ตอนที่ 1104 หมู่บ้านเมียว
………………..
หมู่บ้านเมียวตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองที่สำนักถังอยู่ห่างไป 20 กิโลเมตร ซึ่งมีภูเขาและแม่น้ำมากมายและมีต้นไม้มากมายหลายชนิดที่นี่ ตั้งแต่สมัยโบราณที่นี่มีตำนานเวทย์มนตร์ดำมากมายและพวกเขาก็เป็นทายาทของจือโหย่วหัวหน้าชนเผ่าจิวหลี่ในตำนานและพวกเขาทั้งหมดก็ภาคภูมิใจอย่างมาก
ตั้งแต่การรวมชาติของประเทศจีนชาวเมียวก็ค่อยๆถูกกัดกร่อนโดยชาวฮั่นและชาวเมียวจำนวนมากก็แทบจะดูไม่ต่างไปจากชาวฮั่นเลย พวกเขาเริ่มสนับสนุนศาสนาคริสต์และนิกายโรมันคาทอลิกและศาสนาพุทธและลัทธิเต๋าแต่พวกเขาก็ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมเอาไว้ พวกเขาเชื่อในภูติผีและเทพเจ้าและเชื่อในคาถามนต์ดำและรักษาพิธีกรรมดั้งเดิมที่สุดของการบูชาเทพและการบูชาโทเท็มและการบูชาบรรพบุรุษ พวกเขาเชื่อว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหรือวัตถุทางธรรมชาติบางอย่างมีเทพเจ้าหรือภูติผีสร้างเอ่ไว้ ซึ่งสำหรับพวกเขาไม่มีความแตกต่างระหว่างภูติผีกับเทพ โดยส่วนใหญ่ในทวีปตะวันตกภูติผีนั้นจะถือว่าเป็นวิญญาณและเครื่องมือที่ถูกทอดทิ้งและมักนำภัยพิบัติความเจ็บป่วยหรือความโชคร้ายมาสู่มนุษย์ ในขณะที่ชาวเมียวถือว่าภูตผีเป็นผู้พิทักษ์ราวกับเทพบางองค์ เช่น เทพภูเขา ภูติหุบเขา เทพแห่งท้องนภาและเทพแห่งวายุ เทพแห่งคงคา แทพแห่งพงไพร เทพสุริยัน เทพจันทรา ฯลฯ สำหรับภูติพิทักษ์และปีศาจร้ายนั้นก็เป็นหนึ่งในวิธีการเซ่นสังเวยของชาวเมียวที่แตกต่างกัน
พวกเขาเชื่อในศาสตร์คาถามนต์ดำและพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ในเผ่าก็ทำหน้าที่เป็นปรมาจารย์ด้วย ซึ่งประเพณีดังกล่าวได้รับการเก็บรักษาอนุรักษ์ไว้เป็นเวลาหลายพันปีและว่ากันว่าทุกคนที่นี่เก่งเรื่องการใช้คาถามนต์ดำทั้งชายและหญิงในด้านความรักเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายนอกใจ ซึ่งมันมักจะสร้างความเสน่หาให้กับอีกฝ่ายและใครที่ถูกมนต์ดำนี้เอาไว้จะทุกข์มากถ้าอยากจะนอกใจอีกฝ่ายและสุดท้ายก็ต้องกลับไปหาอีกฝ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าเปรียบเทียบสำนักถังที่ใช้ศาสตร์ด้านพิษได้ดีล่ะก็ชาวเมียวก็เก่งในการใช้แมลงมีพิษ ซึ่งแมลงที่ชาวเมียวใช้สามารถกลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังได้และพวกมันก็ยังสามารถเป็นอาวุธวิเศษสำหรับรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คนได้อีกด้วย ชาวเมียวจะเก่งในการใช้แมลงและมดและไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์หรือแมลง พวกเขาก็วิจัยมันมานานหลายปี เป็นเวลานานแล้วที่สำนักถังกับชาวเมียวต่างคนต่างอยู่และไม่ได้ติดต่อกันใดๆทั้งสิ้น
หมอผีมีสองประเภทที่ฝึกคาถามนต์ดำ ส่วนหนึ่งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นและอีกส่วนหนึ่งถูกฝึกสอนโดยหมอผีมนต์ดำและความแตกต่างระหว่างคาถาสายดำและคาถาสายขาว
เวทมนตร์คาถาสายขาวโดยทั่วไปจะเป็นคาถาที่คนทั่วไปจะสวดมนต์ขอแสงแดด,ฝน,ไล่ผีและปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายหรือกำจัดแมลง,หาสิ่งของ,เรียกวิญญาณและทำให้ผู้หญิงที่มีบุตรยากให้กำเนิดบุตรและทำให้ชายหญิงตกหลุมรัก ซึ่งเป็นคาถาชนิดหนึ่งที่มีเจตนาดีโดยส่วนใหญ่มีเป้าหมายสูงสุดในการรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คน
ส่วนเวทมนตร์คาถามนต์ดำส่วนใหญ่จะใช้เพื่อแก้แค้นหรือคุกคามผู้อื่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นคาถารักษาโรคและลงโทษความชั่วร้ายและต่อสู้กับสิ่งลี้ลับได้อีกด้วย คาถามนต์ดำส่วนใหญ่สามารถแบ่งออกเป็นสองแขนงและแขนงหนึ่งคือการอัญเชิญและควบคุมภูติผีและแขนงนี้มักจะพบได้บ่อยก อีกแขนงหนึ่งคือการปลุกวิญญาณและชุบชีวิตและทั้งสองฝ่ายก็มีความสัมพันธ์ที่แยกออกไม่ได้กับมนต์ดำต้องห้ามเพื่อให้ได้พลังเวทย์มนตร์ดำที่น่าสะพรึงกลัวและไม่ว่าจะเป็นแขนงไหนก็ตาม มันก็เป็นการดำรงอยู่ของชนเผ่าเมียวที่น่ารังเกียจแต่สิ่งนี้ก็ทำให้ชาวเมียวดูลึกลับและน่ากลัวยิ่งขึ้น
ทักษะที่แพร่หลายที่สุดในหมู่บ้านเมียวคือคาถาชนิดหนึ่งและนั่นได้แก่ พิษงู,พิษกบ พิษมด พิษหนอน มวยนกกระจอก มวยเต่า เป็นต้น ในอดีตพวกเขาเคยสู้กันเพื่อแย่งชิงอาหารและใช้สัตว์พิษเพื่อทำร้ายผู้อื่น ศาสตร์มนต์ดำดังกล่าวนั้นแค่ร่ายคาถามันก็จะบินไปหาคนที่พวกเขาต้องการจะใช้ด้วย แต่เรื่องการมีอยู่จริงนั้นก็ไม่มีใครรู้เพราะตำนานดังกล่าวมีความลึกลับอย่างมาก ซึ่งนั่นทำให้ชาวเมียวลึกลับและน่ากลัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจากที่เย่เชียนและคนอื่นๆออกจากสำนักถังไปพวกเขาไม่ได้พูดอะไรระหว่างทาง ทางถังเฉียงมีทัศนคติที่ไม่แยแสต่อเพราะถังยู่เซิงเป็นลูกชายของเขา ส่วนถังยู่เซิงนั้นเขามองเย่เชียนด้วยความเกลียดชังตลอดการเดินทางและดูเหมือนจะมองว่าเย่เชียนเป็นศัตรูตัวฉกาจ ทั้งหมดนี้เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเฉยเมยและไม่ใส่ใจมากเกินไปและเขามองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ไม่นานนักก็จะได้เห็นหมู่บ้านเมียวค่อยๆปรากฎขึ้นในป่าเขียวขจีและมีอาคารไม้มากมายและวิธีการสร้างก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างมาก อาคารราวบันไดไม้สวยงามโดยสูงสุดคืออาคารไม้สามชั้นและโดยทั่วไปแล้วชั้นแรกจะใช้เพื่อแก้ปัญหาความลาดชันและภูมิประเทศที่ไม่เรียบ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วที่ชั้นแรกจะมีของกระจุกกระจิกซ้อนกันหรือปศุสัตว์ถูกเก็บไว้ในกรง ส่วนชั้นที่สองเป็นบ้านที่อยู่อาสัญและชั้นสามก็เป็นยุ้งฉางหรือสวนดอกไม้เล็กๆเพื่อชมทิวทัศน์หรือเป็นสถานที่สำหรับหนุ่มสาวของชาวเมียว
หมู่บ้านไม่ใหญ่มากนักและดูเหมือนจะมีเพียงร้อยครัวเรือนเท่านั้น ผู้คนในหมู่บ้านเมียวไม่ได้สงสัยเกี่ยวกับรถที่ขับเข้ามาในหมู่บ้านอย่างกะทันหันแบบนี้เพราะหลายปีที่ผ่านมาผู้คนจำนวนมากมาที่นี่เพราะการสำรวจหรือชมทิวทัศน์และพวกเขาก็ยังได้รับความบันเทิงอย่างอบอุ่นเพื่อแลกกับรายได้ของนักท่องเที่ยวด้วย



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน