ตอนที่ 1125 ความอดทนครั้งสุดท้าย
………………..
หยานตงก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้เพราะคนหนุ่มสาวสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อนมากพวกเขาโลภและหยิ่งผยองมาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนหนุ่มสาวถึงเลือกเส้นทางเดินแบบนี้และมันง่ายจริงๆเหรอ?
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ทำให้เย่เชียนดูแตกต่างและพิเศษกว่าคนอื่นๆและนั่นทำให้หยานตงประทับในใจตัวของเย่เชียนมาก ยิ่งไปกว่านั้นมิตรภาพระหว่างหยานตงกับถังจิงหนานนั้นก็ไม่เลวและถือได้ว่าพวกเป็นเพื่อนสนิทกันเพราะหลังจากที่ถังจิงหนานโทรไปบอกเรื่องดังกล่าวหยานตงก็พาคนมาช่วยโดยไม่ลังเล เขานั้นผิดหวังกับคนหนุ่มสาวสมัยนี้มากจนรู้สึกเศร้าและขมขื่นเล็กน้อย หากเป็นแบบนี้เกรงว่าโลกศิลปะการต่อสู้โบราณในประเทศจีนจะตกต่ำลงอย่างแน่นอน
ความแข็งแกร่งของหยานตงในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณในประเทศจีนนั้นถือว่าอยู่จึดสูงสุดในขณะนี้และตอนนี้เขาได้ใช้วิชาลับประตูแปดด่านและเข้าสู่ด่านที่สี่แล้ว ดังนั้นภายใต้สถานการณ์แบบนี้ถ้าถังเฉียงสามารถหลบหนีไปได้มันก็เหมือนกับปาฏิหาริย์
ในอดีตโลกศิลปะการต่อสู้แบบโบราณไม่เคยมีสงครามเมื่อนานมาแล้วและในสมัยนั้นหมอผีมนต์ดำซวนหมิงนำเหล่าสาวกหมอผีเข้าโจมตีเหล่าตระกูลและสำนักต่างๆในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณและก่อสงครามครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งนำไปสู่การล้มตายของผู้คนมากมาย ดังนั้นหยานตงจึงเกลียดชังหมอผีมนต์ดำซวนหมิงอย่างมาก
อันที่จริงความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างนักรบโบราณกับหมอผีมนต์ดำอยู่ที่วิธีการฝึกฝนเพราะนักรบโบราณฝึกพลังปราณแต่เหล่าหมอผีและจอมขมังเวทย์จะเน้นไปที่กำลังกายและคาถาต่างๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ต้องพัฒนาและก้าวข้ามศักยภาพของร่างกายมนุษย์และจุดประสงค์ในการแสวงหาวิธีการแสวงหาความแข็งแกร่งก็เหมือนกันแต่วิธีการจะแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามต่างฝ่ายต่างความคิดและทั้งสองฝ่ายก็เห็นต่างกันดังนั้นหยานตงจึงไม่ได้มองว่าซวนหมิงนั้นแข็งแกร่งไปกว่าเขา
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ถังเฉียงยังเลือกที่จะพึ่งพาซวนหมิงและทรยศสำนักถังดังนั้นสำหรับหยานตงแล้วถังเฉียงได้หันหลังให้กับโลกศิลปะการต่อสู้โบราณทั้งหมดและเลือกที่จะเป็นศัตรูกับโลกศิลปะการต่อสู้ ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเหตุผลส่วนรวมหรือส่วนตัวถึงยังไงหยานตงก็จะไม่ยอมให้ถังเฉียงหนีไปได้อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นมันอาจจะมีคนรุ่นใหม่ที่ทำแบบนี้อีกในอนาคตก็เป็นได้
เมื่อเสียงจบลงร่างของหยานตงก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและโจมตีถังเฉียงด้วยฝ่ามือจนถังเฉียงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหันหลังกลับและใช้ฝ่ามือต้านทานฝ่ามือของหยานตง เพียงได้ยินเสียง “ปัง” ถังเฉียงก็กระเด็นขึ้นไปในอากาศและล้มลงกับพื้นอย่างแรง ฝ่ามือของหยานตงนั้นไม่ได้เบาและถึงแม้ว่าหยายตงจะยับยั้งพลังเอาไว้แล้วก็ตามแต่อาการบาดเจ็บของถังเฉียงก็ยังคงร้ายแรงจนกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
ในเวลานี้สาวกหมอผีมนต์ดำเกือบทั้งหมดถูกหยานตงกำจัดไปแล้วส่วนสาวกสำนักถังที่ติดตามถังเฉียงบางส่วนก็ตายและบาดเจ็บสาหัส ซึ่งคนที่เหลือทั้งหมดก็คุกเข่าลงและยอมจำนนต่อหยานตงทันที จากนั้นหยานตงก็เหลือบมองถังเฉียงและพูดว่า “บอกฉันมาซะว่าซวนหมิงมีแผนการอะไรอีก?”
“หืม..ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของท่านหมอผีมนต์ดำผู้ยิ่งใหญ่ซวนหมิงหมดแล้ว..เพราะงั้นตอนนี้ถึงแม้ว่าคุณจะชนะก็เถอะแต่มันก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ!” ถังเฉียงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “ตอนนี้หมู่บ้านเมียวคงเป็นทะเลเพลิงไปแล้วเพราะงั้นถังจิงหนานจะกลับมาได้งั้นเหรอ? ” จากนั้นเขาก็หันไปมองถังฮงแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ถังฮง..แกคิดว่าแกสามารถดูแลสำนักถังได้อย่างงั้นเหรอ?..แกมันไม่ใช่คนดีอย่างที่คนอื่นเขาคิดหรอก..ฉันรู้ว่าแกจ้องที่จะครอบครองสำนักถังมาตั้งนานแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้นถังฮงก็พูดว่า “ใช่!..ฉันอยากเป็นเจ้าสำนักถังคนต่อไปแต่อย่างน้อยๆฉันก็เหมาะสมมากกว่าแกและฉันก็ไม่ทรยศต่อบรรพบุรุษของฉัน..ฉันมีศักดิ์ศรีและความรับผิดชอบมากพอ”
“ศักดิ์ศรี..ความรับผิดชอบ?..หึ..ฉันเชื่อว่าผู้ชนะก็คือราชาที่แท้จริงส่วนคนที่แพ้ก็แค่คนโง่” ถังเฉียงพูด
หยานตงขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “เอาเถอะ..ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับคนแบบนี้หรอก..ถังฮงเอ็งจัดการเรื่องที่นี่ต่อก็แล้วกันเพราะฉันต้องรีบไปที่หมู่บ้านเมียวเพื่อกำจัดซวนหมิงและมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะกำจัดเขา” หลังจากพูดจบหยานตงก็รีบบอกเหล่าสาวกของลัทธิมารและเดินออกไปทันที
เมื่อได้ยินแบบนั้นถังฮงก็สั่งให้ลูกศิษย์จับกุมถังเฉียงและสาวกที่ยอมจำนนเอาไว้และทันใดนั้นดูเหมือนว่าเขาจะจำอะไรบางอย่างได้และขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วตะโกนว่า “เฮ้ย!” เขานึกถึงลูกสาวของเขาถังยู่ซินเพราะก่อนที่จะเกิดความโกลาหลเขาก็ไม่เห็นถังยู่ซินเลยและจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าเธอจะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่ เมื่อคิดแบบนั้นเขาก็พาคนไปที่สวนหลังบ้านทันที
เกิดอะไรขึ้นที่ลานหน้าบ้านนั้นผู้คนที่อยู่ในสนามหลังบ้านแทบจะไม่รู้ตัวเลย เหล่าสาวกหมอผีมนต์ดำกับสาวกสำนักถังที่ติดตามถังเฉียงก็ไม่ทราบเลยว่าถังเฉียงถูกจับตัวเอาไว้แล้วในตอนนี้ ซึ่งพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับจินเหว่ยห่าวและถังยู่ซินจนจินเหว่ยห่าวเกิดแรงกดดันอย่างมหาศาล เขาต้องการปกป้องถังยู่ซินและเขาก็คงไม่สามารถทำมันได้ในเวลานี้ถ้าหากเขาไม่มีกำลังใจมากพอ ในตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่เพื่อปกป้องถังยู่ซินแล้วจินเหว่ยห่าวก็ยังคงอดทนและยืนหยัดเอาไว้
เมื่อมองไปที่ร่างที่มีบาดแผลเต็มตัวของจินเหว่ยห่าวแล้วถังยู่ซินก็ร้องไห้ออกมาและพยายามปกป้องจินเหว่ยห่าวจากเหล่าศัตรู
อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสองก็ถึงขึดจำกัดแล้วเพราะการเผชิญหน้ากับการโจมตีของสาวกหมอผีเจ็ดถึงแปดคนและสาวกสำนักถังจำนวนหนึ่งแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้ ในเวลานี้จินเหว่ยห่าวก็ยังแปลกใจที่ยังไม่มีใครมาช่วยกล่าวอีกนัยหนึ่งสถานการณ์โดยรวมจะต้องเลวร้ายอย่างมากดังนั้นเขาจึงต้องยืนหยัดให้ได้ จากนั้นร่างที่คุ้นเคยสองร่างก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาและภาพที่พวกเธอทั้งสองตายอยู่ในอ้อมแขนของเขาก็ผุดขึ้นมาดังนั้นหัวใจของจินเหว่ยห่าวจึงเจ็บปวดราวกับถูกมีดบาดและไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นและถึงแม้ว่าเขาจะต้องตายก็ตามเขาก็จะไม่ปล่อยให้โศกนาฏกรรมซ้ำรอยอีกครั้ง
ด้วยเสียงตะโกนจินเหว่ยห่าวก็รวบรวมกำลังทั้งหมดของเขาและต่อยสาวกหมอผีกระเด็นออกไปทีละคนและเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังปราณและเลือดในร่างกายของเขาที่เดือดผล่านซึ่งถือว่ารุนแรงอย่างมาก แต่ทว่าร่างกายของจินเหว่ยห่าวก็ไม่สามารถแบกรับพลังดังกล่าวได้จึงทำให้เขากระอักเลือดออกมา
“พี่จิน” ถังยู่ซินก็รีบเข้าไปพยุงจินเหว่ยห่าวทั้งน้ำตาและสะอึกสะอื้น


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน