ตอนที่ 1105 ลังเลที่จะพูด
………………..
เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ที่อ่อนแอของหลัวสุ่ยแล้วเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างลับๆเพราะเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเชื่อจริงๆว่าพระธาตุจะฟื้นคืนชีพได้แต่เขาก็ยังคงมองดูความพยายามของหลัวสุ่ยอย่างไม่ลดละ ก่อนหน้านี้เย่เชียนได้แต่บอกว่าไม่เป็นไรแต่ตอนนี้เมื่อเห็นหลัวสุ่ยเจ็บปวดแล้วเย่เชียนก็เจ็บปวดเช่นกัน
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเย่เชียนก็พูดว่า “ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ชะตากรรมและเนื่องจากมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เพราะงั้นเราจึงต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับมันให้ได้..ฉันเชื่อว่าถึงแม้ว่าเธอจะล้มเหลวในการช่วยแม่ของเธอแต่ฉันคิดว่าแม่ของเธอจะเห็นสิ่งที่เธอพยายามมาทั้งหมดและเธอจะต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอน..ฉันคิดว่าแม่ของเธอไม่ต้องการเห็นเธอเป็นแบบนี้หรอก..เธอควรจะเป็นสาวน้อยไร้เดียงสาที่มีรอยยิ้มและมีความสุขตลอดทั้งวันสิ”
หลังจากหยุดชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “หลัวสุ่ยเธอบอกฉันทีได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเธอ?”
หลัวสุ่ยพยักหน้าอย่างหนักหน่วงและหยุดร้องไห้จากนั้นก็มองตรงไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “มีกลุ่มคนชาวเมียวที่อาศัยอยู่ใกล้หมู่บ้านเมียวของเรา..พวกเขาเชื่อในศาสตร์มนต์ดำและบ่อยครั้งที่พวกเขามักจะมาสร้างปัญหาให้หมู่บ้านของเรา..เมื่อตอนที่ฉันอายุได้ห้าขวบพวกหมอผีดำบุกเข้ามาในหมู่บ้านของเราและตอนนั้นพวกเราก็ไม่มีการป้องกันเลยและนั่นทำให้หมู่บ้านของเราประสบความสูญเสียอย่างร้ายแรง..ในขณะนั้นพ่อของฉันเขาก็ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านและมีเพียงแม่ของฉันเท่านั้นที่พาฉันไปซ่อนแต่หมอผีเหล่านั้นพบเราและใช้มนต์ดำที่ดุร้ายที่สุดกับเราและแม่ของฉันก็ปกป้องฉันจนถูกพวกหมอผีดูดวิญญาณไป..หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดพ่อของฉันและกลุ่มผู้ติดตามก็กลับมาและขับไล่หมอผีเหล่านั้นออกจากหมู่บ้านไป..ถึงแม้ว่าพ่อจะพยายามทุกวิถีทางที่ทำได้เขาก็เอาวิญญาณของแม่เพียงดวงเดียวกลับคืนมาไม่ได้และพ่อของฉันก็มองมาที่ฉันด้วยแววตาอาฆาตและฉันก็รู้ดีว่าตอนนั้นเขาต้องการจะฆ่าฉัน..หลังจากนั้นพ่อของฉันก็หาทางชุบชีวิตแม่ของฉันมานานหลายปีแต่มันก็ไม่ได้ผลเลยจนฉันไปอ่านเจอในตำราโบราณว่ามีพระบรมสารีริกธาตุที่สามารถฟื้นคืนชีพได้ดังนั้นฉันจึงไปที่เมืองเล็กๆของชาวไตแต่มันก็เป็นแค่เรื่องโกหกทั้งเพ” หลังจากพูดจบหลัวสุ่ยก็ตกลงไปในอ้อมแขนของเย่เชียนและร้องไห้เสียงดังอย่างอ่อนแอจนทำให้เย่เชียนรู้สึกเศร้าใจ
ความรักของพ่อเป็นเหมือนภูเขาและผู้ชายมักไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกอย่างไรแต่พวกเขาไม่ได้น้อยไปกว่าความรักในแบบแม่ของผู้หญิง ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่ได้คิดว่าพ่อของหลัวสุ่ยต้องการฆ่าหลัวสุ่ยจริงๆ จากนั้นเย่เชียนก็ถอนหายใจเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันออกจากบ้านตั้งแต่ยังเด็กและฉันก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อกับแม่ของฉันเลย..ฉันบอกตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนว่าต่อให้เจอพวกเขาในอนาคตฉันก็จำเขาไม่ได้อยู่ดี..แต่เมื่อฉันเห็นพวกเขาอีกครั้งในรอบยี่สิบกว่าปีและฉันก็รู้ข่าวว่าพ่อของฉันตายไปแล้วและหัวใจของฉันก็ยังคงเจ็บปวดอยู่..ฉันรู้ว่าพวกเขารักฉันเสมอและพ่อของเธอเองก็รักเธอเหมือนกับแม่ของเธอ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลัวสุ่ยก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เย่เชียนราวกับว่าเธอกำลังคิดเกี่ยวกับคำพูดของเย่เชียนอยู่และหลังจากผ่านไปนานเธอก็ถอนหายใจอย่างเงียบๆโดยไม่ได้พูดและหันมองออกไปข้างๆ
“อ๋อใช่หลัวสุ่ย..ฉันเพิ่งจะเดินผ่านโรงเรียนในหมู่บ้านของเธอโดยบังเอิญและเห็นรูปผู้หญิงบนผนังในห้องเรียน..นั่นใครเหรอ” เย่เชียนไม่ได้พูดชื่อฉินหยูโดยตรงเพราะเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉินหยูที่นี่
หลัวสุ่ยก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งและพูดว่า “พี่เย่กำลังพูดถึงพี่สาวหยูหรือเปล่า..เธอเป็นครูที่มาสอนในหมู่บ้านเมียวของเรา..ว่ากันว่าเธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยที่มีชื่อเสียงในเมืองเซี่ยงไฮ้..พี่สาวหยูเป็นคนดีมากเธอสอนหนังสือให้กับคนในหมู่บ้านของเราและไม่มีความเย่อหยิ่งเหมือนผู้คนในเมืองใหญ่ๆเลย..พี่สาวหยูเธอตั้งท้องตั้งแต่ก่อนมาที่นี่แต่เธอไม่รู้ตัวและต่อมา…” เมื่อพูดจบหลัวสุ่ยก็หยุดแล้วยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “อย่าไปพูดถึงเรื่องนั้นเลย..พี่เย่ทำไมถึงมาที่หมู่บ้านเมียวล่ะ..พี่มาหาฉันเหรอ?”
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉินหยูในหมู่บ้านเมียวจริงๆไม่อย่างนั้นหลัวสุ่ยจะไม่หยุดพูดไปแบบนี้ ดูเหมือนว่าเย่เชียนจำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องนี้แต่เนื่องจากหลัวสุ่ยไม่ต้องการที่จะพูดดังนั้นเย่เชียนก็เลยไม่อยากที่จะถามตอนนี้ เขาก็เลยเปลี่ยนหัวข้อในการสนทนาโดยพูดว่า “อ๋อฉันเกือบลืมไปเลยว่าตอนนี้พ่อของเธอกำลังตามหาเธออยู่”
หลัวสุ่ยก็เหลือบมองเย่เชียนอย่างว่างเปล่าเห็นได้ชัดว่าเธอไม่เข้าใจว่าเย่เชียนหมายถึงอะไร ดังนั้นเย่เชียนจึงพูดเพิ่มเติมว่า “ฉันมาที่นี่กับตระกูลถังและถังจิงหนานก็เป็นปู่ของฉัน..เธอจำเด็กผู้ชายที่ไล่ตามจีบเธอที่หมู่บ้านของชาวไตในวันนั้นได้มั้ย?..ปรากฏว่าเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันถังยู่ซินหลานชายของถังจิงหนานปู่ของฉัน”
“ฉันจำได้” “ถังยู่เซิงฉันเกลียดเขามาก..ฉันไม่คิดว่าเขาจะมายุ่งวุ่นวายกับฉันแบบนี้..ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับเขาที่นี่งั้นเหรอ?”
หลัวสุ่ยก็สั่นไปทั้งตัวแล้วพูดว่า “เป็นไปได้ยังไง?..เขาคิดอะไรของเขาอยู่..ฉันไม่เคยตกลงที่จะแต่งงานกับเขาอีกอย่างความสัมพันธ์ระหว่างหมู่บ้านเมียวของเรากับสำนักถังก็ไม่ค่อยดีนักเพราะงั้นพ่อของฉันจะไม่ยอมอย่างแน่นอน”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน