำ ผมของเธอเกล้าม้วนเป็นมวยแบบดั้งเดิมตามแบบฉบับของผู้หญิงวัยกลางคนที่ประณีตและมีความงดงามแบบธรรมชาติที่เขาไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

เธอคีบบุหรี่ไว้ระหว่างนิ้วของเธอ ส่วนมือขวาของเธอนั้นถูกวางไว้ที่ขาซ้ายของเธอเองอย่างสุภาพเรียบร้อย ข้างหน้าของเธอมีถ้วยน้ำชาที่มีไอน้ำร้อน ๆ พวยพุ่งขึ้นมา

เมื่อเย่เชียนมองดูเธอเผิน ๆ แล้ว เธอคนนี้ช่างมีความคล้ายคลึงกับหลินโรโร่วมากจริง ๆ ดูเหมือนว่าหลินโรโร่วจะได้รับมรดกแห่งความงามมาจากผู้หญิงคนนี้ไปเต็ม ๆ

เย่เชียนหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเธอ เพราะเขาไม่อาจเดาได้ว่าคนที่อาจจะเป็นว่าที่แม่ยายในอนาคตของเขาคนนี้นั้นจะมีนิสัยแบบไหน เขาจึงได้แต่นั่งลงฝั่งตรงข้ามเธออย่างสุภาพและทักทายเธอว่า “สวัสดีครับ… คุณป้า”

ซูเหม่ย จ้องมองไปที่เย่เชียนอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “เธออยากดื่มอะไรก็สั่งเอาเองเลย…”

เมื่อเผชิญหน้ากับความเย็นชาและความเฉยเมยของซูเหม่ย มันกลับทำให้อารมณ์ของเย่เชียนสงบลงอย่างน่าพิศวง เย่เชียนกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟมาที่โต๊ะแล้วพูดว่า “ผมขอเป็นชามังกรหลงจิ่งที่นึงครับ”

ตั้งแต่ที่เย่เชียนเข้ามานั้น ซูเหม่ยก็จงใจที่จะสร้างความกดดันให้เขา แต่ทว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ไม่ได้ดูมีความกังวลหรือประหม่าอะไรเลย ในทางกลับกัน มันดูเหมือนกับว่าเขาจะรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจเสียมากกว่า เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยอยู่ในใจ แต่เธอเองก็เป็นคนหนึ่งที่ได้เห็นโลกและผู้คนมาแล้วมากมาย มันจึงทำให้การแสดงออกทางสีหน้าของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้มากนัก

“เธอสูบบุหรี่หรือเปล่า ?” ซูเหม่ยถามในขณะที่ยื่นซองบุหรี่ให้เย่เชียน

เย่เชียนไม่ตอบ แต่ยื่นมือไปหยิบบุหรี่และจุดมันขึ้นมาสูบโดยไม่สนใจโลก ราวกับว่าเขากำลังอยู่ในโลกของตัวเองยังไงยังงั้น เขาไม่ใช่คนที่หยิ่งยโสหรืออะไร แต่บางครั้งเขาก็ชอบวางตัวในแบบของเขาเอง ซึ่งโดยรวมแล้วบุคลิกภาพแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรเลย อย่างน้อย ๆ เย่เชียนก็แสดงออกไปว่าเขาไม่ใช่พวกหน้าไหว้หลังหลอกแบบที่ผู้คนชอบเสแสร้งแกล้งทำกัน

เมื่อเย่เชียนได้เห็นซูเหม่ยใกล้ ๆ เขาก็ยิ่งคิดว่าหลินโรโร่วคล้ายกับแม่ของเธอมาก เพียงการพบเจอกันในเวลาสั้น ๆ นี้ เย่เชียนก็รู้สึกได้ในทันทีว่านอกเหนือไปจากรูปลักษณ์ที่หลินโรโร่วได้รับมาจากแม่ของเธอคนนี้แล้ว ส่วนที่เหลือทั้งอารมณ์และบุคลิกต่าง ๆ ระหว่างสองแม่ลูกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

หลินโรโร่วมีอุปนิสัยที่อ่อนหวานและอ่อนโยน ในขณะที่แม่ของเธอมีบุคลิกใกล้เคียงกับฉินหยู แต่จะต่างกันก็คือซูเหม่ยดูเยือกเย็นกว่าฉินหยูไปอีกหลายขุม

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน